เห็นทีก่อนที่นางกับเหยาซื่อจะมา เมิ่งอี๋เหนียงและเจียงชิงอวี้ผู้นี้คงเห็นว่าตนเองเป็นนายหญิงและคุณหนูที่เกิดจากภรรยาเอกของจวนแห่งนี้ไปแล้ว มิน่าเมื่อครู่ในตอนที่ซุนอี๋เหนียงและโจวอี๋เหนียงเผชิญหน้ากับเมิ่งอี๋เหนียงถึงมีท่าทีเคารพนบนอบ เจียงชิงอวี้เองก็มีท่าทีดูแคลนต่อเจียงชิงเซวียนและเจียงชิงอวิ๋นเป็นอย่างมากเช่นกัน
เหยาซื่อไม่อยากมีเรื่องวิวาทกับผู้อื่นตั้งแต่วันแรกที่มาถึง ด้วยกลัวว่าคนจะซุบซิบนินทา จึงจับมือเจียงชิงหว่านพลางเรียกนางเสียงเบา “หว่านวาน”
เจียงชิงหว่านกลับไม่กลัว
ตอนอยู่ในวังนางเคยเห็นสนมชายาที่ไม่เป็นที่โปรดปรานจำนวนมากถูกนางกำนัลขันทีรังแก มีชีวิตสู้สุนัขยังไม่ได้ นางกระจ่างแจ้งแก่ใจดีว่าเดิมทีเจียงเทียนโย่วก็ไม่ได้รู้สึกรักใคร่ผูกพันกับพวกนางสองแม่ลูกเสียเท่าไร หากนางกับเหยาซื่อยังแสดงท่าทางอ่อนแอปวกเปียกออกมาอีก เช่นนั้นถึงพวกนางจะได้ชื่อว่าเป็นนายหญิงและคุณหนูที่เกิดจากภรรยาเอกเพียงคนเดียวในจวน แต่วันหน้าก็ไม่แน่ว่าจะมีชีวิตที่ดี
ในเมื่อสวรรค์มอบโอกาสมีชีวิตให้นางอีกครั้ง นางก็อยากจะมีชีวิตให้ดี อีกอย่างตลอดทางมานี้เหยาซื่อก็ดีต่อนางมาก นางเองก็อยากจะปกป้องเหยาซื่อจากใจจริง
ดังนั้นเจียงชิงหว่านจึงไม่ถือสาที่จะอธิบายถึงความแตกต่างระหว่างชาติกำเนิดสายตรงและสายรองให้เจียงชิงอวี้ฟัง
เมื่อก่อนเมิ่งอี๋เหนียงไม่เคยสอนเรื่องเหล่านี้ให้เจียงชิงอวี้ก็ไม่เป็นไร บัดนี้นางสามารถช่วยสั่งสอนแทนเมิ่งอี๋เหนียงได้
ทว่าเมิ่งอี๋เหนียงเป็นคนฉลาด มองเห็นท่าไม่ดีก็รีบกล่าวยิ้มๆ ว่า “เป็นความเลินเล่อของผู้น้อย เห็นหนิงเกอร้องไห้ก็รีบแต่จะปลอบเขาจนลืมเรื่องที่นายหญิงและคุณหนูสามต้องพักผ่อนไป”
ตอนนี้พวกนางยังอยู่หน้าประตูเรือนซงเฮ่อ หากฮูหยินผู้เฒ่าเจียงรู้ถึงคำพูดของเจียงชิงอวี้เข้าคงมิแคล้วได้ต่อว่านางอีก
ในใจนายท่านให้ความสำคัญกับความกตัญญูอย่างมาก เมิ่งอี๋เหนียงไม่อาจปล่อยให้เจียงชิงอวี้ก่อเรื่องให้เจียงเทียนโย่วไม่พอใจได้อีก
นางจึงส่งเจียงฉางหนิงในอ้อมแขนให้แม่นมที่อยู่ข้างๆ อุ้ม ก่อนจะบอกให้รุ่ยเซียงลากตัวเจียงชิงอวี้กลับไป ส่วนตนก็ฉีกยิ้มกล่าวเชิญให้เหยาซื่อและเจียงชิงหว่านออกเดินด้วยเสียงนุ่มนวลแผ่วเบา
ภายนอกดูนอบน้อมยอมตาม ทว่าในใจก็ลอบรู้สึกตกใจ
เหยาซื่อไม่มีอะไรให้เป็นกังวล แต่คุณหนูสามผู้นี้กลับฉลาดมากเล่ห์ วันหน้าคงต้องระวังให้มาก
จะอย่างไรเหยาซื่อก็เป็นนายหญิงที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม เมื่อนางมิได้ออกปาก พวกซุนอี๋เหนียงและเจียงชิงเซวียนก็ไม่กล้ากลับไปในทันที ทุกคนจึงห้อมล้อมเหยาซื่อกับเจียงชิงหว่านเดินไปยังเรือนหลิวเซียงด้วยกัน
เดิมทีจวนหย่งชางป๋อเป็นที่พำนักของขุนนางผู้หนึ่งในราชวงศ์ก่อน ต่อมาถูกฮ่องเต้องค์ปัจจุบันพระราชทานให้เป็นที่อาศัยของเจียงเทียนโย่ว แม้สถานที่จะไม่ใหญ่นัก แต่ข้างในมีต้นไม้ใบหญ้างอกงามเขียวชอุ่ม ทิวทัศน์ไม่เลว ทุกก้าวที่เดินล้วนมีต้นไม้ดอกไม้ให้ชม
ครั้นมาถึงเรือนหลิวเซียงก็เห็นว่าเป็นเรือนคั่นสองด้านในย่อมเก็บกวาดไว้เรียบร้อยนานแล้ว