“สกรูไดรเวอร์เหมือนเดิมนะคะมาร์ค” ทาเอโกะก็สั่งเสียงหวานใช่ย่อย ชายหนุ่มรับคำด้วยเสียงทุ้มเบาแบบที่ชาคริยาฟังแล้วขนลุกตั้ง แต่สำหรับสาวๆ คงจะแสนรัญจวนหัวใจจนทำเอาตาปรอยไปตามๆ กัน บาร์เทนเดอร์หนุ่มหันมองลูกค้าคนสุดท้ายแล้วเลิกคิ้วเข้มเป็นเชิงถาม ไม่มีทีท่าแปลกใจ ประหม่า หรืออะไรเลย
ชาคริยายิ้มนิดๆ ที่มุมปาก ก่อนจะสั่งสิ่งที่ต้องการออกไป “เอาค็อกเทลอะไรก็ได้ ผสมให้หน่อยนะบาร์เทนเดอร์”
คำสุดท้ายย้ำเสียงหนัก เขาพยักหน้ารับคำ กำลังจะหันกลับไปจัดการผสมเครื่องดื่ม เสียงใสก็ร้องห้ามไว้เสียก่อน
“เดี๋ยวก่อน รู้แล้วเหรอว่าฉันอยากได้เครื่องดื่มรสอะไร”
มาร์คเก็บรอยผวาซ่อนไว้ในสีหน้าเรียบเฉยและมาดนุ่มๆ ได้เป็นอย่างดี
“เอารสออกหวานนำ แต่เปรี้ยวนิดๆ ที่ปลายลิ้น เค็มไม่เอานะ พวกที่มีเกลือเคลือบปากแก้วน่ะไม่ต้องเอามา ไม่ชอบเค็ม แล้วก็…ไม่เอาใบมิ้นต์หรือกลิ่นมิ้นต์นะ ไม่ชอบ อ้อ สี…ค็อกเทลต้องสีสวยๆ ขอสีฟ้าใสๆ เหมือนตาคุณนั่นล่ะ ทำได้…ใช่มั้ย”
หยอดเสียงหวานลงท้ายให้คนถูกสั่งได้เจ็บใจเล่น มาร์ครับคำก่อนจะหันกลับไประดมความคิดปรุงค็อกเทลตามความต้องการของคนเรื่องมาก ชาคริยากลั้นหัวเราะอย่างยากลำบาก
…ก็ช่วยไม่ได้ อยากทำเป็นไม่รู้จักกันทำไม พ่อซากุระดอกโต
มาร์คล้มตัวนอนแผ่บนเตียงกว้างมุมห้องอย่างหมดแรง งานพิเศษที่ทำวันนี้ทำไมถึงได้เหนื่อยกว่าทุกวันก็ไม่รู้ หากแล้วตัวต้นเหตุก็เหมือนกับจะวิ่งเข้ามาในห้วงคำนึงอย่างรวดเร็ว
…คนตัวบางๆ แต่ตาโต๊โต ผมสั้นยุ่งเหยิงคนนั้นนั่นแหละ…ชาคริยา…หรือนามิ…คลื่นเจ้าอารมณ์
หลังจากที่คิดจนหัวแทบจะปวดตายกับค็อกเทลแก้วแรกที่คุณเธอสั่ง แก้วที่สอง สาม สี่ และห้าก็ตามมาติดๆ พร้อมกับคำสั่งพิเศษแบบที่ทำเขามึนหัวตึ้บ
…ผู้หญิงใจร้าย
เขาลงความเห็นอย่างไม่มีข้อแย้ง ว่าแล้วก็พลิกตัวคว้าดินสอขึ้นมาลากเส้นลงไปบนกระดาษ วาดไปก็อดยิ้มไปไม่ได้ และเหมือนเดิม…ด้วยเวลาไม่นาน ภาพก็เห็นเป็นโครงร่างชัดเจน
…คนใจร้ายมีเขี้ยวโง้งตาปรือด้วยความเมา เพราะแก้วค็อกเทลหลายขนาดนอนกลิ้งอยู่ข้างๆ
เขาหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ดีดนิ้วใส่หน้าคนที่อยู่ในรูปเสียทีเป็นการระบายอารมณ์ ก่อนจะปิดเปลือกตาลงแล้วแทบจะหลับไปในทันที