บทที่ 4
มหาวิทยาลัยช่วงกลางเดือนสิงหาคมเงียบเหงา ด้วยว่าเป็นช่วงปิดเทอมบวกกับหยุดช่วงโอบงซึ่งเป็นเทศกาลกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดเพื่อไหว้บรรพบุรุษที่เสียชีวิตแล้ว ถ้าให้เทียบ…ก็คงคล้ายช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่เมืองไทยกระมัง ชาคริยาเดินออกมาจากตึกประจำแล็บด้วยอารมณ์เหงาๆ มองไปรอบด้านที่ร้างผู้คนก็ยิ่งทำอาการหงอยและเหงากำเริบหนัก เธอมองโทรศัพท์มือถือในมืออย่างชั่งใจ อยากโทรไปหาเพื่อนคุยแก้เหงา แต่ทั้งเพื่อนทั้งที่บ้านต่างถูกโทรไปก่อกวนเรียบร้อยจนครบหมดทุกคนแล้ว เธอเลยตัดใจหย่อนโทรศัพท์ลงกระเป๋าสะพายตามเดิม
เดินปล่อยอารมณ์เหมือนเดินจงกรมไปรอบๆ สวนหลังมหาวิทยาลัยอยู่หลายรอบ ก้มมองสบตาปลาคาร์พตัวยักษ์สีทองสีแดงสามสี่ตัวที่ว่ายวนอยู่ในแอ่งน้ำเล็กๆ ใกล้น้ำตกเทียมกลางสวนอยู่เนิ่นนาน ก่อนจะดึงสายตาขึ้นไปกวาดมองหาเหยื่อแก้เหงา พลันร่างสูงคุ้นตาของชายหนุ่มคนที่พักนี้โผล่มาให้เห็นบ่อยๆ ที่กำลังปั่นจักรยานอย่างช้าๆ สบายอารมณ์ออกมาจากที่จอดรถระหว่างอาคารในมหาวิทยาลัยก็ทำเธอยิ้มออก อารมณ์เหงาในหัวใจเหมือนจะถูกโยนทิ้งทะเล ร่างโปร่งบางรีบวิ่งตรงเข้าไปหาชายหนุ่มคนนั้นทันที
“ฮายาโตะ”
เสียงเรียกแจ้วๆ ที่ดังมาทำมาร์คนึกอยากจะมีประตูไปไหนก็ได้ของโดราเอมอน หาก…โดราเอมอนก็ยังคงอยู่แค่ในการ์ตูน และเขาก็ไม่ใช่โนบิตะ ชายหนุ่มจึงจอดจักรยานแล้วหันไปมองทางต้นเสียงด้วยดวงหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์ความรู้สึก แต่หญิงสาวจะรู้สึกตัวสักนิดก็หาไม่ เพราะหน้าใสบานแฉ่งด้วยรอยยิ้มกว้างจนเขาอดแปลกใจไม่ได้
…ดีใจอะไรนักหนาที่ได้เจอเขา
“จะกลับบ้านเหรอ”
…วันนี้มาแปลก พูดดีเสียงหวานเชียว
เขาคิดอย่างแปลกใจ แต่ก็ไม่ลืมที่จะตอบคำถามเธอ “ใช่ครับ กำลังจะกลับบ้าน ชาก็เหมือนกันหรือ กลับพร้อมกันมั้ยล่ะ” เขาชวนอย่างใจดีหรือพลั้งปากก็ไม่รู้ แต่นั่นยิ่งทำให้รอยยิ้มที่กว้างอยู่แล้วขยายกว้างออกไปอีก
“กลับ”
ว่าแล้วก็กระโดดขึ้นมานั่งที่ประจำ เขาเริ่มปั่นจักรยานต่อหลังจากที่เห็นว่าเธอนั่งเรียบร้อยดีแล้ว
“ฮายาโตะไม่กลับบ้านเกิดเหรอ ช่วงนี้โอบงนี่”
…อ่ะ แปลกอีกแล้ว วันนี้ชวนคุยดี
คิดอย่างฉงนใจก่อนจะตอบออกไปด้วยไม่กล้าทิ้งช่วงนาน เพราะกลัวถูกเหน็บ
“ไม่ครับ ค่าตั๋วเครื่องบินแพง”
“บ้านฮายาโตะอยู่ที่ไหนล่ะ”
“อยู่คุมาโมโตะครับ”
เขาตอบเรียบร้อย ยังไม่รู้อารมณ์เธอจะมาประมาณไหน แต่จากที่สังเกตดู…สงสัยวันนี้ทะเลสงบคลื่นเลยไม่ค่อยแรงเท่าไหร่
“คิวชูน่ะเหรอ โห มาไกลเลยเนอะ”
ไม่ต้องหันไปมอง ก็พอจะรู้ว่าตาโตๆ คงจะโตขึ้นอีกเป็นสองเท่าตามเสียงที่ตื่นเต้น