ฟ้าเริ่มมืดแล้วยามเมื่อชาคริยาลืมตาตื่นแล้วเดินโผเผขึ้นมายังห้องอาหารชั้นบน สามสาวนั่งล้อมวงมีซามูไรตาฟ้าเป็นไข่แดงอยู่ตรงกลาง ในขณะที่ไข่แดงฟองอื่นๆ นั่งตัวลีบอยู่ตามมุมห้องโดยปราศจากไข่ขาวล้อมรอบแม้สักนิด
“ชาจัง เป็นไงบ้าง” อาเคมิร้องทักขึ้นมาก่อน ทำให้เป้าสายตาของคนทั้งหมดเปลี่ยนมาจับจ้องที่หน้าของหญิงสาวชาวต่างชาติ ชาคริยายิ้มกว้างไม่เหลือร่องรอยเมาเรืออีกแล้ว อาจเป็นเพราะฤทธิ์ยาที่กินเข้าไปก่อนหลับตานอน หรืออาจเป็นเพราะทะเลที่เริ่มสงบไร้คลื่นลมก็เป็นได้
…ไม่ใช่เพราะเสียงหัวใจใครบางคน
เธอบอกกับตัวเองอย่างหนักแน่นยามที่เผลอมองสบตาสีสวยคู่นั้น ชาคริยาเมินไม่มองหน้าคมเข้มของไข่แดงฟองโตแล้วทรุดลงนั่งข้างๆ ไข่แดงฟองอื่น
“ดีขึ้นแล้ว นี่กินข้าวกันหมดแล้วเหรอ” เธอถามเสียงอ่อยๆ เพราะกลัวอดข้าวเย็น เนื่องด้วยเลยเวลาสำหรับอาหารเย็นไปนานแล้ว ทาเอโกะหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเลื่อนจานอาหารที่มีปลาซาบะทอดเคียงด้วยผักดองและสลัดผักมาให้
“ของชาจังเก็บไว้ให้แล้วไม่ต้องห่วงน้า ลงไปดูชาจังรอบหนึ่งแล้วล่ะ เห็นยังหลับสบายอยู่ก็เลยไม่ได้ปลุกให้ลุกมากินพร้อมกัน จะกินเลยหรือเปล่าชาจัง”
ชาคริยาพยักหน้ารับ หนึ่งสาวบรรจงดึงพลาสติกที่คลุมจานกับข้าวไว้ออก ส่วนอีกสาวตักข้าวใส่ถ้วยนำมาวางให้พร้อมตะเกียบ สาวคนสุดท้ายตักน้ำซุปหอยอาซาริที่รสชาติคล้ายๆ หอยลายเมืองไทยวางเคียง ชาคริยาเอ่ยขอบคุณเบาๆ ก่อนจะลงมือจัดการทันที โดยแกล้งทำเป็นไม่เห็นว่าไข่แดงท่ามกลางสาวๆ เลื่อนถ้วยน้ำชามาให้ด้วย
“อิตะดะคิมัส”
นั่งกินไปจนข้าวเกือบจะหมดถ้วย เธอถึงได้รับรู้ว่ามีสายตาหลายคู่มองจ้องอยู่ ชาคริยาจึงเงยหน้าขึ้นจากจานอาหารที่กำลังเมามันในรสชาติขึ้นมอง คนเฝ้ามองยิ้มแหยส่งมาให้เมื่อเห็นแววตาสงสัยของคนถูกจ้อง
“เห็นชาจังกินแล้วน่าอร่อยจัง” มาริโกะว่ามาเสียงอ่อยๆ
“ใช่ เห็นแล้วหิวขึ้นมาทันทีเลย” ทาเอโกะสนับสนุน ชาคริยาหัวเราะเบาๆ ก้มมองปลาซาบะย่างที่เหลือแต่วิญญาณ
“งั้นกินข้าวสิ ข้าวยังมี ซุปก็ยังมีอยู่ เดี๋ยวแบ่งผักดองให้ชิ้นหนึ่ง” แกล้งทำเสียงตัดใจกับหัวไช้เท้าดองสีเหลืองสดที่คีบออกวางห่างจานตัวเอง สองสาวขว้างค้อนส่งมาให้อย่างหมั่นไส้
“ไม่เอา พวกเราไม่ใช่พวกกินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนเหมือนชาจังนี่ ชาจังนี่ดีนะ กินตั้งเยอะแต่ไม่เห็นอ้วนเลย”
“ไม่เห็นดีเลย ทำไมกินตั้งเยอะถึงไม่อ้วนก็ไม่รู้ สงสัยพยาธิจะเยอะ” เธอว่าก่อนจะคีบข้าวคำสุดท้ายเข้าปากพร้อมๆ กับหัวไช้เท้าดองที่เมื่อกี้ทำท่าจะยกให้สองสาว แล้วตามด้วยยกถ้วยน้ำซุปขึ้นซดจนหมดเกลี้ยง
“โกจิโซซามะเดชิตะ”
ชาคริยาลุกยืนพร้อมกับยกจานชามเตรียมจะไปล้างในห้องครัว หากอาเคมิก็เรียกไว้ก่อน
“ชาจัง อีกประมาณชั่วโมงจะถึงสถานีเก็บตัวอย่างของมาร์คนะ”
ชาคริยาพยักหน้ารับแล้วก็ดันเผลอไปมองสบตาสีฟ้าสดนั่นเข้า เธอจึงแกล้งถลึงตาใส่เขาอย่างไร้เหตุผล
…ก็แค่หมั่นไส้น่ะ ไม่มีอะไรมากหรอก
(ติดตามต่อได้ในฉบับเต็มเดือน เมษายน 64)