คนอย่างเถิงอ๋องที่เงินทองอำนาจไม่ขาดมือและยังได้รับความไว้วางใจจากฮ่องเต้ ย่อมเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่ง
พอคิดถึงตรงนี้เสิ่นเจินก็นึกถึงสายตาที่ซู่หนิงป๋อมองนางเมื่อครู่ สายตาแบบนั้นจะเป็นสายตาของผู้อาวุโสมองเด็กรุ่นหลังได้อย่างไร นั่นเห็นได้ชัดว่าเป็นสายตาของชายผู้หนึ่งที่กำลังประเมินราคาหญิงสาว
ที่แท้นางมีค่าเพียงแค่แสดงความจริงใจในการประจบเถิงอ๋องเท่านั้น
ก่อนหน้านี้นางยังคิดว่าขอเพียงท่านอาเห็นแก่ความผูกพันแต่เดิม อย่างไรเสียก็จะช่วยเหลือทุกอย่าง แต่ความจริงพิสูจน์ได้ว่าที่พี่ใหญ่เคยกำชับนางไว้ไม่ผิดเลย
คำพูดของผู้อื่นเชื่อไม่ได้แม้แต่คำเดียว
เสิ่นหลันเห็นนางลังเลใจไม่ตอบรับ รู้ว่าหากบีบหนักเกินไปจะทำให้เสียเรื่องได้ง่าย จึงพูดเสียงอ่อนโยนขึ้นว่า “เจ้ายังไม่ต้องให้คำตอบอาในตอนนี้ ถ้ายังคิดไม่ได้ก็กลับไปคิดให้ละเอียดก่อนเถอะ”
ทางด้านนี้ยังพูดไม่ทันจบเสิ่นเจินก็ลุกขึ้นทันที นางหลบสายตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใยของท่านอา พูดทีละคำว่า “คำพูดที่ท่านอาพูดเมื่อครู่ เจินเอ๋อร์จะคิดว่าไม่เคยได้ยินมาก่อน วันนี้หลานมาโดยไม่ได้รับเชิญก็เป็นการรบกวนมากแล้ว ขอท่านอาอภัยด้วย”
พอพูดจบเสิ่นเจินก็หมุนตัวเดินจากไป
หลิวหมัวมัวกำลังจะเดินเข้าไปขวางไว้ เสิ่นหลันก็ส่งสายตาว่า ‘ปล่อยนางไป’ มาให้
ประตูปิดลง หลิวหมัวมัวพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นแฝงความหมายลึกซึ้ง “บ่าวคิดว่าคุณหนูสามถูกเลี้ยงดูอย่างสูงศักดิ์มาจนชิน ด้วยนิสัยของนาง ต่อให้เข้าจวนเถิงอ๋องแล้ว วันหน้าอาจจะไม่ยอมให้ฮูหยินใช้งานก็ได้เจ้าค่ะ”
เสิ่นหลันยกมือขึ้นนวดขมับ พูดอย่างเหยียดหยัน “เจ้าคิดว่าหญิงที่หอบพิณผีผาร้องเพลงที่ผิงคังฟางเหล่านั้นล้วนชอบเอาอกเอาใจชายหนุ่มมาแต่เกิดอย่างนั้นหรือ พูดถึงที่สุดแล้วก็ล้วนถูกบีบบังคับทั้งสิ้น บีบถึงขั้นย่อมรู้เองว่าการดิ้นรนตอนใกล้ตายนั้นไร้ประโยชน์ที่สุด”
พูดจบเสิ่นหลันก็หันหน้าไปทอดถอนใจทางนอกหน้าต่าง
หากไม่ใช่เพราะนางหมดหนทาง ใครจะยินดีตกเป็นขี้ปากชาวบ้านว่าแม้แต่หลานของตนเองยังคิดร้ายได้
เสิ่นเจินแม้จะไม่ใช่หลานสายตรงของนาง แต่อย่างไรเสียก็เป็นคนสกุลเสิ่น พอคิดถึงตรงนี้แล้วเสิ่นหลันก็กำหมัดแน่นในทันที
เซี่ยเฉิงเจ้าคนเลวผู้นี้ใจเหี้ยมจอมปลอม ร้ายขึ้นมาไร้ความปรานี หนึ่งเดือนมานี้เขาไม่เพียงยึดอำนาจการดูแลเรือนของนางไป ยังมอบอำนาจทั้งหมดให้กับเซิ่งอี๋เหนียงที่เขารักใคร่ ยิ่งไปกว่านั้นยังส่งเซี่ยเผิงบุตรชายผู้เดียวของนางไปที่เรือนของฮูหยินผู้เฒ่าอีกด้วย
ที่ว่าภัยพิบัติมาไม่ถึงบุตรสาวที่ออกเรือนเป็นเพียงคำพูดไร้สาระสิ้นดี
หากเสิ่นเจินไม่สามารถได้รับความโปรดปรานจากเถิงอ๋อง ช่วยให้เขาได้เลื่อนตำแหน่งในกรมพิธีการ เช่นนั้นชีวิตของนางกับเผิงเกอเอ๋อร์เกรงว่าคงจะลำบากยิ่งขึ้น
หวังว่าหลานสาวนางผู้นี้จะไม่ดื้อรั้นกำราบยาก ไม่เช่นนั้นจะโทษว่านางลงมือบีบบังคับไม่ได้
เสิ่นหลันพยักหน้าคำนวณเวลา กว่าครึ่งเดือนผ่านไปแล้ว คนของร้านแลกเงินสกุลจินคงจะมาทวงหนี้อีกครั้งแล้วกระมัง