เนื้อหาที่อัพเดตในกระทู้มีไม่มากแต่ก็ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมขึ้นได้ มีคนเห็นกระทู้อัพเดต ด้านล่างจึงมีคนมาแสดงความคิดเห็นไว้
‘สวรรค์! ในที่สุดเจ้าของกระทู้ก็มาอัพเดต ฉันซาบซึ้งใจจนน้ำตาจะไหลอยู่แล้ว!’
‘เกิดอะไรขึ้นน่ะ ฉ. ถูกทำร้ายเหรอ’
‘เรื่องนี้ต้องบอกต่อ…ฉ. คงไม่ได้โกรธเจ้าของกระทู้ใช่ไหม’
‘ฉันว่าความคิดเห็นข้างบนน่าจะมีปัญหาด้านการอ่านนะ คนเขาพูดอยู่แล้วว่า ฉ. บาดเจ็บเพราะปกป้องเจ้าของกระทู้อ่ะ’
‘เจ้าของกระทู้! ผู้ชายที่ได้รับบาดเจ็บต้องการการเอาใจใส่ที่สุด! เจ้าของกระทู้รีบรุกเลย ถือโอกาสผลักให้ล้มเลย’
ลู่จยาเลื่อนดูหน้าจอเพื่ออ่านความคิดเห็นที่มีคนเขียนทิ้งไว้ มุมปากของเธอค่อยๆ ยกยิ้มขึ้นมา อ่านอยู่สักพักเธอก็วางโทรศัพท์ลงแล้วถอนหายใจยาว
“ถอนหายใจทำไม” เฉิงอี้เหิงเดินออกมาจากห้องครัว ในมือของเขาถือไข่ไก่อยู่ “ประคบที่ดวงตาสิ เดี๋ยวนะ รอแป๊บนึง”
เขาวางไข่ไก่ลงบนมือของลู่จยา ไข่ไก่ยังร้อนอยู่คงเพราะเพิ่งจะต้มสุกมา
เฉิงอี้เหิงหยิบโทรศัพท์ออกมา “คุณบาดเจ็บตรงไหนบ้าง ขอผมถ่ายรูปหน่อย”
“ถ่ายรูปทำไม” ลู่จยาถามด้วยความสงสัย
“เก็บไว้เป็นหลักฐาน” เฉิงอี้เหิงหาตำแหน่งที่จะถ่ายรูปได้แล้วก็พูดออกมาอย่างจริงจัง “แต่คุณไม่ต้องกังวลใจอะไรไปนะ ถึงคุณจะบาดเจ็บอยู่แต่ผมจะถ่ายคุณให้ดูสวย”
ประโยคนี้เรียกเสียงหัวเราะจากลู่จยาได้สำเร็จ ใบหน้าของลู่จยาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เธอยกไข่ต้มขึ้น โพสต์ให้เฉิงอี้เหิงถ่ายด้วยท่าทาง ‘แม้ฉันจะบาดเจ็บแต่ก็ยังเท่อยู่’
นอกจากดวงตาที่ถูกชกเพราะไม่ทันระวังตัวแล้วก็มีรอยถลอกที่เข่าข้างหนึ่งของลู่จยา หลังจากที่ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานแล้วเฉิงอี้เหิงก็หยิบกล่องยาออกมา เขาใช้แอลกอฮอล์ทำความสะอาดฆ่าเชื้อรอบๆ แผลก่อนจะทายาลงไป สัมผัสนี้ให้ความรู้สึกเย็นสบายและไม่เจ็บ
ในตอนที่ทายา เฉิงอี้เหิงอยู่ในท่ากึ่งคุกเข่าตรงหน้าลู่จยาทำให้เธอมองเห็นกระหม่อมของเขา ลู่จยาต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการบังคับไม่ให้ตัวเองเอามือวางลงไปแล้วลูบหัวของเขา
ท่านี้…เหมือนท่าขอแต่งงานเลยแฮะ ลู่จยาคิดในใจ
“เอ่อ…” ลู่จยากลืนน้ำลาย “เดี๋ยวฉันก็จะอาบน้ำแล้ว ทายาตอนนี้จะไม่เป็นอะไรใช่ไหม”
เฉิงอี้เหิงเงยหน้าขึ้นทันที แววตาของเขาเป็นประกายสว่างไสวส่องกระทบเข้ามาในดวงตาของลู่จยา เธอรู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออก
“เดี๋ยวผมจะใช้พลาสเตอร์กันน้ำแปะให้คุณเพราะแผลของคุณโดนน้ำไม่ได้ ตอนอาบน้ำก็ระวังหน่อยนะ”
“อื้ม” ลู่จยาพยักหน้าอย่างเชื่อฟังเหมือนกับเด็กอนุบาลที่นั่งรอคุณครูเอาลูกอมมาให้ เธอกลืนน้ำลายลงคอด้วยความตื่นเต้น
ในตอนที่เฉิงอี้เหิงปัดมือตัวเองก่อนจะลุกขึ้นแล้วพูดว่า ‘เรียบร้อย คุณไปอาบน้ำได้แล้ว’ ลู่จยาจึงได้ถามออกไปบ้าง “แล้วบาดแผลของคุณไม่ซีเรียสเหรอ ให้ฉันช่วยทำแผลก่อนไหม”
ตอนนั้นเองเฉิงอี้เหิงถึงได้รู้สึกตัว เขายกมือขึ้นแตะที่ริมฝีปากพร้อมส่งเสียงซี้ดออกมา
“ไม่เป็นไร อีกสักพักผมค่อยจัดการ คุณไปอาบน้ำเถอะ”
“อ้อ” ลู่จยาทำปากยื่นก่อนจะลุกขึ้นยืน เฉิงอี้เหิงเข้ามาพยุงเธอเดินเข้าไปส่งในห้องน้ำ
ห้องน้ำบ้านเฉิงอี้เหิงนั้นใหญ่มาก และเพื่อความสะดวกในการอาบน้ำของลู่จยาเขาถึงกับติดมือจับและวางเก้าอี้ตัวเล็กๆ ไว้ให้ที่ข้างอ่างอาบน้ำ นี่ถือว่าเป็นการดูแลผู้ป่วยในระยะสั้นๆ อย่างดีเยี่ยม
หลังจากลู่จยาเข้าไปอาบน้ำ เฉิงอี้เหิงก็เดินเข้าไปในห้องหนังสือแล้วเปิดคอมพิวเตอร์ขึ้นมาตามมาด้วยเปิดโปรแกรมไมโครซอฟท์เวิร์ดเพื่อเขียนรายงานอาการบาดเจ็บของตัวเองและรายการทรัพย์สินที่เสียหายในคืนนี้ลงไปในเอกสาร จากนั้นจึงเขียนจำนวนตัวเลขทั้งหมดลงไป ‘สามหมื่นแปดพันแปดร้อยแปดสิบแปดหยวน’
แค่มูลค่าความเสียหายของแว่นตาก็เกินครึ่งของยอดทั้งหมดแล้ว
พรุ่งนี้เขาจะพาลู่จยาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลด้วยกัน แล้วเอาค่าตรวจร่างกายของคู่เติมลงไปในเอกสารด้วย จากนั้นจะประทับตราส่วนตัวลงในเอกสารพร้อมส่งหนังสือบอกกล่าวทวงถาม*จากทนายความไปให้พวกวัยรุ่นที่ก่อเรื่องทั้งสามคน
ถ้าพวกวัยรุ่นนั่นยอมขอโทษลู่จยาแต่แรกเฉิงอี้เหิงก็จะไม่เอาเรื่อง แต่พวกนั้นกลับปากดี เมื่อเป็นเช่นนี้เขาก็จะใช้วิธีการของตัวเองสั่งสอนบรรดาวัยรุ่นพวกนั้นสักหน่อย