นางไม่ใช่หญิงที่ยอมพลีชีพเพื่อครองพรหมจรรย์ นางรู้จักปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม ถ้านางทะลุมิติมาและถูกลิขิตให้แต่งงานเป็นสามีภรรยากับต่งอ้าย นางก็จะไม่บ่นว่า จะจัดการงานการในเรือนอย่างดี ถึงแม้จะไม่มีความรักต่อกัน ขอเพียงสองคนดูแลกัน เคารพและให้เกียรติกัน ย่อมใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างสงบสุขได้
ทว่าเวลานี้คนเพียงคนเดียวที่สามารถปกป้องดูแลนาง บังลมบังฝนให้นางได้จากโลกนี้ไปแล้ว สิ่งที่ทิ้งไว้ให้นางกลับเป็นคำใส่ร้ายป้ายสี เวลานี้เลี่ยวจิ้งชูเข้าใจอย่างลึกซึ้ง แม้นางจะมีฐานะสูงส่งเป็นถึงสะใภ้ของจวนแห่งนี้ เป็นบุตรสาวภรรยาเอกของหัวหน้าสำนักศึกษาหลวง เป็นบัณฑิตหญิงผู้ยอดเยี่ยมแห่งยุคของเมืองหลวนเฉิง แต่ในเรือนลึกของจวนแห่งนี้ เพราะสามีของนางได้ตายไป นางจึงเป็นหญิงที่ไร้ที่พึ่งพาแล้ว
ยังดี ท่านน้าหลวนมารดาของร่างนี้อยู่ในจวน นางจะต้องหว่านล้อมให้ตนกลับไปครองความเป็นม่ายที่จวนหัวหน้าสำนักศึกษาหลวงให้ได้
ไม่ว่าอย่างไรจวนกั๋วกงแห่งนี้ก็อยู่ไม่ได้แล้ว!
เสียงพูดดังๆ เบาๆ บางครั้งก็แผ่วหายของลู่เซวียนคล้ายเพลงพร่ำรำพันบทหนึ่ง ดังแทรกผ่านม่านบางสลัวเลือนรางวนเวียนไปทั่วโถงด้านใน ฉับพลันนั้นคล้ายได้แปรเปลี่ยนไปเป็นบทเพลง ‘หงส์วอนรัก’ ที่มีท่วงทำนองอันงดงามอย่างมหัศจรรย์ แววตาของเลี่ยวจิ้งชูค่อยๆ ลึกล้ำขึ้นมา…
ดวงตาคู่นั้นต้องเป็นดวงตาของเขาแน่นอน เขามาหาข้าแล้ว ข้าจะผูกบุพเพในกาลก่อนกับเขาต่อไป!ลมหนาวหอบหนึ่งจู่โจมมา เลี่ยวจิ้งชูตัวสั่นสะท้านขึ้นมาทันที หันไปมองตะเกียงฉางหมิงตรงปลายเท้าต่งอ้ายที่ประเดี๋ยวมืดประเดี๋ยวสว่างตามจิตใต้สำนึก
ต่งอ้ายกำลังตำหนิข้าอยู่หรือ
ฟังเสียงฟู่ๆ ราวกับงูพ่นพิษนั่น เลี่ยวจิ้งชูหยักยกมุมปากจางๆ ยิ้มเยาะตนเอง
สามีร่างยังไม่ทันเย็น นางก็คิดเรื่องแต่งงานใหม่ในห้องโถงตั้งศพแล้ว นับแต่โบราณกาลจนถึงปัจจุบันไม่รู้ใช่มีนางเป็นคนแรกหรือไม่
แต่ถ้าไม่คิดถึงเรื่องเหล่านี้ นางยังจะทำสิ่งใดได้
เบื้องบนมีแม่สามีที่คิดจะวางยาพิษให้นางเป็นใบ้ เบื้องล่างมีน้องสามีที่ปากคมชอบเหน็บแนมอย่างเจ็บปวด บรรดาสะใภ้ด้วยกันแต่ละคนก็ดูลึกลับมีเลศนัยเข้าใจยาก ยังมีพี่สามีจอมเจ้าชู้ที่คอยจ้องนางตาเป็นมันอีกคน
ประตูคฤหาสน์หลังใหญ่ที่มืดทะมึนเช่นนี้ จะให้นางที่เป็นคนในสมัยปัจจุบันซึ่งไม่มีความรู้เรื่องขนบธรรมเนียมประเพณีในสมัยโบราณแม้แต่น้อย…มีชีวิตรอดอยู่ได้อย่างไร
ถ้าเป็นไปได้ นางก็ไม่อยากเป็นเช่นนั้น
ปารมิตา…ปารมิตา
ไม่ได้!
โอม มณีปัทเม ฮุม
ยังคงไม่ได้!
เอาใหม่ เซซามี! จงเปิด! เซซามี! จงเปิด
เช้าขึ้นมาเลี่ยวจิ้งชูก็ได้ลองท่องคาถาต่างๆ ที่นางเคยได้ยินได้ฟังมาเมื่อชาติก่อน ท่องจบแล้วจบเล่า แต่ยังคงอ่านหนังสือที่วางอยู่ตรงหน้าไม่ออกสักตัว พิณโบราณยิ่งไม่ต้องพูดถึง ค้นหาในความทรงจำอย่างละเอียดมาแล้วรอบหนึ่ง นางก็ยังคงเค้นแรงบันดาลใจไม่ออกแม้ครึ่งส่วน แต่งบทกวีออกมาไม่ได้สักประโยคเดียว
คาถาศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ สุดท้ายแล้วก็เป็นเพียงตำนานเล่าขานอย่างหนึ่งเท่านั้น!