ฝูหรงฉวยโอกาสกระซิบที่ข้างหูหลวนอวิ๋นชูหลายประโยค นางจึงโบกมือให้สาวใช้รุ่นเล็ก
“พ่อบ้านเฮ่อมีธุระอะไรหรือ”
“เรียนสะใภ้สี่ หลี่มามาส่งบรรดาเด็กสาวมาแล้วขอรับ รออยู่ที่เรือนจัดการงาน เชิญท่านไปเลือกด้วยตนเองขอรับ”
หลวนอวิ๋นชูมุมปากหยักโค้ง นางคาดเดาไม่ผิด เขามาเพราะเรื่องนี้
“ก็แค่เลือกสาวใช้ บอกหลี่มามาให้พาคนมาที่นี่ก็ได้” ไม่รอให้หลวนอวิ๋นชูเอ่ยปาก สี่หลันพูดเสียงใสออกมา “ให้สะใภ้สี่ต้องลำบากไปด้วยตนเองได้อย่างไร ข้าว่าพ่อบ้านเฮ่อเลอะเลือนแล้ว”
เรือนจัดการงานอยู่ไม่ใกล้กับเรือนลู่ย่วน ต้องอ้อมผ่านเรือนหลายหลังไม่พูดถึง ข้างในยังมีชายหญิงอยู่ปะปนกัน หลวนอวิ๋นชูที่เพิ่งเป็นม่ายจะไปสถานที่เช่นนั้นได้อย่างไร
ถูกคนพูดฉีกหน้าต่อหน้าธารกำนัล พ่อบ้านเฮ่อใบหน้าแดงก่ำ แต่เขาก็รู้สี่หลันเดิมเป็นคนข้างกายนายหญิงใหญ่ ไม่สะดวกจะกล่าวตำหนิ อ้ำอึ้งอยู่พักใหญ่จึงชี้แจงอย่างละเอียด ราวกับกลัวหลวนอวิ๋นชูจะฟังไม่เข้าใจ
“ตอนแรกบ่าวก็คิดเช่นนั้น เพียงแต่ครั้งนี้เรือนลู่ย่วนจะเปลี่ยนสาวใช้เกือบยี่สิบคน เพื่อสะดวกแก่การคัดเลือกของท่าน สะใภ้ใหญ่ได้สั่งกำชับเป็นพิเศษให้ส่งคนมามากหน่อย ปรากฏว่าเช้านี้หลี่มามาพาคนมาถึงสี่สิบกว่าคน แน่นขนัดไปทั้งห้อง พอสะใภ้ใหญ่เห็นก็บอกว่าคนจำนวนมากเพียงนี้ให้เดินผ่านลานเรือนมาไม่น่าดูไม่พูดถึง ยังจะถูกเรือนต่างๆ เที่ยวพูดพล่ามส่งเดช พูดต่อกันไปพูดต่อกันมาก็จะทำให้คนฟังแล้วไม่สบายใจ จึงให้บ่าวมาเชิญท่านด้วยตนเองขอรับ”
คนของเรือนลู่ย่วนต้องเปลี่ยนทั้งหมด?!
ลวี่จูสาวใช้รุ่นเล็กที่กำลังยกน้ำชาเข้ามาร่างสั่นเทา มีเสียง ‘เคร้ง’ ถาดเงินร่วงหล่นจากมือลงไปที่พื้น ชุดถ้วยชาประณีตงดงามชุดหนึ่งแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
ลวี่จูเนื้อตัวสั่นเป็นตะแกรงร่อนรำข้าว ตัวอ่อนเป็นดินเหนียวคุกเข่าอยู่ที่นั่น
คนอื่นๆ แต่ละคนเบิกตากว้างเป็นรูปปั้นดินเหนียว ลืมหายใจไปแล้ว
ในห้องโถงเงียบกริบลงทันที ได้ยินเพียงเสียงลวี่จูโขกศีรษะราวกับทุบกระเทียมดัง ‘ตึงๆๆ’
คนสี่สิบกว่าคนนับเป็นขบวนใหญ่ เดินแห่แหนในจวนเป็นขบวนสาวงาม ไม่ทำให้ผู้คนตื่นตะลึงก็แปลกแล้ว! มองผู้คนที่แข็งค้างเป็นรูปปั้นดินเหนียว หลวนอวิ๋นชูก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ
“ยังคงเป็นพี่สะใภ้ใหญ่ที่ละเอียดรอบคอบ ข้าคิดอะไรไม่ถี่ถ้วนพอ” แล้วหันไปทางลวี่จู “เจ้าลุกขึ้นเถิด เรียกคนมาเก็บกวาด”
สะใภ้สี่ถึงกับไม่ได้ให้ข้าชดใช้?
ลวี่จูลืมโขกศีรษะ เงยหน้าขึ้นมองหลวนอวิ๋นชูอย่างงงงัน
“สะใภ้สี่…” เห็นหลวนอวิ๋นชูจัดการเรื่องนี้เหมือนไม่มีอะไร พ่อบ้านเฮ่อกล่าวขึ้นว่า “ตามธรรมเนียมปฏิบัติของจวน บ่าวไพร่ทำของแตกต้องหักจากเงินรายเดือน ท่านว่า…”
นั่นเป็นชุดถ้วยชาที่ทำมาจากดินสีชาดชั้นหนึ่ง อย่างน้อยราคาก็หลายร้อยตำลึง ถ้าเป็นสะใภ้ใหญ่คงบันดาลโทสะไปแล้ว สะใภ้สี่ผู้นี้เป็นเพราะไม่รู้ธรรมเนียมปฏิบัติหรือไม่ใส่ใจเงินทอง ในใจพ่อบ้านเฮ่อประหลาดใจ เขาลอบประเมินสีหน้าหลวนอวิ๋นชู