“สะใภ้สามกล่าวได้ถูกต้อง” หลวนอวิ๋นชูยิ้มน้อยๆ “อี๋ไท่ห้าท่านไม่ต้องเป็นห่วง ตอนเด็กข้าเพียงอ่านหนังสือการแพทย์ไม่กี่เล่ม จำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าในหนังสือบอกไว้เช่นนี้ ท่านไม่สู้เชิญหมอมาตรวจให้ละเอียด อาการป่วยของคุณชายเจ็ดไม่อาจรักษาล่าช้า ถ้าหนอนโตกว่านี้ อีกหน่อยจะผูกเป็นปมอยู่ในท้อง คุณชายเจ็ดก็จะทุกข์ทรมานแล้ว”
เห็นหลวนอวิ๋นชูคล้อยตามคำพูดของนาง พานหมิ่นประหลาดใจและไม่ได้พูดอะไรอีก
“หนอนผูกเป็นปม?” ต่งฮว่าที่ไร้เดียงสาแหงนหน้าครุ่นคิด หน้าตาเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น “นั่นจะเป็นแบบใด ข้านึกภาพไม่ออกเลย”
“ผูกปมก็คือหนอนขดตัวเป็นก้อน หรือหลายตัวพันขดอยู่ด้วยกัน เกาะกันเป็นกลุ่มก้อน” หลวนอวิ๋นชูสีหน้าสงบอ่อนโยน ยกมือขึ้นกำเป็นหมัดเปรียบให้ดู “อืม ขนาดราวกำปั้น อุดอยู่ในลำไส้ เจ็บปวดยากจะทนไหว ถ้าหนอนเหยียดตัวออก ก้อนปมก็จะหายไป ความเจ็บปวดก็จะเบาลง จากนั้นก็จะปรากฏขึ้นอีก…พอเป็นเช่นนี้ ในท้องก็จะปรากฏก้อนปมขึ้นมาเป็นระยะ”
“แล้ว…น้องสาวเคยสังเกตหรือไม่” ซุนอี๋ไท่พลันนึกขึ้นมาได้ ถามอย่างเอาใจใส่ “ตอนคุณชายเจ็ดปวดท้อง มีก้อนปมหรือไม่”
ขอร้องล่ะ ก้อนปมที่นางพูดถึงจะปรากฏในวันหน้า ไม่ใช่ตอนนี้!
หลวนอวิ๋นชูรู้สึกไม่พอใจในคำพูดของซุนอี๋ไท่อย่างมาก ไม่รู้นางฟังไม่เข้าใจจริงหรือเจตนาบิดเบือน หันไปมองนางแวบหนึ่ง กลับไม่ได้พูดอะไร ในเมื่อผู้อื่นไม่เชื่อเจ้าพูดมากไปก็ไม่มีประโยชน์
จงอี๋ไท่ครุ่นคิดอย่างจริงจังแล้วสั่นศีรษะ
“ดูเหมือนไม่มี ถ้ามีข้าคงร้อนใจแต่แรกแล้ว ไหนเลยจะเชื่อคำพูดที่บอก ‘ร่างกายกำลังเติบโต’ ”
เห็นอยู่ว่าซุนอี๋ไท่ย้ายดอกทาบกิ่งเจตนาบิดเบือนคำพูดของหลวนอวิ๋นชู แต่ทุกคนต่างปิดปากแน่น มีคนมองเพดานห้อง มีคนมองพื้น แต่ไม่มีคนออกมาแก้ไข พานหมิ่นร้อง ‘เฮอะ’ ออกมาคำหนึ่งพลางเบ้ปาก หลวนอวิ๋นชูเพียงทำเป็นไม่เห็น นั่งอยู่ตรงนั้นอย่างเฉยเมย
พักนี้ต่งเหอปวดท้องบ่อยขึ้นทุกที จงอี๋ไท่นึกสงสัยคำบอกกล่าวที่ว่า ‘ร่างกายกำลังเติบโต’ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว สุภาษิตว่าไว้มีโรคก็เที่ยวหาหมอไปทั่ว ได้ยินหลวนอวิ๋นชูพูดมาเช่นนี้ จึงอยากจะขอให้นางช่วยรักษา แต่เห็นทุกคนต่างขัดขวาง ก็ไม่กล้ายืนกราน แต่เนื่องจากมีความคิดค้างคาอยู่ในใจ สีหน้าจึงเปลี่ยนเป็นหม่นหมองวิตกกังวล
ก่อนหน้านี้ก็เคยได้ยินมาว่าต่งเหอชอบปวดท้อง แต่จงอี๋ไท่ไม่ได้มารายงานอย่างเป็นทางการ นายหญิงใหญ่จึงเพียงทำเป็นไม่ได้ยิน บุตรชายของนางไม่อยู่แล้ว แล้วเพราะเหตุใดบุตรชายของผู้อื่นกลับสบายดี ต่งเหอผู้นั้นตายไปก็ดี เพียงแต่อย่าถูกหนอนพิษหรือถูกวางยาพิษอะไร ทำให้นางต้องถูกตำหนิว่าปกครองบ้านไม่เข้มงวด ควบคุมดูแลได้ไม่เหมาะสมก็พอ
นางมองหลวนอวิ๋นชูอย่างยากจะเข้าใจแวบหนึ่ง ในประตูคฤหาสน์ใหญ่หลังนี้ ถึงจะเป็นคุณชายที่ถือกำเนิดจากอนุก็สูงศักดิ์ยิ่ง ไม่สบายใช่ว่าใครก็สามารถตรวจรักษาได้ ยายิ่งไม่อาจใช้ส่งเดช เรื่องที่คนอื่นอยากจะหลบยังแทบไม่ทัน หลวนอวิ๋นชูกลับพุ่งเข้าใส่ ถ้าให้หลวนอวิ๋นชูสอดมือเข้ามาจริง เกิดต่งเหอเป็นอะไรไป แม้แต่นางก็ยากจะปัดความรับผิดชอบได้