เดิมคิดจะยั่วโมโหหลวนอวิ๋นชูให้ไล่ตนออกไปและถือโอกาสไปตามนายหญิงใหญ่มา คิดไม่ถึงว่านางกลับยิ้มแย้มและใช้วิธีไร้เหตุผลเช่นนี้ออกมา ซึ่งเขาก็ได้แต่มองตาปริบๆ โต้แย้งไม่ออก แผลงฤทธิ์ไม่ได้ พ่อบ้านเฮ่อคล้ายกินหวงเหลียน ลงไปครึ่งชั่ง ขมจนเหงื่อเย็นไหลชุ่ม สีหน้าเหลืองดุจเทียนไข
“คิดว่าสะใภ้สี่เข้าใจผิดแล้ว ที่บ่าวพูดไม่ใช่เรื่องนี้ เฉิงชิงเสวี่ยถูกสักหน้า…” เสียงของพ่อบ้านเฮ่อสิ้นไร้เรี่ยวแรงแล้ว “แต่ไรมาจวนเราซื้อบ่าวไพร่ ประการแรกก็คือวงศ์ตระกูลไม่มีจุดด่างพร้อย สะใภ้สี่โปรดใคร่ครวญให้รอบคอบ”
“อ้อ ที่แท้พ่อบ้านเฮ่อหมายถึงเรื่องนี้หรอกหรือ” หลวนอวิ๋นชูพลันตระหนักรู้ หันไปมองเฉิงชิงเสวี่ยแวบหนึ่ง “บิดาของนางเป็นพ่อค้าเกลือ ไม่นับว่าเป็นพวกลักเล็กขโมยน้อย ฐานะเช่นนี้ก็นับว่าไม่มีจุดด่างพร้อย”
พ่อบ้านเฮ่อมองประเมินเฉิงชิงเสวี่ยอีกครั้ง เด็กสาวผู้นี้ดูแล้วก็ไม่ใช่คนฉลาดเฉียบแหลมสักเท่าไร ที่แท้แล้วหลวนอวิ๋นชูชอบนางที่ตรงไหน บิดาของนางเป็นนักโทษประหารคนหนึ่ง ฐานะเช่นนี้ถ้านับว่าไร้จุดด่างพร้อย เช่นนั้นก็ไม่มีใครมีจุดด่างพร้อยแล้ว! ทว่าพูดในอีกแง่มุมหนึ่ง ลักลอบขนเกลือไปขายก็ไม่จัดว่าเป็นพวก ‘จี้ปล้นข่มขืน’ ตระกูล ‘ไม่มีจุดด่างพร้อย’ ที่พูดถึงในกลุ่มคนค้าทาสก็หมายถึงการ ‘จี้ปล้นข่มขืน’
หาไม่หลี่หวาก็คงไม่กล้าพาคนมาที่จวนกั๋วกงอย่างเปิดเผย
ใคร่ครวญอยู่พักใหญ่ก็หาทางโต้แย้งคำพูดของหลวนอวิ๋นชูไม่ได้จริงๆ พ่อบ้านเฮ่อสุขุมเยือกเย็นลงมา รู้ว่าใช้ไม้แข็งไม่ได้ จึงลดท่าทีแข็งกร้าวลง กล่าวเตือนด้วยความหวังดี
“ท่านพูดไม่ผิดแม้แต่น้อย ตามมุมมองของท่าน ฐานะของเฉิงชิงเสวี่ยยังนับว่าไร้จุดด่างพร้อย เพียงแต่…นักโทษของทางการ…ไม่อาจซื้อ”
“พ่อบ้านเฮ่อจะบอกว่า…” ดวงตางามช้อนขึ้นเล็กน้อย หลวนอวิ๋นชูใบหน้ามีแววฉงน “นักโทษของทางการในเมืองหลวนเฉิงไม่อนุญาตให้ซื้อขาย?”
“คนที่ไม่อาจซื้อขาย ข้าจะกล้าพามาที่จวนท่านหรือ” หลี่หวาร้องเสียงแหลมขึ้นมา “สะใภ้สี่อย่าพูดเช่นนี้เด็ดขาด แพร่งพรายออกไปเท่ากับทุบทำลายชื่อเสียงข้า” แล้วบอก “อีกอย่าง คนเหล่านี้ล้วนลงนามหนังสือสัญญากับทางการแล้ว จะทำอะไรคลุมเครือได้อย่างไร”
“…”
พ่อบ้านเฮ่อจนคำพูดไปทันที ในใจเกิดความรู้สึกสิ้นไร้เรี่ยวแรง
“ถ้าพูดเช่นนี้…ก็คือซื้อได้?”
หลวนอวิ๋นชูมองพ่อบ้านเฮ่ออย่างขอคำยืนยัน
“บ่าวไม่ได้บอกว่านักโทษของทางการไม่อนุญาตให้ซื้อขาย แต่บอกว่าจวนเราไม่อาจซื้อได้”
“พ่อบ้านเฮ่อจะบอกว่าในกฎหมายของแคว้นหลวนกำหนดไว้ จวนกั๋วกงไม่อาจซื้อนักโทษของทางการเช่นนั้นหรือ”
คำพูดประโยคเดียว พ่อบ้านเฮ่อเกือบเป็นลมหมดสติไป ในช่องอกคล้ายมีเส้นใยฝ้ายยัดอยู่เต็มไปหมด หายใจไม่ได้ ขืนพูดต่อไปเขาต้องกระอักโลหิตเป็นแน่
เห็นเขาไม่เอ่ยปาก หลวนอวิ๋นชูฉวยโอกาสถามขึ้น
“พ่อบ้านเฮ่อยังมีคำพูดอีกหรือไม่”
“สะใภ้สี่ยืนกรานจะซื้อ บ่าว…ไม่มีอะไรจะพูดขอรับ”
“เช่นนั้นเจ้าก็เห็นด้วยแล้ว”
ไม่พูดก็ถือว่าเจ้าเห็นชอบโดยปริยาย!