บทที่ 2
ไป๋จื่อย้อนคิดถึงแววตาเถิงอวี้อี้เมื่อครู่แล้ว นางลอบหวาดวิตกจนเหงื่อออกชุ่มมือ ดูจากนิสัยช่างเจ้าคิดเจ้าแค้นของคุณหนู น่ากลัวว่าจะต้องกลับไปคิดบัญชีกับบ่าวหญิงวัยกลางคนผู้นั้นภายหลังเป็นแน่
“คุณหนู ท่านรู้จักเจ้านายของบ่าวหญิงผู้นั้นหรือไม่เจ้าคะ”
เถิงอวี้อี้สั่งไป๋จื่อให้จุดโคมไฟ กล่าวตอบในใจว่า ไม่ใช่แค่รู้จัก สามเดือนหลังจากนี้ต้วนหนิงหย่วนคุณชายใหญ่จวนเจิ้นกั๋วกง จู่ๆ มาขอถอนหมั้นนางถึงจวน ก็เพราะต่งเอ้อร์เหนียงที่อยู่ในรถม้าคันนั้น
นางจำได้ว่าตอนนั้นผู้คนที่ได้ยินข่าวนี้ไม่มีใครไม่ประหลาดใจ บิดานางยิ่งโมโหเกรี้ยวกราด เจิ้นกั๋วกงก็ข่มกลั้นโทสะเอาไว้ไม่อยู่ มัดร่างบุตรชายพามาขอขมา แต่ต้วนหนิงหย่วนกลับดื้อรั้นเอาการ ยอมรับโทษเฆี่ยนตีเพื่อจะถอนหมั้นเสียดีกว่า
‘ถ้าหากท่านพ่อยังไม่คลายโทสะ จะเฆี่ยนอีกร้อยทีก็ยังได้ขอรับ’
ท่ามกลางสายฝนเทกระหน่ำลงมาไม่ยอมหยุดบุรุษหนุ่มสวมเสื้อหลันซานสีดำสนิทดุจน้ำหมึกคุกเข่าหลังเหยียดตรงอยู่ที่ลานบ้าน วางมาดขึงขังยอมตายดีกว่าหันหลังกลับ
เจิ้นกั๋วกงโกรธจัดจนควันออกหู แย่งแส้มาหมายจะลงโทษเฆี่ยนตีบุตรชายตนเอง
‘วันนี้ข้าจะเฆี่ยนเจ้าลูกไม่รักดีให้ตายคามือ!’
ยามนั้นบิดาของนางยืนมองเงียบๆ ด้วยสายตาเย็นชา จนกระทั่งเจิ้นกั๋วกงเฆี่ยนต้วนหนิงหย่วนอาการสาหัสปางตายถึงเอ่ยปาก ‘ถอนหมั้นโดยไร้สาเหตุ ความผิดไม่ได้อยู่ที่พวกข้า เจ้าเป็นฝ่ายผิดคำสัญญาก่อน อย่าได้คิดผลักไสความผิดมาให้อวี้เอ๋อร์ของข้า เรื่องนี้แพร่งพรายออกไปเมื่อใดจะต้องเกิดเสียงซุบซิบนินทากันไปทุกตรอกซอกซอยแน่ แต่หากข้าได้ยินคำว่าร้ายอวี้เอ๋อร์สักครึ่งคำ อย่าหาว่าเถิงเซ่าผู้นี้ลงมืออย่างไร้น้ำใจก็แล้วกัน!’
พอกล่าวจบบิดาของนางก็ฉีก ‘หนังสือหมั้นหมาย’ และ ‘หนังสือตอบรับการหมั้นหมาย’ เป็นชิ้นๆ ต่อหน้าธารกำนัล ก่อนจะขับไล่ต้วนหนิงหย่วนที่เหลือลมหายใจรวยรินออกไปจากจวน
แรกเริ่มเดิมทีเรื่องนี้เป็นที่ร่ำลือตามย่านร้านค้า ทุกคนต่างประหลาดใจที่ต้วนหนิงหย่วนทำเรื่องผิดคุณธรรมเช่นนี้ ทว่ายิ่งเวลาล่วงเลยผ่านพ้น ก็ค่อยๆ เกิดข่าวลืออีกอย่างกระจายออกไป
ต้วนหนิงหย่วนเป็นวิญญูชนผู้มีความพากเพียรที่ได้รับการยอมรับ เขาเต็มใจแบกรับชื่อเสียงฉาวโฉ่ไปทั่วหล้าเพื่อกระทำเรื่องเช่นนี้ จะต้องเป็นเพราะบุตรสาวของเถิงเซ่ามีความประพฤติเลวร้ายเป็นแน่
มีเสียงเล่าลือเล่าว่าคุณหนูผู้นี้ต่อหน้าลับหลังต่างกันราวกับคนละคน แม้มีรูปโฉมงดงามปานบุปผาแรกแย้ม ทว่านิสัยกลับเจ้าเล่ห์เพทุบายอย่างที่สุด
คำนินทาว่าร้ายนี้นับวันยิ่งดุเดือดรุนแรง ไม่นานนักก็ลอยมาเข้าหูเถิงเซ่า ชื่อเสียงของบุตรสาวสำคัญเหนืออื่นใด ภายหน้ายังจะมีผู้ใดกล้ามาสู่ขอกับสกุลเถิงเล่า
แต่เถิงเซ่ายังไม่ทันเร่งเดินทางจากเขตไหวหนานกลับมาลงมือด้วยตนเอง แม่ทัพน้อยต้วนก็ถูกคนจับได้ว่าลอบนัดพบกับต่งเอ้อร์เหนียง
ขณะนั้นเป็นช่วงการแข่งขันยิงธนูประจำฤดูใบไม้ร่วงครั้งหนึ่ง ผู้มาร่วมงานเลี้ยงเป็นขุนนางผู้ใหญ่ชั้นสูงแทบทั้งสิ้น สถานที่จัดการแข่งขันอยู่ที่อุทยานเล่อโหยว ละแวกใกล้เคียงมีวัดที่ถูกทิ้งร้างมานาน ไม่รู้มีผู้ใดเอ่ยถึงว่าในวัดมีดอกไม้หายากบานสะพรั่ง พริบตาเดียวก็ดึงดูดความสนใจทุกคนขึ้นมาได้
พวกเขาต่างมุ่งหน้าไปหาความสำราญชมทิวทัศน์ บังเอิญเห็นแม่ทัพน้อยต้วนกับคุณหนูรองบุตรสาวต่งหมิงฝู่นายอำเภอวั่นเหนียนลอบนัดพบกัน
ต่งเอ้อร์เหนียงแต่งกายในชุดบุรุษชาวหูเพื่อความสะดวกในการเดินทาง ทว่าอย่างไรก็อำพรางอากัปกิริยาอ่อนหวานนุ่มนวลไว้ไม่มิด
ต่งเอ้อร์เหนียงหยาดน้ำตาคลอหน่วย ต้วนหนิงหย่วนปลอบโยนด้วยน้ำเสียงอบอุ่นให้คลายกังวล พวกเขาสองคนนับว่ายังสงวนท่าที แต่ไม่ว่าใครก็มองเห็นถึงความรักและความเอาใจใส่ที่ต้วนหนิงหย่วนมีต่อต่งเอ้อร์เหนียง
เรื่องนี้เป็นชนวนให้เกิดความปั่นป่วนวุ่นวาย คนทั้งสองรักใคร่ผูกพันกันอย่างลึกซึ้ง เห็นได้ชัดว่าคบหากันมานานแล้ว แม่ทัพน้อยต้วนประพฤติตนเป็นที่น่ายกย่องชื่นชมของผู้คน ไม่น่าเชื่อว่าจะยอมทำลายสัญญาหมั้นหมายเพราะหลงรักสตรีนางอื่น
การคาดเดาอย่างไร้มารยาทเกี่ยวกับคุณหนูสกุลเถิงมากมายก่อนหน้านี้ แม่ทัพน้อยต้วนกลับไม่เคยพูดจาปกป้องเลยสักครั้งเดียว แม้จะมิเคยมีไมตรีจิต แต่อย่างไรก็เคยมีสัญญาหมั้นหมายระหว่างกัน เฝ้าห่วงหาเพียงนางผู้เป็นที่รัก ปล่อยให้ผู้อื่นนินทาว่าร้ายคุณหนูสกุลเถิง ช่างเย็นชาไร้น้ำใจเสียจริง
ข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วในเวลาอันรวดเร็ว บางคนรู้สึกรังเกียจการกระทำของต้วนหนิงหย่วน บางคนประณามต่งเอ้อร์เหนียงเป็นนางจิ้งจอกจอมยั่วยวน จวนเจิ้นกั๋วกงอับอายขายหน้าไม่เหลือชิ้นดี ฮูหยินเจิ้นกั๋วกงไม่ตำหนิบุตรชาย เพียงแค่ชิงชังต่งเอ้อร์เหนียง ยอมตายเสียดีกว่าปล่อยให้นางแต่งเข้าจวน
ค่ำคืนนั้นเถิงอวี้อี้เอนหลังอยู่บนเก้าอี้พับ ดื่มสุราสือต้งชุนในจอกใบเล็กอย่างสบายอารมณ์
ต้วนหนิงหย่วนอยากร่วมเรียงเคียงหมอนกับผู้ใดนางไม่สนใจเลยสักนิด แต่ทำให้นางพลอยเดือดร้อนไปด้วยเพราะความปรารถนาที่เห็นแก่ตัวของเขา จะรังแกกันมากเกินไปหรือไม่
ต้วนหนิงหย่วนเป็นคนที่ระมัดระวังรอบคอบอย่างยิ่ง ไม่รู้ว่านางต้องสิ้นเปลืองความคิดไปมากเท่าใดกว่าจะวางแผนการทั้งหมดนี้ได้ ในที่สุดก็ได้เห็นวันที่สองคนนี้ชื่อเสียงพังป่นปี้ นางจะไม่ดื่มให้สาแก่ใจได้เช่นไร