สาวใช้ผู้นี้ตกใจกลัวจนสติแตกไปแล้ว เถิงอวี้อี้ร้อนใจสุดจะทน นางแย่งโคมไฟจากไป๋จื่อ พอจะขยับลุกขึ้นด้านหลังก็มีเสียงของหนักร่วงกระแทกพื้นดังตึง จากนั้นได้ยินตวนฝูเค้นเสียงบอกว่า “คุณหนูระวังด้วย!”
ในสมองเถิงอวี้อี้ว่างเปล่ากะทันหัน ตวนฝูพลาดท่าได้อย่างไร
นางยังไม่ทันหันหน้ากลับไปก็มีกระแสลมแปลกประหลาดพัดวูบผ่านหลังศีรษะ อัดแน่นด้วยกลิ่นหอมของต้นไม้ใบหญ้า
หงหนูกับไป๋จื่อดวงตาเบิกกว้าง เจ้าสิ่งนั้นพุ่งเข้าใส่อย่างรวดเร็วฉับไว พวกนางสองคนไม่ทันผลักคุณหนูให้พ้นทาง ฝ่ามือของเงาดำก็ทาบลงบนไหล่เถิงอวี้อี้ ขอแค่ออกแรงเพียงนิดก็จะฉีกร่างของนางออกเป็นสองส่วน
เจ้าปีศาจโจมตีสำเร็จในคราวเดียว มันหัวเราะเสียงแปลกหูขึ้นมาเป็นท่วงทำนองนุ่มนวลเริงร่า คล้ายกับสตรีที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนเสียเหลือเกิน กว่าหงหนูกับไป๋จื่อจะรวบรวมความกล้าก้าวออกไปช่วยเหลือช่างแสนยากเย็น พอได้ยินเสียงหัวเราะน่าสยดสยองก็ต่างตกใจจนหมดสติล้มลงกับพื้น
ตวนฝูลุกขึ้นมาได้ก็แผดเสียงคำรามลั่น หากเจ้าตัวนี้รวบกรงเล็บใหญ่ยักษ์ คุณหนูไหนเลยจะรอดชีวิตไปได้
ชั่วพริบตานั้นเรี่ยวแรงกลับคืนมา แขนของเขาเดิมทีกระดูกหักไปแล้วแต่กลับฝืนกุมดาบไว้ให้มั่น ดันตนเองขึ้นมาจากพื้นแล้วกระโจนออกไปราวกับเหยี่ยว
กระบวนท่านี้เปี่ยมพละกำลังมหาศาลดุจเบิกขุนเขาแยกศิลา ต้องทำให้เจ้าตัวนั้นเนื้อหนังขาดวิ่นได้แน่ มีหรือจะล่วงรู้ว่าพอคมดาบฟันฉับลงไปราวกับฟันศิลาก้อนใหญ่ก็ไม่ปาน
เคร้ง เคร้ง เคร้ง
เกิดประกายไฟสีส้มแลบแปลบปลาบแต่กลับไม่ระคายเคืองมันเลยสักนิด
เจ้าปีศาจลำพองใจยิ่งนัก เสียงหัวเราะอ่อนหวานกว่าเดิมหลายส่วน ฟังดูแล้วใกล้เคียงกับเด็กสาวแรกรุ่นไร้เดียงสาอายุราวสิบห้าสิบหกปี ใต้กรงเล็บเหมือนมีเถาวัลย์งอกออกมาแล้วเลื้อยไปถึงซอกคอเถิงอวี้อี้อย่างช้าๆ
ตวนฝูอกสั่นขวัญแขวน ขณะกำลังยกไหล่ขึ้นพร้อมพุ่งปะทะ เสียงหัวเราะกังวานปานกระดิ่งเงินข้างใบหูกลับกลายเป็นเสียงกรีดร้องน่าเวทนาอย่างคาดไม่ถึง
เขามองเห็นเถิงอวี้อี้ถือกระบี่หยกมรกตเล่มหนึ่งจ้วงแทงกรงเล็บปีศาจที่เกาะตรงหัวไหล่ตนอย่างเดือดดาล
ทุกครั้งที่จ้วงแทงปีศาจตนนี้จะส่งเสียงร้องแปลกประหลาด เป็นเสียงโหยหวนบาดหูหาใดเปรียบ ท่าทางเจ็บปวดราวกับโดนควักหัวใจออกมา
ตวนฝูตะลึงงันจนลืมเก็บมือกลับมา เถิงอวี้อี้ลืมความหวาดกลัวไปหมดสิ้นนานแล้ว ก่อนมาที่นี่นางลองคิดดูไม่รู้กี่รอบ หากจับกุมคนร้ายที่สังหารญาติผู้พี่ได้จะสับคนผู้นั้นเป็นพันเป็นหมื่นชิ้น พอคิดว่าบางทีญาติผู้พี่ยังตกอยู่ในเงื้อมมือเจ้าปีศาจนี้นางยิ่งลงมืออย่างดุดันฉับไว
ในชาติก่อนหลังญาติผู้พี่จบชีวิตลงอย่างน่าอนาถท่านป้าก็ล้มป่วยเรื้อรังเพราะรับเรื่องสะเทือนใจอย่างรุนแรง ช่วงเวลาสั้นๆ เพียงครึ่งปีนางสูญเสียญาติสนิทที่สำคัญที่สุดถึงสองคนต่อเนื่องกัน ที่แท้เรื่องเลวร้ายทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะเจ้าปีศาจนี้ นางแทบอยากฉีกเนื้อมันกินเป็นอาหาร ถลกหนังมันมาห่มนอน
กระบี่แทงทะลุเนื้อหนังยังไม่สาแก่ใจ เถิงอวี้อี้เปล่งเสียงหัวเราะชวนขนลุกแล้วบิดปลายกระบี่หมุนเป็นวงไปมาบนหลังกรงเล็บของเจ้าปีศาจราวกับกำลังกวนน้ำปรุงรส
เสียงกรีดร้องของเจ้าปีศาจแหลมสูงขึ้นไปหลายเท่า ทว่าจนปัญญาจะขยับเขยื้อน เสียงของหนักพลันร่วงลงพื้นดังตุ้บอีกครั้ง เสียงสตรีโอดครวญด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นในความมืด
ในสมองเถิงอวี้อี้คล้ายมีสายพิณเส้นหนึ่งโดนดีดสั่นไหว
“พี่สาว! ญาติผู้พี่ของข้าเอง! เร็วเข้า ตวนฝู!”
ตวนฝูไม่รอให้มีคำสั่งลงมา ก็เล็งโอกาสไว้มั่นแล้วไถลตัวมาคว้าตู้ถิงหลันเข้าสู่อ้อมแขน กระโดดทะยานตัวไม่กี่ครั้งก็พานางออกห่างจากปลายเท้าปีศาจไปไกล
เถิงอวี้อี้หมายจะแทงซ้ำอีกครั้ง แต่ว่าชั่วขณะเผลอละความสนใจไปนั้นเอง จู่ๆ แรงกดตรงหัวไหล่ก็เบาหวิว เสียงกรีดร้องดังลั่นติดๆ กัน ปีศาจตนนั้นกระชากกรงเล็บตนเองจนขาดสะบั้น
ทันใดนั้นเลือดก็ไหลทะลักดั่งสายน้ำ กลิ่นเหม็นคาวลอยตลบอบอวลไปทั่วบริเวณ
เจ้าปีศาจร้องคร่ำครวญอย่างน่าเวทนาประหนึ่งสตรีที่หัวใจแตกสลาย ก่อนจะกระโดดสูงขึ้นไปบนยอดไม้ พริบตาเดียวก็หายลับไปในความมืดยามราตรี
นอกป่าไผ่มีแสงไฟส่องสว่าง เสียงฝีเท้าสับสนวุ่นวายใกล้เข้ามา ตู้ฮูหยินเพิ่งพาบ่าวไพร่รีบร้อนเดินทางมาถึง “หลันเอ๋อร์! อวี้เอ๋อร์!”
จากนั้นก็ตามมาด้วยกลุ่มบ่าวชายที่ตั้งกระโจมอยู่ด้านนอกตอนเถิงอวี้อี้มาถึง
เมื่อทุกคนเห็นสถานการณ์เช่นนี้ล้วนเผยสีหน้าตื่นตะลึง ไม่รู้ว่าปีศาจตนนั้นใช้วิชาลวงตาอันใด การต่อสู้เสียงดังสนั่นหวั่นไหวเช่นนี้คนที่อยู่นอกป่ากลับไม่ได้รับรู้ความเคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อย
บ่าวชายผู้หนึ่งย่อตัวลงเก็บเศษอวัยวะที่ปีศาจตนนั้นทิ้งไว้ขึ้นมา ยังไม่ทันตรวจสอบดูเจ้าสิ่งนั้นก็สลายเป็นผงฝุ่นสีดำกองหนึ่ง คนผู้นี้ตกใจจนหน้าเปลี่ยนสี “รีบไปรายงานซื่อจื่อ เร็วเข้า!”
“ซื่อจื่อเพิ่งจะลงสนามเล่นจีจวี ด้านนอกหอเยวี่ยเติงใส่กุญแจแล้ว ในสนามมีผู้ประลองมากถึงเพียงนั้นจะส่งข่าวให้เขาเช่นไรเล่า”
“คืนนี้ฉุนอันจวิ้นอ๋องก็อยู่ที่ริมน้ำด้วย ข้าไปขอร้องจวิ้นอ๋องให้ไปตามหาซื่อจื่อดีกว่า ปีศาจมีที่มาไม่ชัดเจน หากปล่อยปละละเลยไปจะต้องมีผู้เคราะห์ร้ายอีกแน่”
เถิงอวี้อี้ยังไม่อาจสงบสติอารมณ์ลงได้ นางประคองญาติผู้พี่ขึ้นมาตรวจดูด้วยความร้อนใจ เห็นอีกฝ่ายยังคงหมดสติ แต่โชคดีที่ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอเป็นปกติ