ทดลองอ่าน หยกรัตติกาลแห่งฉางอัน บทที่ 58 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หยกรัตติกาลแห่งฉางอัน บทที่ 58

หน้าที่แล้ว1 of 4

บทที่ 58

เถิงเซ่าหยิบภาพเหมือนนั้นขึ้นมาพลางเดินย่ำวนไปวนมาอย่างเชื่องช้าใต้แสงโคมไฟ

เถิงอวี้อี้วางพู่กันลง พลันเอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านพ่อ ท่านใช้วิชาเต๋าเป็นหรือไม่เจ้าคะ”

เถิงเซ่ามีสีหน้างุนงง “เหตุใดอยู่ๆ เจ้าถึงถามเช่นนี้”

“ท่านพ่อเพียงบอกข้ามาว่าเป็นหรือไม่เป็นก็พอเจ้าค่ะ ข้าอยากสืบเรื่องเกี่ยวกับลัทธิเต๋าสักหน่อย”

เถิงเซ่ากล่าวตอบเสียงนุ่มนวล “พ่อย่อมใช้วิชาเต๋าไม่เป็นอยู่แล้ว”

เถิงอวี้อี้ลอบคิดในใจ สีหน้าท่านพ่อไม่คล้ายคนกำลังเสแสร้ง อย่างนั้นแล้วสุดท้ายผู้ใดใช้วิชามารช่วยข้ากัน

หลังจากรู้สิ่งที่เกิดขึ้นกับตนเองจากปากเสี่ยวหยา นางนึกถึงญาติพี่น้องข้างกายครบทุกคนแล้ว รู้สึกว่าไม่น่าจะมีใครใช้วิชาเต๋านอกรีตอย่างนี้เป็น พอลองคิดไปคิดมามีเพียงบิดาของนางที่อาจมีโชคชะตาที่คาดไม่ถึงเพราะต้องนำทัพออกรบอยู่ตลอดก็เป็นได้

ทว่าเมื่อลองพิจารณาดูอย่างละเอียดแล้วบิดาก็ไม่น่าจะทำเช่นนี้

“ข้ามักได้ยินอยู่บ่อยๆ ว่าผู้ใดรอดชีวิตจากเคราะห์กรรมหนักหนาล้วนแปดเปื้อนไอพลังมืดมนเบาบาง เพราะเคยไปท่องปรโลกมาแล้วครั้งหนึ่ง อยู่ๆ ข้าก็ฝันประหลาดทำนายอนาคตได้ คงจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ มีไอพลังมืดมนติดตัว จะดึงดูดภูตผีปีศาจเข้าหาก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแล้ว”

คำตอบนี้อธิบายแล้วว่าเหตุใดนางถึงพบเจอภูตผีปีศาจเป็นประจำ

“เพราะฉะนั้นข้าคิดว่าพวกเราไม่จำเป็นต้องไปพบเจ้าอาวาสหยวนเจวี๋ยท่านนั้นเลย ฝันประหลาดพวกนี้โผล่มาโดยไม่รู้สาเหตุ หากถูกเจ้าอาวาสหยวนเจวี๋ยมองออกใช่ว่าจะเป็นเรื่องดี ที่มาของคนเสื้อคลุมดำยังเป็นปริศนา ก่อนจะสืบฐานะของคนผู้นี้จนกระจ่างข้าไม่อยากให้มีข่าวลือแพร่งพรายออกไปถึงคนนอก ถึงเป็นภิกษุผู้มีบารมีสูงส่งแห่งวัดต้าอิ่นก็ไม่ได้”

เถิงเซ่ามีสีหน้าครุ่นคิดไม่พูดไม่จา ความกังวลของนางใช่ว่าจะไร้เหตุผลไปเสียหมด ทว่าช่วงนี้บุตรสาวพบเจอภูตผีปีศาจมามากเกินไปแล้ว ในฐานะบิดาเขาจะนิ่งดูดายได้อย่างไร

เถิงอวี้อี้กล่าวเสริม “ที่สำคัญเมื่อครู่ข้าก็บอกไปแล้ว เมื่อคืนเฉิงอ๋องซื่อจื่อถูกกระดิ่งสั่นเรียกรบกวน จึงวางค่ายกลทั้งในและนอกจวนให้โดยเฉพาะ เขาสืบทอดวิชาความรู้มาจากนักพรตชิงซวีจื่อ อาคมเต๋าสูงส่งเลิศล้ำ เมื่อมีค่ายกลนี้คอยปกป้อง ไยพวกเราต้องไปหาเจ้าอาวาสหยวนเจวี๋ยอีกเล่า คนรู้เพิ่มอีกคนว่าข้ามีบางอย่างผิดปกติ ก็หมายความว่าจะมีอันตรายยิ่งกว่าเดิม หากมีข่าวลือที่ไม่เป็นผลดีต่อข้าเล็ดลอดออกมาในเมืองหลวงเพราะเรื่องนี้ย่อม…”

เถิงเซ่ามิได้ใส่ใจเรื่องเหล่านี้ เขาสนใจเพียงความปลอดภัยของบุตรสาว หากผ่านไปหลายวันสถานการณ์ของบุตรสาวดีขึ้นก็แล้วไปเถิด แต่หากยังพบเจอภูตผีปีศาจไม่ขาดสาย ต่อให้เสี่ยงอันตรายเขาก็ต้องพาบุตรสาวไปวัดต้าอิ่นสักครั้ง

ประเดี๋ยวหนึ่งเขาก็ตัดสินใจได้ “พักเรื่องนี้เอาไว้ก่อน แต่ปีนี้เมืองหลวงมีเรื่องสำคัญต้องเตรียมการป้องกัน วันใดวันหนึ่งเจ้าอาวาสหยวนเจวี๋ยอาจปิดด่านขึ้นมากะทันหัน ถึงตอนนั้นพวกเราอยากเจอเขา ก็อาจไม่มีโอกาสได้เจอแล้ว อย่างมากต้องรอไปอีกสักพัก หากยังไม่มีอะไรดีขึ้นพ่อจะรีบพาเจ้าไปวัดต้าอิ่นให้เร็วที่สุด”

เถิงอวี้อี้นิ่งอึ้งไป “เมืองหลวงมีเรื่องสำคัญต้องเตรียมการป้องกัน? ท่านพ่อพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไรเจ้าคะ”

เถิงเซ่าไตร่ตรองชั่วครู่ เรื่องนี้กระทั่งขุนนางในราชสำนักส่วนใหญ่ยังไม่ทราบแน่ชัด หากมิใช่เพราะเมื่อครั้งยังหนุ่มเขากลับเมืองหลวงมารับตำแหน่งแม่ทัพใหญ่หน่วยทหารองครักษ์ฝ่ายซ้าย ก็คงไม่มีทางล่วงรู้ความลับนี้ของราชวงศ์เข้าโดยบังเอิญ

เขาคิดถึงความฝันประหลาดที่บุตรสาวเล่ามา แล้วตระหนักได้ว่ามีเรื่องหนึ่งต้องถามให้กระจ่างประเดี๋ยวนี้

“เจ้าบอกพ่อมาก่อน ในเมื่อเจ้าฝันเห็นเผิงเจิ้นจะก่อกบฏ แล้วรู้หรือไม่ว่าเขาจะลงมือเมื่อใด”

เถิงอวี้อี้คิดคำนวณเวลา “ประมาณปีนี้ช่วงกลางปีก็เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว ฝ่าบาทมีพระราชโองการลงมาอย่างเป็นทางการให้ยกทัพไปปราบปรามต้นเดือนสองปีหน้า”

ดวงตาเถิงเซ่าฉายแววประหลาดใจ

“เหตุใดท่านพ่อจึงถามเช่นนี้”

เถิงเซ่าพยักหน้ารับช้าๆ “ดูท่าเผิงเจิ้นคำนวณฤกษ์ยามการก่อกบฏมาดีแล้ว หากลงมือเสียในปีนี้ ก็ตรงกับช่วงที่ฝ่าบาทต้องเปิดค่ายกลรักษาพระอาการประชวร ในระหว่างนี้พระองค์ไม่อาจดูแลราชกิจได้ เผิงเจิ้นจะมีโอกาสก่อกบฏได้สำเร็จสูงกว่าช่วงอื่น”

เถิงอวี้อี้รู้สึกตกใจอย่างยิ่ง นางไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าฮ่องเต้มีอาการประชวรเรื้อรังด้วย “ฝ่าบาทประชวรเป็นโรคใดหรือเจ้าคะ”

เถิงเซ่ามีสีหน้าแปรเปลี่ยนเกินจะหยั่งถึง เขาเดินกลับมานั่งที่โต๊ะหนังสือ “จำได้หรือไม่ว่าครั้งก่อนพ่อเคยเล่าให้เจ้าฟัง ก่อนฝ่าบาทจะทรงกราบบรรพชนหวนคืนฐานะเดิม พระองค์เติบโตมาในอารามชิงอวิ๋น”

“จำได้เจ้าค่ะ”

หน้าที่แล้ว1 of 4

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 84.1-84.2

    By

    บทที่ 84.1 ชายาเป่ยเจิ้นอ๋องมองชุดรัดเอวแขนหลวมทำจากผ้าพลิ้วกรุยกรายลายปักซูซิ่ว บนร่างองค์หญิงอวี๋หยางอีกครา ดูคล้ายกับแบบที่ซูลั่วอวิ๋นสวม...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 83.1-83.2

    By

    บทที่ 83.1 หานเหยาได้ยินน้องชายพูดขึ้นมา นางก็เอ่ยอย่างลิงโลด “ดี! พี่สะใภ้ ท่านไม่ต้องกลับไปที่หมู่บ้านเฟิ่งเหว่ยแล้ว ที่นั่นวุ่นวายเหลือเก...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 82.1-82.2

    By

    บทที่ 82.1 ที่แท้จ้าวกุยเป่ยคิดว่าให้สัญญากับหานเหยาไว้ว่าจะมารับลูกอมก็จำเป็นต้องรักษาคำพูดหรือไร หานหลินเฟิงคร้านจะแยแสบุรุษหัวทึบผู้นี้ เ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 5-6

    By

    บทที่ 5 ราตรีวุ่น แววตาเสิ่นเฉียนมืดทะมึน กัดริมฝีปาก ปลายคางเกร็งแน่นเผยความแข็งกร้าวอยู่ในที “ที่แท้ถูกเด็ดปีกหมดสิ้นแล้วเนรเทศมาให้ข้านี่...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 81.1-81.2

    By

    บทที่ 81.1 ฉิวเจิ้นเพ่งตามองดูแล้วก็พบว่าไม่เพียงกำแพงของค่ายเสบียงมีการต่อเติมให้สูงขึ้น ยังขุดคูลึกรอบตัวกำแพงทั้งด้านนอกด้านในเพิ่มอีกสอง...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 3-4

    By

    บทที่ 3 หงหลวนแต่งงาน ลมราตรีพัดกรู แสงจันทร์สาดส่อง ภายในหอตั้นเสวี่ยของจวนสกุลเซี่ยเวลานี้ เซี่ยจิ่นสองมือไพล่หลัง ฟังน้องชายตัวน้อยเซี่ยซ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 1-2

    By

    บทที่ 1 ลมตะวันตกพัดมา สุริยันจมลับประจิม แสงสายัณห์สาดส่องขอบฟ้า เสิ่นเฉียนเปลี่ยนม้าไปตัวหนึ่งแล้วในจุดพักม้า เช่นนี้จึงเร่งมาถึงนอกเมืองห...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

community.jamsai.com