ทดลองอ่าน หยกรัตติกาลแห่งฉางอัน บทที่ 7-8 – หน้า 8 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หยกรัตติกาลแห่งฉางอัน บทที่ 7-8

8 of 8หน้าถัดไป

นางมีผ้าคลุมบดบังใบหน้าจึงมองเห็นรูปโฉมไม่ชัดเจน แต่สตรีนางนี้จะต้องเป็นคนน่าชิงชังที่สุดเท่าที่เขาเคยพบเจออย่างไม่ต้องสงสัย

“ระหว่างเดินทางมายังหัวเราะพูดคุยกันอยู่ดีๆ ก็มาจากไปทั้งอย่างนี้แล้ว” ผู้ดูแลหญิงสกุลต่งร้องไห้จนหายใจแทบไม่ทัน “คุณหนูรองของข้าน้อยมีจิตใจเมตตาดั่งพระโพธิสัตว์ ปกติขนาดดอกไม้ใบหญ้ายังเหยียบย่ำไม่ลง นี่มันเวรกรรมอะไรกัน เพราะอะไรถึงต้องเป็นคุณหนูรอง…”

เส้นริ้วรอยบนใบหน้าต้วนหนิงหย่วนปรากฏขึ้นมา เห็นได้ชัดว่ากำลังกัดฟันกรอด ในที่สุดก็โดนคำตัดพ้อของผู้ดูแลหญิงผู้นี้แทงใจอย่างจัง จู่ๆ ก็เอ่ยขึ้นมาว่า “คุณหนูเถิง ในเมื่อยาอยู่ในกำมือเจ้า ไม่ได้ขอให้เจ้าไม่เห็นแก่ตัว แต่ยามีทั้งหมดสี่เม็ด สกุลเถิงมีสิทธิ์อะไรถึงได้ไปทั้งหมด ไม่แบ่งให้ผู้อื่นเลยแม้แต่เม็ดเดียว”

น้ำเสียงของเขาแหบแห้ง แสดงให้เห็นว่าขาดสติยั้งคิดไปแล้วเพราะโทสะครอบงำ

ต้วนเหวินอินตวาดแทรกขึ้นมา “หนิงหย่วน!”

ตู้ฮูหยินพยายามอธิบาย “แม่ทัพน้อยต้วน ตอนอวี้เอ๋อร์แบ่งยาให้พวกหงหนู นางไม่รู้เลยว่าในขวดมียาอยู่แค่สี่เม็ด ถ้ารู้ล่วงหน้าว่าจะไม่พอคงไม่มีทางจัดการเช่นนี้แน่”

“ตอนเหลือยาเม็ดสุดท้ายก็น่าจะรู้แล้วมิใช่หรือ นางก็ยังให้บ่าวไพร่ของตนเอง หมายความว่าในสายตาของนางมีแค่ตนเอง สำหรับนางชีวิตของผู้อื่นไร้ค่าเหมือนต้นหญ้าริมทาง ท่านพี่ ท่านคงเห็นชัดเจนแล้ว สตรีที่เอาแต่ใจเห็นแก่ตัวเช่นนี้จะเป็นสะใภ้ที่เหมาะสมกับสกุลต้วนได้อย่างไร”

ฮูหยินทุกคนตกตะลึงอ้าปากค้าง ลิ่นเฉิงโย่วเงยหน้ามองต้วนหนิงหย่วน ดวงตาฉายแววประหลาดใจเบาบาง

ต้วนเหวินอินนิ่งอึ้งไปชั่วครู่ ก่อนจะตำหนิอย่างเกรี้ยวกราด “เจ้าพูดเหลวไหลอะไร!”

เถิงอวี้อี้ย่อกายคารวะแล้วมองต้วนเหวินอินอย่างเฉยชา “ฮูหยินคงได้ยินแล้ว แม่ทัพน้อยต้วนต้องการถอนหมั้นกับสกุลเถิงเพียงเพราะข้าช่วยชีวิตบ่าวไพร่ของตนเอง”

ต้วนเหวินอินถลึงตาใส่น้องชายอย่างดุดัน ก่อนกล่าวปลอบประโลมเถิงอวี้อี้ด้วยเสียงนุ่มนวล “หนิงหย่วนดื่มสุราในงานเลี้ยงไปไม่น้อย สติเลอะเลือนถึงได้พูดจาเหลวไหล อวี้เอ๋อร์ เจ้าก็ให้อภัยเขาเถอะ อย่าเก็บคำพูดยามเมามายพวกนี้ไปใส่ใจเลยนะ”

เถิงอวี้อี้พยักหน้าแล้วย้อนถาม “แม่ทัพน้อยต้วนพลั้งปากเพราะสุรา ต้องการผู้อื่นมาให้อภัย แล้วตอนพวกเราเจอปีศาจในป่าไผ่ควรจะเชิญผู้ใดมารับผิดชอบดีเล่า”

ต้วนหนิงหย่วนรู้สึกสำลักอากาศเล็กน้อย

“กว่าพวกเราจะหนีรอดออกมาจากป่าไผ่ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย ปีศาจยังตามมาถึงหอจื่ออวิ๋น ตอนนั้นศาลาหลั่นสยาโกลาหลวุ่นวาย พวกญาติผู้พี่ของข้าก็อาการหนักเต็มที ข้ากลัวว่าจะพลาดโอกาสดีในการช่วยชีวิตคนไป ก่อนจะใช้ยาก็เลยไม่ได้ลองนับจำนวนยาว่ามีกี่เม็ด ตอนเดินออกมาถึงรู้ว่าเหลือแค่เม็ดเดียว แม่ทัพน้อยต้วน เปลี่ยนเป็นท่านจะทำเช่นไร”

ต้วนหนิงหย่วนโมโหฮึดฮัด “สกุลเถิงได้ยาไปแล้วสามเม็ด จะต้องจัดสรรอย่างยุติธรรม เม็ดสุดท้ายตามหลักแล้วสมควรแบ่งให้ผู้อื่นสิ”

“แต่ตวนฝูไม่ใช่แค่บ่าวไพร่ของสกุลเถิง” น้ำเสียงเถิงอวี้อี้เย็นเยียบปานน้ำแข็ง “หากไม่ได้ตวนฝูสกัดไว้ระยะหนึ่งพวกเราคงตายในป่าไปนานแล้ว ตอนนี้ชีวิตเขาตกอยู่ในอันตราย ข้าได้ยามาแล้วกลับไม่ช่วย นี่มิเท่ากับว่าเป็นพวกไม่รู้จักบุญคุณคนรึ”

ต้วนหนิงหย่วนกัดฟันกรอด นางกำลังโต้เถียงอย่างไร้เหตุผลชัดๆ แต่รอบข้างมีคนอยู่มากเกินไป เขาไม่อาจหักล้างวาจาของนางโดยไม่ระงับอารมณ์ได้

“ในสายตาพวกท่านตวนฝูเป็นแค่บ่าวไพร่ฐานะต่ำต้อยผู้หนึ่ง แต่เขาไม่ใช่ผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตพวกเราหรือ คนผู้หนึ่งที่กระทั่งผู้มีพระคุณต่อตนเองยังไม่ไยดี แล้วจะไปช่วยคนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนได้อย่างไรเล่า ข้ากลับอยากถามแม่ทัพน้อยต้วนสักนิด ท่านราวกับมองข้าเป็นศัตรูคู่แค้น ตกลงท่านตำหนิข้าเพราะช่วยชีวิตผู้มีพระคุณต่อตนเอง หรือกล่าวโทษที่ข้าไม่อาจช่วยชีวิตคุณหนูต่ง หากข้ามอบยาให้คุณหนูต่งโดยไม่สนใจตวนฝู ท่านยังจะประณามข้าว่าทำอะไรไม่ยุติธรรมหรือไม่”

ต้วนหนิงหย่วนตัวแข็งทื่อ ราวกับโดนคนตบหน้าฉาดใหญ่ ใบหน้าร้อนผ่าวเผยความละอายแก่ใจ

ฮูหยินทั้งหลายล้วนเป็นผู้ผ่านโลกมามาก ต่างหันไปมองผ้าม่านผืนหนาตรงเตียง แล้วหันมามองผู้ดูแลหญิงสกุลต่ง พวกนางก็ขบคิดอะไรได้อย่างช้าๆ

ตอนแรกตั้งแต่อยู่ในลานกว้างขันทีก็เคยบอกไว้ว่าต่งเอ้อร์เหนียงเข้าหอจื่ออวิ๋นมาได้เป็นเพราะฝากฝังให้ฮูหยินหย่งอันโหวดูแล แม่ทัพน้อยต้วนรีบร้อนเดินทางมา ไม่ถามไถ่ถึงบ่าวไพร่สกุลเถิง แต่ตำหนิเถิงอวี้อี้อย่างไร้เหตุผล ท่าทางเหมือนมาที่นี่เพราะสกุลเถิงที่ใดกัน กลับเหมือนมาเพราะต่งเอ้อร์เหนียงมากกว่า

ตู้ฮูหยินยิ่งคิดยิ่งรู้สึกผิดหวัง นางถลึงตาใส่ต้วนหนิงหย่วน “คืนนี้อวี้เอ๋อร์ต้องตกใจเสียขวัญหลายครั้ง แม่ทัพน้อยต้วนไม่เป็นห่วงก็แล้วไปเถอะ แต่นี่ยังไม่ทันเข้าใจกระจ่างแจ้งว่าสถานการณ์ขณะนั้นเป็นเช่นไร ก็โยนความผิดให้อวี้เอ๋อร์แล้ว ถึงแม้นางอายุยังน้อย แต่พบเจอเรื่องใดก็สุขุมเยือกเย็นสำรวมกิริยา สามารถช่วยชีวิตผู้อื่นไว้ได้มากถึงเพียงนี้ นับว่าเป็นผลงานของอวี้เอ๋อร์ครึ่งหนึ่ง ลองเปลี่ยนเป็นเด็กสาวผู้อื่น ไม่ต้องพูดถึงแบ่งยาช่วยชีวิตคน ป่านนี้คงตกใจหมดสติไปไม่รู้กี่รอบแล้ว

ถ้าแม่ทัพน้อยต้วนยังมีใจ แค่ลองคิดทบทวนดูก็คงเข้าใจ ยามีไม่เพียงพอหาใช่ความผิดของอวี้เอ๋อร์ คำว่า ‘เอาแต่ใจเห็นแก่ตัว’ นี้อวี้เอ๋อร์ของพวกเราคงรับเอาไว้มิได้ ‘เหมาะสม’ หรือ ‘ไม่เหมาะสม’ แม่ทัพน้อยต้วนก็ไม่มีสิทธิ์พูดจาอวดดีเช่นนี้!”

สีหน้าต้วนหนิงหย่วนสะท้อนความละอายใจเต็มเปี่ยม เมื่อครู่เขาจิตใจปั่นป่วนยุ่งเหยิงจนพาลโกรธผู้อื่น ตอนนี้พอสงบสติอารมณ์ลงแล้ว ตระหนักได้ว่าตนเองทำเกินเลยไปมาก เมื่ออยู่ต่อหน้าธารกำนัลเช่นนี้เขารู้ดีว่าไม่อาจหาเหตุผลมาหักล้างได้ จึงสะบัดชายเสื้อคลุมขึ้นเตรียมจะคุกเข่าขอขมา

เถิงอวี้อี้หัวเราะเย้ยหยันในใจ เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วจะยอมให้เขามีโอกาสแก้ต่างได้อย่างไร นางหลั่งน้ำตาพร้อมย่อกายคารวะ ก่อนจะเอ่ยปากพูดอีกครั้งทันที “แม่ทัพน้อยต้วนเป็นบุรุษหัวใจเด็ดเดี่ยว คำพูดที่หลุดปากออกไปแล้วไม่มีเหตุผลจะรับกลับคืน ในเมื่อแม่ทัพน้อยต้วนกล่าวเองว่าต้องการถอนหมั้น คงต้องขอให้ฮูหยินทั้งหลายเป็นพยานด้วย”

ต้วนเหวินอินตกใจจนหน้าเปลี่ยนสี คำพูดของเถิงอวี้อี้บ่งบอกชัดเจนว่าต้องการชิงความได้เปรียบพลิกสถานการณ์ นางสมควรนึกได้แต่แรกแล้วว่าเด็กสาวสกุลเถิงผู้นี้เป็นคนหัวแข็งยิ่งนัก ไม่มีทางยอมรับความไม่เป็นธรรมเปล่าๆ โดยไม่โต้กลับเด็ดขาด นางหัวเราะอย่างขอไปทีแล้วเอ่ยว่า “อวี้เอ๋อร์เข้าใจผิดแล้ว ผู้ดูแลหญิงสกุลต่งร้องไห้โวยวายไม่หยุด ทนฟังมากเข้าทำให้อึดอัดรำคาญ หนิงหย่วนถามเช่นนั้นออกมา ก็แค่อยากให้บ่าวหญิงเลอะเลือนผู้นี้เข้าใจเหตุผลเสียที จะคลี่คลายความเข้าใจผิดมาแต่แรก ไม่มีเจตนาจะย้อนกลับมาซักไซ้คนกันเองแน่นอน

หนิงหย่วน ข้าเคยบอกแล้วว่าเจ้าเถรตรงเกินไป ทั้งที่เป็นความหวังดีแท้ๆ คำพูดตอนเมากลับทำให้อวี้เอ๋อร์เข้าใจผิด ตอนนี้เจ้าคงหงุดหงิดเสียใจแทบไม่ทันแล้ว มัวอ้ำอึ้งอยู่ด้วยเหตุใดเล่า รีบขอโทษอวี้เอ๋อร์กับตู้ฮูหยินประเดี๋ยวนี้”

เถิงอวี้อี้ส่ายหน้าอย่าง ‘เศร้าสร้อย’ “แม่ทัพน้อยต้วนจะเมาสุราหรือว่าเสียใจข้าก็ไม่มั่นใจเท่าไรนัก พรุ่งนี้ข้าจะเขียนจดหมายไปเล่าเรื่องนี้ให้ท่านพ่อฟัง ขอให้เขาเป็นคนตัดสิน ฮูหยินทุกท่านล้วนมีประสบการณ์มากกว่าข้า มองเรื่องราวได้กระจ่างชัด เรื่องในคืนนี้คงต้องขอให้พวกท่านช่วยวินิจฉัยอย่างยุติธรรมด้วยเจ้าค่ะ”

เดิมทีฮูหยินทั้งหลายไม่อยากเข้าไปพัวพันกับความขัดแย้งของสองตระกูล แต่พอได้ยินเถิงอวี้อี้ยืนกรานว่าจะเล่าเรื่องนี้ให้เถิงเซ่าฟัง เห็นได้ชัดว่าเด็กสาวผู้นี้ไม่ยอมให้สกุลต้วนกลบเกลื่อนเรื่องนี้ไปเฉยๆ เถิงเซ่าเป็นคนที่รับมือได้ยากยิ่ง ท่าทีของแม่ทัพน้อยต้วนที่แสดงออกมาในคืนนี้ก็ทำให้ทุกคนผิดหวังจริงๆ พวกนางไม่อาจแสร้งปล่อยผ่านไปทั้งที่รู้แก่ใจดีได้ จึงรีบเอ่ยตอบว่า “ช่างน่าเห็นใจ เพิ่งจะมาถึงฉางอันก็พบเจอเรื่องมากมายเช่นนี้ พวกเราเข้าใจดี คุณหนูเถิงต้องลำบากแล้ว”

ต้วนหนิงหย่วนสีหน้าประเดี๋ยวแดงประเดี๋ยวเขียว

ต้วนเหวินอินทั้งหงุดหงิดทั้งอับจนปัญญา มองภายนอกเด็กสาวอย่างอวี้เอ๋อร์ยังอ่อนต่อโลก ทว่านิสัยกลับเด็ดขาดถึงเพียงนี้ คำพูดแค่ไม่กี่ประโยคก็ทำให้เรื่องการถอนหมั้นถูกกำหนดไปเรียบร้อย

ต่อจากนี้จะทำเช่นไรดีเล่า ต้วนหนิงหย่วนทำตัวเลอะเลือนต่อหน้าธารกำนัล ถึงแม้อยากช่วยปกปิดก็ทำไม่ได้เสียแล้ว เรื่องวุ่นวายมาถึงขั้นถอนหมั้น ความผิดพลาดทุกอย่างตกอยู่ที่น้องชายของนางทั้งสิ้น คืนนี้พอออกจากหอจื่ออวิ๋น พรุ่งนี้ข่าวลือคงแพร่สะพัดไปทั่วฉางอันแน่นอน

 

(ติดตามต่อได้ในฉบับเต็มเดือนสิงหาคม 2566)

 

8 of 8หน้าถัดไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 84.1-84.2

    By

    บทที่ 84.1 ชายาเป่ยเจิ้นอ๋องมองชุดรัดเอวแขนหลวมทำจากผ้าพลิ้วกรุยกรายลายปักซูซิ่ว บนร่างองค์หญิงอวี๋หยางอีกครา ดูคล้ายกับแบบที่ซูลั่วอวิ๋นสวม...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 83.1-83.2

    By

    บทที่ 83.1 หานเหยาได้ยินน้องชายพูดขึ้นมา นางก็เอ่ยอย่างลิงโลด “ดี! พี่สะใภ้ ท่านไม่ต้องกลับไปที่หมู่บ้านเฟิ่งเหว่ยแล้ว ที่นั่นวุ่นวายเหลือเก...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 82.1-82.2

    By

    บทที่ 82.1 ที่แท้จ้าวกุยเป่ยคิดว่าให้สัญญากับหานเหยาไว้ว่าจะมารับลูกอมก็จำเป็นต้องรักษาคำพูดหรือไร หานหลินเฟิงคร้านจะแยแสบุรุษหัวทึบผู้นี้ เ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 5-6

    By

    บทที่ 5 ราตรีวุ่น แววตาเสิ่นเฉียนมืดทะมึน กัดริมฝีปาก ปลายคางเกร็งแน่นเผยความแข็งกร้าวอยู่ในที “ที่แท้ถูกเด็ดปีกหมดสิ้นแล้วเนรเทศมาให้ข้านี่...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 81.1-81.2

    By

    บทที่ 81.1 ฉิวเจิ้นเพ่งตามองดูแล้วก็พบว่าไม่เพียงกำแพงของค่ายเสบียงมีการต่อเติมให้สูงขึ้น ยังขุดคูลึกรอบตัวกำแพงทั้งด้านนอกด้านในเพิ่มอีกสอง...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 3-4

    By

    บทที่ 3 หงหลวนแต่งงาน ลมราตรีพัดกรู แสงจันทร์สาดส่อง ภายในหอตั้นเสวี่ยของจวนสกุลเซี่ยเวลานี้ เซี่ยจิ่นสองมือไพล่หลัง ฟังน้องชายตัวน้อยเซี่ยซ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 1-2

    By

    บทที่ 1 ลมตะวันตกพัดมา สุริยันจมลับประจิม แสงสายัณห์สาดส่องขอบฟ้า เสิ่นเฉียนเปลี่ยนม้าไปตัวหนึ่งแล้วในจุดพักม้า เช่นนี้จึงเร่งมาถึงนอกเมืองห...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

community.jamsai.com