บทที่ 88.2 สายลมเกิดเหนือยอดแหน
ตั้งแต่ปรากฏตัวจ้าวหลันฮุยก็ยุ่งอยู่กับการพูดคุยกับผู้คน เด็กสาวที่เมื่อก่อนคอยตามยกยอปอปั้นนางเดินมาประจบประแจง แม้แต่ฮูหยินยังสาวที่ไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกันก็ยังเดินมาพูดคุยกับนาง พิธีอภิเษกสมรสถูกกำหนดแล้ว จ้าวหลันฮุยกำลังจะกลายเป็นชายาซู่อ๋อง ไม่ว่าใครก็อยากมาหาประโยชน์แต่เนิ่นๆ กันทั้งนั้น
ข้างกายจ้าวหลันฮุยมีคนรุมล้อมมากมาย นางก็แสดงไมตรีอย่างชำนาญ ในห้องโถงงานเลี้ยงเต็มไปด้วยความครึกครื้น จ้าวหลันฮุยกำลังคิดจะตอบรับบุตรสาวสายตรงคนหนึ่งของตระกูลโหว แต่จู่ๆ ทั้งห้องโถงใหญ่ก็เงียบลง สายตาของคนทั้งหมดล้วนจับจ้องไปอีกด้าน
ในชั่วขณะผู้ที่กำลังพูดคุยอย่างสนุกสนาน ผู้ที่สานความสัมพันธ์ ผู้ที่ถกกันเรื่องแต่งงานของบุตรสาวบุตรชายล้วนหยุดการกระทำแล้วหลีกทางพร้อมกล่าวทักทายต่อผู้ที่มา
“ถวายพระพรชายารัชทายาท”
ฉู่จิ่นเหยาค่อยๆ เดินเป็นเพื่อนฉู่จิ่นเสียน ตอบรับการทักทายด้วยการแย้มยิ้มอย่างนุ่มนวลอ่อนโยน ครั้นฉู่จิ่นเหยาปรากฏตัว จ้าวหลันฮุยก็ถูกข่มให้กลายเป็นแม่นางน้อยผู้หนึ่งทันที ต่อให้จ้าวหลันฮุยชาติตระกูลดีเพียงไร มารดามีฐานะสูงเพียงไร ตำแหน่งก็ไม่สูงไปกว่าชายารัชทายาท ฉู่จิ่นเหยาสวมชุดพิธีการขั้นหนึ่งชั้นโท มวยผมประดับอัญมณีแพรวพราว บนข้อมือสวมกำไลหยกใส กลิ่นอายทั่วร่างดูสุขุมสงบนิ่ง ทั้งยังมั่งคั่งมีเกียรติยิ่ง นางผงกศีรษะยิ้มน้อยๆ มาตลอดทาง ผู้คนทั้งสองฝั่งไม่มีใครไม่ชื่นชมว่านี่ต่างหากถึงจะเป็นท่าทางที่สงบเยือกเย็นของเชื้อพระวงศ์ เทียบกับฉู่จิ่นเหยาแล้วจ้าวหลันฮุยเอะอะเสียงดังเกินไป ยิ่งเทียบกับก่อนหน้านี้ยิ่งไปกันใหญ่ จ้าวหลันฮุยทำให้ห้องโถงงานเลี้ยงเต็มไปด้วยเสียงอึกทึก แต่ครั้นฉู่จิ่นเหยาปรากฏตัวเสียงก็เงียบลงในทันใด
หนึ่งวุ่นวายหนึ่งสงบเช่นนี้เปรียบเทียบให้เห็นชัดเจนเกินไปแล้ว และผู้มีฐานะสูงส่งตัวจริงก็ไม่จำเป็นต้องโอ้อวดฐานะของตนเอง
มิหนำซ้ำจ้าวหลันฮุยยังต้องก้าวเข้ามาทำความเคารพฉู่จิ่นเหยาท่ามกลางความกระอักกระอ่วนอันน่าประหลาดเช่นนี้อีกด้วย
“ถวายบังคมชายารัชทายาท”
“น้องหญิงรองจ้าวก็มาด้วยหรือ รีบลุกขึ้นเถิด” ฉู่จิ่นเหยาเพียงมองนางยิ้มๆ คราหนึ่ง จากนั้นก็เบนสายตาไปทางอื่นอย่างไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย มองไปยังองค์หญิงใหญ่หรงอัน “ท่านอาหญิงหรงอัน”
องค์หญิงใหญ่หรงอันยิ้มพลางคารวะตอบครึ่งหนึ่ง พูดคุยกับฉู่จิ่นเหยาเสียงแผ่วเบาทว่ากระตือรือร้น พวกนางสองคนไปนั่งลงบนเก้าอี้ประธาน แต่จ้าวหลันฮุยทำได้เพียงยืนอยู่ถัดลงมา
ในชั่วขณะนี้ไม่เพียงจ้าวหลันฮุย คนอื่นๆ ก็ตระหนักได้อย่างลึกซึ้งว่าจ้าวหลันฮุยเป็นเพียงชายาซู่อ๋อง แต่ฉู่จิ่นเหยาเป็นชายารัชทายาท ชายารัชทายาทสามารถสนทนาและลุกนั่งเคียงคู่กับเหล่าจู่จงผู้มีลำดับรุ่นสูงทุกคนในที่นี้ได้อย่างสบายๆ ทว่าชายาซู่อ๋องกลับทำไม่ได้
การโจมตีให้แตกพ่ายโดยไร้สุ้มเสียงเช่นนี้โหดเหี้ยมเกินไปแล้ว จ้าวหลันฮุยไม่แสดงออกทางสีหน้า แต่ในดวงตากลับกำลังอดกลั้นความอัปยศอดสูที่ตนถูกมองข้าม หากฉู่จิ่นเหยาตรงรี่มาหาเรื่อง นางยังคิดได้ว่าฉู่จิ่นเหยากำลังเป็นกังวลอยู่เช่นกัน ทว่าฉู่จิ่นเหยาไม่ได้ทำเช่นนั้น อีกฝ่ายเดินมาอย่างช้าๆ ท่าทางดูไม่ใส่ใจโดยสิ้นเชิงว่านางทำอะไรบ้าง ถึงขั้นที่ว่าหลังฉู่จิ่นเหยาเข้ามาไม่ได้จับจ้องมองมาทางนี้ด้วยซ้ำ แต่กลับไปสนทนากับมารดานางอย่างคุ้นเคย นี่ทำให้จ้าวหลันฮุยรู้สึกว่าตนเองเหมือนเป็นเด็กน้อยที่กำลังจงใจอวดตนกับผู้ใหญ่
มีอย่างที่ใดกัน ฉู่จิ่นเหยาอายุน้อยกว่าข้าหนึ่งปีด้วยซ้ำ! จ้าวหลันฮุยขุ่นเคืองในใจ หนึ่งปีก่อนหน้านี้นางยังร่วมมือกับพวกเป่าชิ่งจวิ้นจู่ทดสอบฉู่จิ่นเหยาอยู่ พอมาวันนี้สถานการณ์กลับเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง