พิธีอภิเษกสมรสขององค์หญิงหรู่หนิงครึกครื้นอยู่นานหลายวัน คล้ายว่าการอภิเษกสมรสของรัชทายาทเป็นการเปิดทาง หลังจากนั้นเชื้อพระวงศ์ก็จัดงานมงคลขึ้นบ่อยครั้ง เดือนสององค์หญิงใหญ่อภิเษกเสกสมรส เดือนหกถึงคราวซู่อ๋องผู้เป็นองค์ชายรอง ส่วนองค์หญิงรองกับลู่อ๋องก็เริ่มหารือเรื่องแต่งงานแล้วเช่นกัน หลังเสร็จสิ้นพิธีอภิเษกสมรสของซู่อ๋อง กำหนดคลอดของเหลียนผินก็ใกล้มาถึง ถึงเวลานั้นยังมีพิธีสรงสามและงานฉลองครบเดือน ต่ออีก งานมงคลติดต่อกันไม่ขาดสาย
พร้อมกับบรรยากาศที่น่ายินดีนี้ ต้นหลิวในพระราชวังก็ค่อยๆ มีสีเขียวอ่อนโผล่ออกมา ระยะนี้ฮ่องเต้อารมณ์ดีอย่างยิ่ง สนมคนโปรดคนใหม่ตั้งครรภ์ พระโอรสพระธิดาทยอยแต่งงาน คล้ายว่าเทพบนสวรรค์ล้วนตั้งใจยืนอยู่ข้างเขา ฮ่องเต้โปรดปรานความครึกครื้นอยู่แต่เดิม พอเบิกบานสำราญใจก็ยิ่งจัดงานเลี้ยงไม่หยุด เสียงดนตรีดังไปทุกแห่งหน
เดือนสี่ทิวทัศน์ยามฤดูวสันต์กำลังงดงาม ฮ่องเต้จัดงานเลี้ยงเหล่าขุนนางที่ซีเน่ย องค์หญิงเชื้อพระวงศ์และชนชั้นสูงผู้มีบรรดาศักดิ์ทั้งหลายล้วนได้รับเชิญ พอทอดสายตามองไปในอุทยานซีย่วนที่มีบึงน้ำกว้างใหญ่ บนเกาะตรงใจกลางสร้างเป็นตำหนักที่หรูหราประณีตงดงาม มีครบทั้งศาลาระเบียงริมน้ำ งานเลี้ยงกำหนดจัดที่นี่ ผู้มีบรรดาศักดิ์และผู้ทรงอำนาจที่มีฐานะสูงส่งพาคนในครอบครัวเดินผ่านสะพานโค้งหลายแห่งไปยังสถานที่จัดงานเลี้ยงภายใต้การนำทางของนางกำนัลชุดเขียว
ตำหนักจัดงานเลี้ยงถูกตระเตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อสามวันก่อน เนื่องด้วยเกรงจะทำให้ฮ่องเต้หมดความเกษมสำราญ บุปผาตามฤดูกาลรอบตำหนักจึงล้วนถูกย้ายมาปลูกใหม่ ไม่สนใจว่าจะรอดชีวิตได้หรือไม่ แต่ขณะนี้ล้วนดูงดงามตระการตาทั้งสิ้น ส่วนสุราอาหารในงานเลี้ยงนั้นเหล่าขันทีในวังได้เริ่มเตรียมการตั้งแต่ครึ่งเดือนก่อนแล้ว สุราล้วนเป็นขันทีในวังบ่มเองทั้งหมด ไม่ได้ให้ผู้อื่นทำ
ฉู่จิ่นเหยาอยู่ในตำหนักฉือชิ่ง รอฉินอี๋จัดการงานในตำหนักเหวินหวาเรียบร้อย ทั้งสองถึงค่อยไปอุทยานซีย่วนด้วยกัน ตลอดทางบุปผานานาพรรณบานสะพรั่ง ฉู่จิ่นเหยาชมอยู่เงียบๆ ครั้นมาถึงสถานที่จัดงานเลี้ยง แม้นางจะเตรียมใจมาแล้วก็ยังต้องตกใจ
หลิงหลงและเจี๋ยเกิ่งที่อยู่ด้านหลังเคยเห็นงานใหญ่โตมามากมาย แต่บัดนี้ก็ลอบอ้าปากค้างเช่นกัน เจี๋ยเกิ่งถึงขั้นทนไม่ไหวเริ่มคำนวณค่าใช้จ่ายสำหรับหนึ่งวันนี้อย่างเงียบๆ ไม่กล่าวถึงอย่างอื่น ลำพังขนมและสุราก็เป็นเงินจำนวนมากแล้ว
ฉู่จิ่นเหยาลอบมองฉินอี๋ สีหน้าของเขาไม่ค่อยดีจริงดังคาด แต่สุดท้ายก็อดกลั้นไว้ได้ อุทยานซีย่วนเป็นเสมือนอุทยานบนน้ำของราชวงศ์ กฎระเบียบไม่เคร่งครัดเท่าในพระราชวังต้องห้าม แต่แม้จะเป็นเช่นนี้บุรุษสตรีก็ยังมิอาจนั่งในงานเลี้ยงด้วยกันได้
ฉินอี๋ต้องไปยังตำหนักทางทิศตะวันออก ที่นั่นมีขุนนางรออยู่หลายคนแล้ว ไม่รู้เพราะเหตุใดฉินอี๋กลับรู้สึกไม่ค่อยวางใจ เขากำชับหลายคำถึงค่อยเดินไปยังตำหนักทางทิศตะวันออกอย่างไม่เต็มใจ ฉู่จิ่นเหยามองส่งฉินอี๋ รอจนมองไม่เห็นแผ่นหลังของเขาแล้วถึงได้ขึ้นเกี้ยวไปยังตำหนักทางทิศตะวันตกซึ่งเป็นที่จัดงานเลี้ยงของสตรี
เมื่อเข้ามาข้างในย่อมได้ยินเสียงกล่าวคารวะ ฮูหยินท่านโหวผู้หนึ่งพูดอย่างปากไว “ระหว่างทางหม่อมฉันมองเห็นเกี้ยวของชายารัชทายาทอยู่ไกลๆ หลงนึกว่าพวกหม่อมฉันมาสายแล้ว คิดไม่ถึงว่าพวกหม่อมฉันจะมาถึงก่อนพระชายาก้าวหนึ่ง ระหว่างทางที่เสด็จมาพระชายาทรงสบายดีหรือไม่ ถูกทำให้เสียเวลาหรือไม่เพคะ”
ฮูหยินกั๋วกงที่มีหน้ามีตาอีกผู้หนึ่งก็กล่าวยิ้มๆ “เรื่องนี้ต้องทูลถามรัชทายาทแล้ว หม่อมฉันเข้ามาจากอีกทาง มองเห็นรัชทายาทกำลังตรัสกับพระชายาพอดี พระชายาทรงงดงามปานนี้ รัชทายาทคงจะวางพระทัยไม่ลง เกรงว่าพวกหม่อมฉันจะรังแกพระชายา จึงได้กำชับสองสามคำกระมัง”
คนรอบๆ ได้ยินก็ต่างหัวเราะ ฮูหยินท่านโหวคนเมื่อครู่พูดยิ้มๆ “เป็นเช่นนี้นี่เอง ต้องโทษหม่อมฉันที่ปากมากแล้ว! พระชายากับรัชทายาททรงรักใคร่กันดีโดยแท้”