ดวงตาฉู่จิ่นเหยามองตรงไปข้างหน้า แต่จิตใจกลับคอยระแวดระวังอยู่ตลอด สตรีนางนั้นในเรือร่ายรำถึงท่อนที่ยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว นางงอเอวลงอย่างอ่อนช้อยราวกับไร้กระดูก สายตาหยาดเยิ้ม จากนั้นก็ยืดตัวขึ้นแล้วเริ่มหมุนกายอย่างรวดเร็วโดยไม่รอให้ฮ่องเต้ทันมีอาการตอบสนอง ชายกระโปรงหรูหรางดงามอลังการคลี่ออกเป็นชั้นๆ ชวนสะท้านสะเทือนอย่างยิ่ง มิหนำซ้ำสตรีนางนั้นก็สวมชุดเขียว หลังชายกระโปรงบานออกก็ดูราวกับใบบัว ส่วนตัวนางคือเกสร ฉู่จิ่นเหยาได้ยินเสียงชื่นชมจากในฝูงชนแล้ว มิพ้นคำชมเกินจริงอย่าง ‘งามจรัสราวกับบงกชโผล่พ้นน้ำ’ ‘ตัวเบาราวกับนกนางแอ่น’
ฉู่จิ่นเหยาลอบพยักหน้าเช่นกัน นางเองก็รู้สึกว่าน่าดู ขณะที่กำลังมองดูด้วยสายตาชื่นชม ทันใดนั้นสตรีที่กลางน้ำก็หวีดร้อง ยังไม่ทันที่ผู้อื่นจะมีอาการตอบสนอง บนกระโปรงของสตรีนางนั้นก็มีเพลิงพุ่งออกมา ฉู่จิ่นเหยาถูกทำเอาตกใจ อยู่ไกลเพียงนี้ยังได้ยินเสียงดังมาจากชายกระโปรงของสตรีนางนั้น ที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือควันขาวลอยขึ้นมาตามลม
ไม่มีใครคาดคิดว่าเหตุการณ์จะกลายเป็นเช่นนี้ เหล่าฮูหยินรักษากิริยาท่าทางไว้ไม่ได้อีกต่อไป เริ่มกรีดร้องด้วยความหวาดผวา ฉู่จิ่นเหยาก็ถอยหลังไปก้าวหนึ่งด้วยความตกใจเช่นกัน พวกเจี๋ยเกิ่งกับหลิงหลงก้าวมาล้อมฉู่จิ่นเหยาไว้ทันที
“นี่เกิดอะไรขึ้น!”
ทางฝั่งสตรีตื่นตระหนกทำอะไรไม่ถูก พวกบุรุษก็เริ่มวุ่นวายเช่นกัน มีขุนนางและขันทีร้องตะโกนอย่างเร่งรีบไม่หยุด
“คุ้มครองฝ่าบาท! มีคนลอบสังหาร รีบมาคุ้มครองฝ่าบาท!”
ฉู่จิ่นเหยารีบมองไปยังตำหนักทางทิศตะวันออก เห็นรางๆ ว่าฉินอี๋ถูกคนทั้งหลายปกป้องไว้ตรงกลาง ถึงได้โล่งใจ
ร่ายรำบนน้ำอยู่ดีๆ เหตุใดถึงมีไฟลุกได้เล่า
หลังเกิดอุบัติภัยผู้คนทั้งหลายก็ส่งเสียงดังจอแจ ทว่าความเป็นจริงเพิ่งผ่านไปเพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น สตรีนางนั้นบนเรือมองเห็นไฟไหม้กระโปรงก็ตกใจแทบตายเช่นกัน นางตบเปลวไฟบนกระโปรงเป็นพัลวัน หลังพบว่าไม่ได้ผลก็กัดฟันกระโดดลงน้ำ แต่เหตุการณ์ที่ประหลาดยิ่งกว่าปรากฏขึ้นแล้ว ไฟนี้พอพบน้ำกลับไม่ดับในทันที แต่ลุกไหม้เดี๋ยวดับเดี๋ยวติดอยู่ในน้ำตามการดิ้นรนอย่างรุนแรงของสตรีนางนั้น
นี่มันอะไรกัน ถึงกับเกิดไฟไหม้ในวันธรรมดา มิหนำซ้ำลงน้ำไฟก็ไม่ดับ
ไม่รู้ผู้ใดตะโกนขึ้นว่า ‘ไฟปีศาจ’ เหล่าสตรีตรงระเบียงตำหนักทางทิศตะวันตกก็ยิ่งหวาดหวั่นอย่างหนัก พวกนางได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างสุขสบาย ถูกเข็มตำยังต้องร้องหาหมอ ยามนี้ได้เห็นเหตุการณ์แปลกประหลาดเช่นนี้กับตาตนเองก็ตกใจจนอกสั่นขวัญแขวน อุบัติภัยเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ข้างกายเสี่ยวฉีฮองเฮาและฉู่จิ่นเหยาล้วนถูกคนล้อมไว้แน่นหนา ส่วนสนมชายาที่รากฐานตื้นเขินคนอื่นกลับไม่มีวาสนานี้ เหลียนผินที่เพิ่งได้ยกฐานะ ปกติยังเห็นไม่ชัดเจน แต่พอถึงเวลาเช่นนี้ก็ปรากฏให้เห็นสภาพอับจนข้างกายไร้คน นางปกป้องครรภ์ตนเองไว้ กำลังตื่นตระหนกทำอะไรไม่ถูก ทันใดนั้นด้านหลังก็ถูกคนผลักอย่างแรง นางปราศจากการป้องกัน กรีดร้องได้คราเดียวก็ถลาลงน้ำ
ฉู่จิ่นเหยาถูกเสียงกรีดร้องที่ดังขึ้นข้างหูอย่างกะทันหันทำเอาตกใจ นางยังไม่ทันมีอาการตอบสนองก็รู้สึกว่าตนเองถูกใครบางคนคว้าจับไว้ เสียงน้ำแตกกระจายดังตามกันมาติดๆ บนระเบียงเงียบกริบ ก่อนจะเกิดเสียงร้องลั่นดังขึ้นทันที
“ชายารัชทายาทกับเหลียนผินตกน้ำแล้ว!”
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 13 พ.ค. 68