ฉือชั่นหมดคำพูด เขามองดูเด็กสาวแล้วคับอกคับใจแปลกๆ ลูบจมูกแล้วหมุนกายเดินไป
อีกสามคนที่ตามเข้ามากลับไม่ยอม หนึ่งในนั้นลุกลนเอ่ยขึ้น “ท่านหมอเทวดา นี่…ไม่ใคร่สะดวกกระมังขอรับ”
เจ้านายกำชับนักกำชับหนาว่าต้องเชิญหมอเทวดากลับไปเงียบๆ จะให้เกิดปัญหาอื่นแทรกขึ้นไม่ได้เด็ดขาด
หมอเทวดาหลี่ถลึงตา “มีอะไรไม่สะดวกรึ หากพวกเจ้ารู้สึกไม่สะดวกก็ไปเอาเอง! แม่นางน้อยผู้นี้ป่วยหนักอยู่ ผู้เป็นแพทย์ต้องมีจิตใจเมตตาการุณย์ แล้วข้าจะเห็นคนตายต่อหน้าแล้วไม่ช่วยได้หรือ”
ทั้งสามคนแอบเหยียดมุมปากพร้อมกัน
พูดราวกับว่าท่านมีจิตใจเมตตาการุณย์เหลือเกินก็ไม่ปาน
พวกเขาต้องลำบากลำบนไม่น้อยกว่าจะตามหาหมอเทวดาผู้นี้พบ แต่พูดอ้อนวอนสารพัดก็ไม่ยอมตามพวกเขาเข้าเมืองหลวง สุดท้ายเข้าตาจนต้องงัดไม้ตายออกมา ใช้สมุนไพรวิเศษหายากต้นหนึ่งในครอบครองของเจ้านายถึงทำให้หมอเทวดาเปลี่ยนใจ
พอเจอกับแม่นางน้อยผู้นี้ก็มีใจเมตตาการุณย์เสียแล้ว?
สายตาของทั้งสามคนมองสำรวจใบหน้าของเฉียวเจารอบหนึ่งแล้วลอบคิดในใจว่าที่แท้หมอเทวดาก็ดูคนที่รูปโฉมเหมือนกัน
“พวกเจ้ายังมีข้อขัดข้องอะไรอีกหรือไม่” หมอเทวดาหลี่ถามด้วยน้ำเสียงไม่เร็วไม่ช้า
ทั้งสามคนทำหน้าซื่อๆ “ข้าน้อยมิกล้าขอรับ”
“ไม่กล้าก็ดี พาแม่นางน้อยผู้นี้ไปด้วย ไปกันเถอะ”
“รอประเดี๋ยว” ฉือชั่นไปแล้วย้อนกลับมาลากตัวหยางโฮ่วเฉิงที่ยังไม่ได้สติ เขาจ้องหน้าหมอเทวดาหลี่พลางกล่าวโดยไม่แม้แต่จะมองเฉียวเจาสักแวบ “ท่านหมอโปรดให้ความเมตตาการุณย์ ช่วยให้สหายข้าผู้นี้ฟื้นขึ้นด้วย”
หมอเทวดาหลี่เบะปากยิ้มเยาะ “ผู้เป็นแพทย์มีใจเมตตาการุณย์กับใจดีพร่ำเพรื่อมิใช่เรื่องเดียวกันนะ”
อีกสามคนผงกศีรษะพร้อมเพรียงกัน
เห็นหรือไม่ นี่ต่างหากโฉมหน้าที่แท้จริงของหมอเทวดาท่านนี้
เฉียวเจานิ่งเฉยมองดูอยู่ห่างๆ หากในใจนึกฉงนเป็นอันมาก
ในความทรงจำแม้ว่าหมอเทวดาหลี่จะเป็นมิตรกับนาง นั่นเป็นเพราะว่าเขากับท่านปู่เป็นสหายสนิทกัน อีกทั้งนางนั้นก็พอถูๆ ไถๆ นับได้ว่าเป็นลูกศิษย์เขาครึ่งตัว แต่กับคนอื่นเขาจะไม่ชอบสุงสิงด้วยเสมอ
เพราะเหตุใดพอได้พบกันครั้งแรกหลังนางกลายเป็นหลีเจา หมอเทวดาหลี่ถึงอยากให้นางติดตามอยู่ข้างกาย
หรือว่าเสียงเรียก ‘ท่านปู่หลี่’ ทำให้ท่านผู้เฒ่าบังเกิดความสงสัยในที่สุดใช่หรือไม่
นอกจากท่านปู่ที่สิ้นบุญไปแล้ว ไม่มีคนใดแจ่มแจ้งยิ่งกว่าเฉียวเจาว่าหมอเทวดาท่านนี้เป็นผู้มีความสามารถล้ำเลิศน่าทึ่งปานใด วิชาแพทย์ของเขาลึกล้ำเกินหยั่ง ช่วงที่ผ่านมายิ่งใกล้เทียบขั้นเซียนแล้ว คนอย่างนี้จะสัมผัสถึงเรื่องลี้ลับพิสดารบางอย่างได้เฉียบไวกว่าคนธรรมดาสามัญ หาใช่เรื่องแปลกไม่
ท่ามกลางบรรยากาศหนักอึ้ง เฉียวเจาอ้าปากพูด “ท่านหมอเทวดาเจ้าคะ พวกพี่ฉือสามคนเป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตข้าไว้ ข้าอยากรอหลังจากพี่จูกลับมาและพี่หยางฟื้นสติแล้ว กล่าวอำลากับพวกเขาก่อนค่อยติดตามท่านไปเจ้าค่ะ”
ถึงแม้นางไม่รู้ว่าเกิดเรื่องใดขึ้นระหว่างที่นางหมดสติ แต่คาดเดาได้ว่าพี่หยางเป็นเช่นนี้น่าจะเป็นเพราะนาง ด้านหมอเทวดาหลี่ก็สนใจนางอย่างเห็นได้ชัด ดูทีว่าคงไม่ปฏิเสธเรื่องเล็กน้อยนี้ตามคำขอของนางเป็นแน่
ไม่เหนือความคาดหมายของเฉียวเจาจริงๆ หมอเทวดาหลี่ฟังนางกล่าวจบก็ก้าวขาเดินไปข้างกายหยางโฮ่วเฉิง เอายาลูกกลอนสีใสแวววาวเม็ดหนึ่งวางบนมือและตบเข้าปากเขาทันที