จูเยี่ยนมองสหายรักอย่างพินิจครู่หนึ่ง รู้สึกว่าคนบางคนกำลังโกรธงอนอยู่ในใจแล้ว
เขากลั้นยิ้มพลางรุนหลังเด็กสาวที่ตามติดอยู่ข้างกายออกไป “คุณหนูหลี หนทางกลับเมืองหลวงยาวไกล เจ้าตัวคนเดียวมีเรื่องไม่สะดวกอยู่มาก ข้าซื้อสาวใช้ผู้หนึ่งมาให้”
เฉียวเจาแปลกใจอยู่บ้าง นางมองสาวใช้แวบหนึ่ง เห็นหน้าตาหมดจดสะอาดตา มาตรว่าอยู่ต่อหน้าผู้คนมากมายจะดูประหม่าอยู่บ้างแต่ไม่ตัวสั่นงันงก บ่งบอกได้ว่าเขาเลือกเฟ้นอย่างพิถีพิถันแล้ว ในใจก็อบอุ่นอย่างช่วยไม่ได้ นางพูดอย่างซาบซึ้งจากใจจริง “ขอบคุณที่ใส่ใจเจ้าค่ะ พี่จู”
จูเยี่ยนส่งยิ้มน้อยๆ ให้นางแล้วหันไปเอ่ยกับหมอเทวดาหลี่ “พวกข้าเหมาเรือลำนี้ไว้ ยังมีห้องว่างไม่น้อย ในเมื่อต่างจะกลับเมืองหลวง ไยท่านหมอเทวดาไม่ไปพร้อมกับพวกข้าขอรับ”
หยางโฮ่วเฉิงตบศีรษะตนเอง “จริงสิ เดินทางด้วยกันก็สิ้นเรื่อง ข้ามัวตื่นตระหนกจนลืมไปเสียได้”
จูเยี่ยนส่งสายตาถาม สหายรักเป็นคนไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดินแล้วจะตื่นตระหนกอะไร
หยางโฮ่วเฉิงแบมือยักไหล่อย่างจนใจ
หมอเทวดาที่ยืนอยู่ตรงหน้าท่านนี้โปรยเข็มปักผ้าตามสบายยังทำให้เขาโดนพิษจนล้มตึง ส่วนรสเผ็ดร้อนของยาถอนพิษนั่นคงยากที่เขาจะลืมเลือนไปชั่วชีวิต แล้วเขาจะไม่ตื่นตระหนกได้หรือ แค่ว่าอย่ายกเรื่องน่าอายพรรค์นี้มาพูดต่อหน้าธารกำนัลเลย
ฉือชั่นมิได้เอื้อนเอ่ยวาจาแต่กลับเงี่ยหูผึ่ง
ฝ่ายเฉียวเจามีสีหน้าเรียบเฉย นางรู้ว่าหมอเทวดาหลี่ต้องไม่เห็นด้วยแน่ เหตุผลน่ะหรือ…
หมอเทวดาหลี่โบกมือไปมาพลางกล่าวโพล่งคำหนึ่ง “ไม่ได้ ข้าเมาเรือ”
“…” ทุกคนถึงกับพูดคำใดไม่ออก
หมอเทวดาหลี่ไม่สนใจว่าใครจะคิดอย่างไรโดยสิ้นเชิง เขาหมุนกายไปพูดกำชับเฉียวเจา “รีบเก็บของเถอะ ข้ารอเจ้าที่ท่าเรือ”
“เจ้าค่ะ” นางขานตอบอย่างว่าง่าย
รอเมื่อทุกคนออกไปหมดแล้ว เหลือเพียงเฉียวเจากับสาวใช้ที่เพิ่งซื้อมาใหม่สองคน นางถึงพูดอย่างสุภาพนุ่มนวล “รบกวนเจ้าด้วย”
“คุณหนูจะทำให้บ่าวอายุสั้นนะเจ้าคะ” สาวใช้เริ่มเก็บของอย่างคล่องแคล่ว พลางลอบประหลาดใจที่เจ้านายคนใหม่โฉมงามพริ้มเพราอ่อนหวานทว่านิสัยเฉยเมยเงียบขรึม
นางหาได้รู้ไม่ว่าเพลานี้เฉียวเจากำลังทรมานทั้งกายใจ เมื่ออารมณ์ที่ตึงเครียดอยู่ผ่อนคลายลง ไหนเลยจะยังอยากกล่าววาจา
เฉียวเจามีสัมภาระนับชิ้นได้ สาวใช้เก็บเสร็จใช้เวลาไปยังไม่ถึงหนึ่งถ้วยชา* นางถือห่อผ้าห่อเล็กๆ แล้วบอกกับเฉียวเจาที่เอนกายงีบหลับอยู่บนเตียง “คุณหนู เก็บของเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ”
เฉียวเจาลืมตาขึ้น ดวงตาดำสนิททั้งคู่มีประกายเพียงน้อยนิด นางฝืนลุกขึ้น “ประคองข้าออกไปเถอะ”
นางเดินเองไม่ไหวเพราะเป็นไข้จนอ่อนระโหยโรยแรงไปทั้งสรรพางค์กายแล้ว
สาวใช้สืบเท้าก้าวหนึ่งเข้ามาพยุงแขนนาง
นายบ่าวสองคนเดินออกไปก็เห็นจูเยี่ยนกับหยางโฮ่วเฉิงรออยู่ด้านนอก แต่กลับไร้วี่แววของฉือชั่น