ทดลองอ่าน หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม เล่ม 1 บทที่ 17-บทที่ 18 – หน้า 3 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม เล่ม 1 บทที่ 17-บทที่ 18

แม่หนูหลีกับแม่หนูเฉียวคล้ายคลึงกันทุกอย่าง หากที่สำคัญกว่าคือตอนเขาเจอแม่หนูหลีครั้งแรกก็พบว่านางว่ามีลักษณะของอาการถอดวิญญาณ แล้วแม่หนูเฉียวก็ไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างปกติสุขที่แดนเหนือเช่นที่เขานึกไว้ แต่ลาลับจากโลกนี้ไปก่อนวัยอันควร…

หมอเทวดาหลี่มีเหงื่อออกกลางฝ่ามือ หัวใจเต้นถี่รัว

จะมีความเป็นไปได้เช่นนั้นหรือไม่นะ

เขารู้ว่าการคาดคะเนนี้น่าตกตะลึงเหลือเชื่อ ถ้าเกิดกับตัวผู้อื่นคงไม่กล้าคิดไปในทางนี้เป็นอันขาด แต่เขาไม่เหมือนใคร ช่วงที่ผ่านมานี้สิ่งที่เขาศึกษามาโดยตลอดก็คือศาสตร์นี้!

หมอเทวดาหลี่กระแอมกระไอให้คอโล่งก่อนอ้าปากพูดหยั่งเชิง “แม่หนูหลี ในเรือนเจ้ามีใครบ้างหรือ”

เฉียวเจาแปลกใจอยู่บ้าง ด้วยหมอเทวดาหลี่มิใช่คนที่จะสนใจเรื่องสัพเพเหระเช่นนี้

นางควานหาคำตอบจากความทรงจำของหลีเจาที่เหลืออยู่ในหัวก่อนเอ่ยตอบ “ท่านปู่ล่วงลับไปนานแล้วเจ้าค่ะ ในเรือนมีท่านย่า ท่านพ่อ ท่านแม่ กับพวกพี่ๆ น้องๆ”

หมอเทวดาหลี่ลูบจมูก

นี่มิใช่พูดก็เหมือนไม่พูดรึ เรือนใครบ้างไม่มีคนพวกนี้ มิใช่เกิดจากกระบอกไม้ไผ่สักหน่อย

ดูท่าทางสงบนิ่งของแม่นางน้อยแล้ว หมอเทวดาหลี่ยิ่งไม่มั่นใจ เขาลองหยั่งเชิงอีกครั้งอย่างไม่ถอดใจ “แม่หนูหลีเมื่อก่อนเคยได้ยินชื่อแม่ทัพเซ่าหรือไม่”

เฉียวเจาอึ้งงันไป นางนิ่งคิดแล้วกล่าวตอบในฐานะของแม่นางน้อยหลีเจา “ได้ยินกิตติศัพท์มานานแล้วเจ้าค่ะ”

นับตั้งแต่เซ่าหมิงยวนออกรบครั้งแรก เขาก็กลายเป็นดาวแม่ทัพที่เจิดจ้าบาดตาที่สุดไปเสียแล้ว ทั้งยังเปล่งแสงระยิบระยับกลางท้องฟ้าต้าเหลียงมายาวนานถึงเจ็ดแปดปี แล้วจะมีใครไม่เคยได้ยินเล่า

หมอเทวดาหลี่ลอบถอนใจเบาๆ บางทีเขาคงคิดมากไปเอง

หรือบางทีเขาอาจจะคาดหวังอยากให้เด็กที่ฉลาดเฉลียวใจคอกว้างขวางผู้นั้นยังมีชีวิตอยู่มากจนเกินไป

เมื่อล้มเลิกความคิดที่จะหยั่งเชิงแล้ว หมอเทวดาหลี่ก็หยิบผลไม้สีเขียวๆ ลูกหนึ่งจากในถาดมากัดคำหนึ่ง

“ถุย! เปรี้ยวจนเข็ดฟัน”

หลังผลไม้สีเขียวที่กัดไปแล้วคำหนึ่งถูกโยนออกไปทางนอกหน้าต่างพุ่งลอยเป็นวิถีโค้งอย่างงดงาม ก็ได้ยินเสียงร้องโอดโอยดังขึ้น

“จอดๆ พวกไร้สำนึกคนใดกันที่โยนผลไม้ออกทางหน้าต่างเช่นนี้”

เฉียวเจาปล่อยม่านหน้าต่างลง สบช่องชำเลืองมองข้างนอกแวบหนึ่ง เห็นหนุ่มฉกรรจ์ผู้หนึ่งยกมือข้างหนึ่งกุมหน้าผากวิ่งห้อสุดฝีเท้าไล่กวดตามรถม้ามา เป็นเหตุให้คนบนถนนหยุดยืนมองไปตามๆ กัน

ต่อจากนั้นองครักษ์คนหนึ่งกระโดดลงจากรถม้าทันที เขาเดินเข้าไปพูดอธิบายอะไรสักอย่างก็สุดรู้ ชายฉกรรจ์ผู้นั้นถึงจากไปด้วยสีหน้าพึงพอใจ

พอองครักษ์ย้อนกลับมา สหายด้านข้างก็ไต่ถามเสียงเบาๆ “หนนี้จ่ายเท่าไรถึงไล่ไปได้”

องครักษ์ตอบด้วยสีหน้าชืดชา “อย่าเอ่ยถึงมันเลย หมดไปอีกสองตำลึงเงินแล้ว”

เหล่าสหายด้านข้างพากันถอนใจ ลอบรำพึงว่าเส้นทางนี้ยากลำบากนักหนา ขืนปล่อยให้ท่านบรรพบุรุษบนรถม้าท่านนั้นก่อความวุ่นวายไปเรื่อยๆ พวกเขาคงต้องเอากระบี่พกไปจำนำแล้ว

หัวหน้าองครักษ์ทำหน้าละห้อย “เร่งความเร็ว พรุ่งนี้ต้องไปถึงเมืองหลวงให้ได้”

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ชาตินี้ข้าจะรักท่านให้มาก

ทดลองอ่าน ชาตินี้ข้าจะรักท่านให้มาก บทที่ 67-68

บทที่ 67 ถึงจะเป็นช่วงพักกลางวัน ทว่าหวาหยางกลับไม่อาจข่มตาหลับ นางนอนอยู่บนเตียงร่วมกับชีฮองเฮา ประเดี๋ยวก็พูดจาอิงแอบอ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน สานวาสนากับท่านอาของอดีตคู่หมั้น บทที่ 71-73

บทที่ 71 จีเสวียนเค่อใช่ว่าจะมีวรยุทธ์เก่งกาจ ทว่าเขาพาคนมามากมาย คนจากสำนักบูรพาเห็นสถานการณ์ไม่สู้ดีนักจึงล่าถอยอย่างร...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน สานวาสนากับท่านอาของอดีตคู่หมั้น บทที่ 80-81

บทที่ 80 เสียงของกู้เจี้ยนหลีค่อยๆ เบาลงเรื่อยๆ ถึงท้ายประโยคก็แทบไม่ได้ยินแล้ว นางก้มหน้าลง มือกำชายเสื้ออย่างเก้อกระดา...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน สานวาสนากับท่านอาของอดีตคู่หมั้น บทที่ 74-76

บทที่ 74 กู้เจี้ยนหลีละล่ำละลักพูด “หากยังไม่กลับอีกจะสายเกินไปแล้ว ท่านพ่อ ครั้งหน้าลูกจะไปเยี่ยมที่จวนอ๋องนะเจ้าคะ จี้...

community.jamsai.com