บทที่ 175
อาจูมองไปทางเฉียวเจา
นางไม่แสดงท่าทีใดเป็นเชิงอนุญาตกลายๆ
แววตาของอาจูไหววูบหนึ่ง
ท่าทีของคุณหนูแปลกไปอยู่บ้าง หากเป็นเช่นนี้ ไยต้องฝืนทนกลับมาถึงเรือนแล้วค่อยเชิญหมอมานะ
ขณะที่ทางนี้กำลังวิ่งวุ่นจ้าละหวั่นไปเชิญหมอมา อีกด้านหนึ่งที่เรือนชิงซง ฮูหยินผู้เฒ่าเติ้งได้ข่าวอย่างว่องไว นางก็มาที่เรือนหยาเหอทันที
“เหอซื่อ เจาเจาเป็นเช่นไรบ้าง”
เหอซื่อร้องไห้จนตาแดงเรื่อ “ท่านหมอกำลังทำแผลให้เจาเจาอยู่เจ้าค่ะ เจาเจาของข้า บนใบหน้ามีบาดแผลใหญ่เพียงนั้นจะเจ็บสักเพียงใดนะ ข้ายังไม่กล้าแม้แต่จะมองดู เห็นแล้วใจแทบสลาย”
“ข้าไปดูสักหน่อย” ฮูหยินผู้เฒ่าเติ้งย่างเท้าเข้าไป
ตอนหญิงชราเข้าไปในเรือน ท่านหมอทำแผลเสร็จพอดี ด้วยเหตุนี้มองปราดเดียวก็เห็นรอยแผลน่าเกลียดน่ากลัวบนแก้มขวาของเฉียวเจาได้
ลมหายใจของฮูหยินผู้เฒ่าเติ้งสะดุดขาดห้วงทันใด มือนางสั่นระริกอย่างสุดระงับ “ท่านหมอ โปรดใช้ยาดีที่สุดรักษาหลานสาวข้า ไม่ว่าเสียเงินเท่าไรก็มิเป็นไร”
ท่านหมอโคลงศีรษะ “รอยแผลบนใบหน้าหลานสาวท่านลึกเกินไป ใช้ยาดีเพียงใดก็ต้องเหลือรอยแผลเป็น”
เหอซื่อซึ่งตามเข้ามาได้ยินแล้วถลันเข้าไปจับแขนเสื้อของหมอ “ท่านหมอ ข้าขอร้องท่านล่ะ ท่านต้องคิดหาหนทางอย่าให้หน้าบุตรสาวข้ามีแผลเป็นให้ได้นะ”
ท่านหมอตะลึงตาค้าง เขารีบสะบัดมือเหอซื่อออกแล้วกล่าวอธิบาย “เรื่องนี้ข้าสุดปัญญาจริงๆ ไม่เกี่ยวกับว่าเสียเงินเท่าไร…”
“ข้าจะไปที่จวนตะวันออก” ฮูหยินผู้เฒ่าเติ้งอ้าปากพูดขึ้นฉับพลัน
“ท่าน?” เหอซื่อไม่เข้าใจเหตุผล
“ข้าไปถามท่านเซียงจวินดูว่ามียาขี้ผึ้งน้ำค้างแข็งเมฆาของพระราชทานจากวังหลวงหรือไม่”
ยาขี้ผึ้งน้ำค้างแข็งเมฆานี้ทำขึ้นเพื่อหมู่เชื้อพระวงศ์โดยเฉพาะ มีสรรพคุณรักษาบาดแผลภายนอกได้ดีเยี่ยม เป็นหนึ่งในของพระราชทานซึ่งเป็นที่นิยมชมชอบของทุกๆ ตระกูลมาทุกยุคทุกสมัย ฮูหยินผู้เฒ่าเจียงของจวนตะวันออกต้องมีอยู่ในมือเป็นแน่
ท่านหมอกล่าวตัดบทพวกนางสองคน “ฮูหยินผู้เฒ่าเติ้ง ยาขี้ผึ้งน้ำค้างแข็งเมฆาที่ท่านเอ่ยถึง ข้าเคยใช้มาก่อน พูดตามสัตย์จริง ต่อให้เป็นยาขี้ผึ้งน้ำค้างแข็งเมฆาชั้นเลิศที่สุดก็ไม่อาจช่วยให้หลานสาวของท่านไม่มีแผลเป็น”
เรื่องเกี่ยวพันถึงบุตรสาวหัวแก้วหัวแหวน เหอซื่อย่อมไม่เสียดายเงินทองแน่นอน คนที่เชิญมาจึงเป็นหมอชื่อดังที่สุดของเมืองหลวง แล้วเป็นธรรมดาที่หมอระดับนี้จะมีลู่ทางหายาขี้ผึ้งน้ำค้างแข็งเมฆามาได้
พอหมอกล่าวถ้อยคำนี้ขึ้น ฮูหยินผู้เฒ่าเติ้งก็พลันมีสีหน้าหม่นลงทันใด นางคิดคำนึงในใจ หลานเจาน่าสงสารจริงๆ ชะรอยฟ้าลิขิตไว้เฉกนี้ หลานเจาเสียโฉม วันหน้าก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะออกเรือน ดีที่เหอซื่อรักบุตรสาว ข้าเองก็ไม่ถือสาที่จะเลี้ยงดูหลานสาวผู้หนึ่งไว้เฉยๆ อีกหน่อยต้องชี้แนะตักเตือนฮุยเอ๋อร์เด็กผู้นั้นว่าอย่าแล้งน้ำใจกับน้องสาวผู้นี้ก็แล้วกัน
ฝ่ายเหอซื่อฟังแล้วกอดเฉียวเจาร้องไห้สุดเสียง “เจาเจา ไม่ต้องกลัวนะ ถึงแม่ต้องใช้สินเจ้าสาวทั้งหมดเชิญหมอชื่อดังทั่วทั้งแผ่นดิน ก็ต้องรักษาใบหน้าของเจ้าให้หายดี”
มุมปากของหมอกระตุกริก เขาอ้าปากพูด “ฮูหยิน ท่านถอยออกมาได้หรือไม่ ข้าจะใส่ยาให้บุตรสาวท่าน”
เหอซื่อได้ยินก็คลายมือออก น้ำตาหลั่งรินเป็นสายประหนึ่งสร้อยมุกขาดร่วงลง
เฉียวเจาปริปากขึ้นในที่สุด “ข้านึกขึ้นได้แล้ว ท่านปู่หลี่ทิ้งยารักษาบาดแผลไว้ให้ข้าเจ้าค่ะ อาจู เจ้าไปหยิบตลับหยกขาวตรงก้นหีบสมุนไพรในห้องคลังมาสิ”
อาจูฟังจบแล้วก็ออกไปทันที เฉียวเจายอบกายคารวะหมอ “ขอบคุณท่านหมอที่ทำแผลให้ข้า แต่ไม่ต้องใส่ยาแล้ว ข้ามียาที่ดีกว่าเจ้าค่ะ”
ท่านหมอได้ยินคำนี้ไม่พึงใจอย่างมาก หันไปมองฮูหยินผู้เฒ่าเติ้งทันที