ทดลองอ่าน หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม บทที่ 421-บทที่ 422 – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม บทที่ 421-บทที่ 422

ตอนเซ่าหมิงยวนพาคนกลับไปที่เรือนของหญิงขายเต้าหู้ ฉือชั่นกับหยางโฮ่วเฉิงเห็นแล้วพากันตกใจยกหนึ่ง

“นี่…นี่เป็นคนในภาพวาดของคุณหนูหลีมิใช่หรือ” หยางโฮ่วเฉิงดึงตัวเซ่าหมิงยวนไปนอกเรือน เอ่ยถามเสียงค่อยๆ

“อื้อ” เซ่าหมิงยวนผงกศีรษะ

ฉือชั่นที่อยู่ด้านข้างถอนใจเบาๆ “หลีซานวาดได้เหมือนดีแท้”

หยางโฮ่วเฉิงพูดเออออไม่หยุด “เหมือนเป็นที่สุด ข้ามองปราดเดียวก็ดูออกแล้ว ถิงเฉวียน พวกเจ้าหาคนผู้นี้เจอได้อย่างไร”

เซ่าหมิงยวนยิ้มน้อยๆ “เดินเข้ามาติดกับดักเอง คนผู้นี้สะกดรอยตามข้ามาตลอดหลายวันนี้”

“สะกดรอยตามเจ้า?” หยางโฮ่วเฉิงขบขันอย่างสุดระงับ “คนผู้นี้รนหาที่ตายรึ”

“ไม่ใช่ ฝีมือเขายอดเยี่ยมอย่างยิ่ง ต้องบอกว่าเขาโชคไม่ดีเอง”

ถ้าเจ้านั่นสะกดรอยตามคนอื่น คงไม่พบกับบทลงเอยเช่นนี้

“หลีซานเล่า นางกลับมาถึงก็เข้าห้องแล้วไม่ออกมาเลยหรือ” ยามเอ่ยถึงเฉียวเจา สีหน้าของฉือชั่นไม่ผิดไปจากเดิมอีก ประหนึ่งว่าความรักแบบเด็กหนุ่มนั่นไม่เคยปรากฏมาก่อน

หยางโฮ่วเฉิงเบิกตากว้างกะทันหัน เขาเลียริมฝีปากแล้วกล่าว “คุณหนูหลีออกมาแล้ว”

ทั้งสามหันไปมองก็เห็นเด็กสาวในชุดเรียบๆ ถือท่อนเหล็กเขี่ยไฟเดินมา

ฉือชั่นกับหยางโฮ่วเฉิงมองหน้ากันไปมา เห็นชัดว่าไม่กระจ่างแจ้งว่านี่เป็นเรื่องอะไรกัน

ส่วนเซ่าหมิงยวนรู้สึกหนังศีรษะชาวาบ เขายิ้มแหยๆ พลางกล่าวว่า “เจาเจา เหล็กเขี่ยไฟหนักหรือไม่”

ฉือชั่นกับหยางโฮ่วเฉิงกลอกตาขึ้นพร้อมกัน

พวกเขารู้สึกไม่วายว่านับแต่สหายรักเปิดเผยความรู้สึกที่มีต่อคุณหนูหลีแล้วยิ่งมายิ่งหัวทื่อ

“ไม่หนัก” เฉียวเจาเม้มปาก นางกล่าวถาม “คนผู้นั้นอยู่ข้างในหรือ ข้าไปดูสักหน่อย”

นางกล่าวจบแล้วไม่รอดูท่าทีของคนทั้งสาม ถือท่อนเหล็กเขี่ยไฟก้าวเท้าเข้าไป

“เส้นเอ็นข้อมือของคนผู้นั้นขาดแล้ว หรือว่าคุณหนูหลีจะทำแผลให้เขา” หยางโฮ่วเฉิงพูดอย่างไม่แน่ใจ ภาพท่อนเหล็กเขี่ยไฟหนาๆ ในมือเด็กสาวแท่งนั้นวาบผ่านเข้ามาในหัวสมองไม่หยุด

ฉือชั่นยิ้มเยาะ “ดูสีหน้าของหลีซานแล้ว เจ้ารู้สึกว่าใช่หรือไม่เล่า”

เซ่าหมิงยวนตามเข้าไปโดยไม่รอช้า

อีกสองคนเห็นแล้วตามไปด้วยทันที

เพลานี้หลิวหู่ที่เส้นเอ็นข้อมือขาดและกรามหลุดถูกมัดมือมัดเท้านั่งนิ่งไม่กระดุกกระดิกอยู่บนเก้าอี้ เด็กสาวสวมชุดสีเรียบนางหนึ่งพลันเดินเข้ามามองเขาด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก

“เจ้ามีนามว่าอะไร” เฉียวเจาไต่ถาม

“เจาเจา เขาโดนดึงกรามหลุด พูดไม่ได้”

ดึงกรามให้หลุดย่อมเพื่อป้องกันเขาฆ่าตัวตาย

เฉียวเจาสาวเท้าไปตรงหน้าหลิวหู่ ล้วงยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งในถุงผ้าปักยัดใส่ปากเขาก่อนจะหันมาบอก “แม่ทัพเซ่า จับกรามเขากลับเข้าทีเถอะ”

เซ่าหมิงยวนก้าวเข้าไปยื่นมือบิดกรามเขาทีหนึ่ง

หลิวหู่ขยับๆ ปากพบว่าขยับได้แล้ว ทว่าปากด้านในอ่อนแรงไร้กำลัง แม่นางน้อยผู้นี้ให้เขากินอะไรกันแน่

“พูดได้แล้วนะ บอกนามของเจ้ามา” เฉียวเจาถามเสียงเย็นๆ

หลิวหู่เหยียดยิ้มไม่กล่าววาจา

นางเลิกคิ้วขึ้น พูดอย่างคับข้องหมองใจเป็นอันมาก “เขาไม่พูดเองนะ เช่นนั้นข้าได้แต่ให้เขาเจ็บตัวเล็กๆ น้อยๆ แล้วล่ะ”

กล่าวจบนางก็เงื้อท่อนเหล็กเขี่ยไฟในมือตีลงไปบนตัวหลิวหู่

เฉียวเจาเป็นหมอจึงแจ่มแจ้งดีที่สุดว่าส่วนใดบ้างเป็นจุดอ่อนที่ตีไม่ได้ นางหลบเลี่ยงจุดเหล่านั้น ออกแรงฟาดท่อนเหล็กเขี่ยไฟพร้อมกับนับในใจ หนึ่งที สองที สามที…

หยางโฮ่วเฉิงสะกิดสหายรักด้านข้างด้วยสีหน้างงงัน “สือซี เพราะอะไรข้ารู้สึกว่าคุณหนูหลีหาเหตุผลอะไรสักอย่างก็ได้เพื่อซ้อมเขา”

“เจ้าไม่พูด ก็ไม่มีใครนึกว่าเจ้าเป็นใบ้หรอกนะ” ฉือชั่นกล่าวเอื่อยๆ

ตีพวกที่ขวางหูขวางตาไม่กี่ทีแล้วเป็นอย่างไรหรือ แค่ไม่รู้ว่าเจ็บมือหรือไม่..

เฉียวเจาไม่แยแสความคิดของคนอื่น นางนับในใจจนถึงยี่สิบหกที แล้วยังตีแทนพวกนางสามพี่น้องอีกคนละหนึ่งทีถึงโยนท่อนเหล็กเขี่ยไฟไปด้านข้าง หยุดหอบหายใจน้อยๆ

ตอนที่ตีไปได้ยี่สิบหกที นางก็ใช้เรี่ยวแรงในกายไปจนหมดสิ้น กระนั้นคนที่สังหารชาวสกุลเฉียวไปยี่สิบหกชีวิตกลับสบายเช่นนี้

หากทำได้นางอยากสับคนผู้นี้เป็นหมื่นๆ ชิ้นถึงจะหายแค้นใจ

เพียงน่าเสียดายที่นางต้องไว้ชีวิตเขาเพื่อชี้ตัวผู้บงการที่แท้จริง

“พวกเราออกไปเถอะ คนพรรค์นี้ไม่จำเป็นต้องสอบปากคำ” เซ่าหมิงยวนปริปากพูด

ใช่ว่ายอดฝีมือระดับนี้ไม่จำเป็นต้องสอบปากคำ แต่ต้องใช้วิธีพิเศษ คนทั่วไปถามไม่ได้ความอันใดหรอก

เซ่าหมิงยวนดึงกรามของหลิวหู่ให้หลุดออกอีกครั้ง จากนั้นพวกเขาก็ออกไปพร้อมกัน

“ฉงซาน คืนนี้บอกคนของเจ้าว่าอย่านอนหลับ ตกดึกน่าจะมีศึกหนัก”

หยางโฮ่วเฉิงฟังแล้วอดฉีกปากยิ้มฝืดๆ ไม่ได้ “ถิงเฉวียน เจ้าอย่าขู่ให้ข้าตกใจ ผู้ใต้บังคับบัญชาข้าพวกนั้นให้กินดื่มเที่ยวเล่นข่มขู่คนน่ะได้ แต่ศึกหนักคงไม่ไหว”

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 84.1-84.2

    By

    บทที่ 84.1 ชายาเป่ยเจิ้นอ๋องมองชุดรัดเอวแขนหลวมทำจากผ้าพลิ้วกรุยกรายลายปักซูซิ่ว บนร่างองค์หญิงอวี๋หยางอีกครา ดูคล้ายกับแบบที่ซูลั่วอวิ๋นสวม...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 83.1-83.2

    By

    บทที่ 83.1 หานเหยาได้ยินน้องชายพูดขึ้นมา นางก็เอ่ยอย่างลิงโลด “ดี! พี่สะใภ้ ท่านไม่ต้องกลับไปที่หมู่บ้านเฟิ่งเหว่ยแล้ว ที่นั่นวุ่นวายเหลือเก...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 82.1-82.2

    By

    บทที่ 82.1 ที่แท้จ้าวกุยเป่ยคิดว่าให้สัญญากับหานเหยาไว้ว่าจะมารับลูกอมก็จำเป็นต้องรักษาคำพูดหรือไร หานหลินเฟิงคร้านจะแยแสบุรุษหัวทึบผู้นี้ เ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 5-6

    By

    บทที่ 5 ราตรีวุ่น แววตาเสิ่นเฉียนมืดทะมึน กัดริมฝีปาก ปลายคางเกร็งแน่นเผยความแข็งกร้าวอยู่ในที “ที่แท้ถูกเด็ดปีกหมดสิ้นแล้วเนรเทศมาให้ข้านี่...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 81.1-81.2

    By

    บทที่ 81.1 ฉิวเจิ้นเพ่งตามองดูแล้วก็พบว่าไม่เพียงกำแพงของค่ายเสบียงมีการต่อเติมให้สูงขึ้น ยังขุดคูลึกรอบตัวกำแพงทั้งด้านนอกด้านในเพิ่มอีกสอง...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 3-4

    By

    บทที่ 3 หงหลวนแต่งงาน ลมราตรีพัดกรู แสงจันทร์สาดส่อง ภายในหอตั้นเสวี่ยของจวนสกุลเซี่ยเวลานี้ เซี่ยจิ่นสองมือไพล่หลัง ฟังน้องชายตัวน้อยเซี่ยซ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 1-2

    By

    บทที่ 1 ลมตะวันตกพัดมา สุริยันจมลับประจิม แสงสายัณห์สาดส่องขอบฟ้า เสิ่นเฉียนเปลี่ยนม้าไปตัวหนึ่งแล้วในจุดพักม้า เช่นนี้จึงเร่งมาถึงนอกเมืองห...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

community.jamsai.com