“เพราะอะไรในตำบลนี้ถึงไม่มีหญิงสาวเลยนะ หรือว่าจะถือธรรมเนียมเคร่งครัดกว่าเมืองหลวง พวกหญิงสาวต้องอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน” หยางโฮ่วเฉิงกรอกน้ำชาเข้าปากหลายคำแล้วเอ่ยขึ้นอย่างฉงนฉงาย
ฉือชั่นตวัดสายตามองเฉียวเจาก่อนกล่าวเอื่อยๆ “แทนที่จะเดาส่งเดช มิสู้ถามตรงๆ ไปเลย”
หยางโฮ่วเฉิงมองไปทางเซ่าหมิงยวน
เขาอมยิ้มกล่าวว่า “สือซีพูดถูก ถามตรงๆ ดีที่สุด ง่ายดาย ป่าเถื่อน แต่ได้ผล”
การล้วงถามคนแต่ละประเภทต้องใช้วิธีการไม่เหมือนกัน สำหรับพวกเสี่ยวเอ้อร์ในร้านสุรานี้ ถามเอาตรงๆ ดีที่สุด
ฉือชั่นตบแขนหยางโฮ่วเฉิง “หยางเอ้อร์ เรื่องนี้ต้องมอบให้เจ้าแล้ว”
“ไฉนเป็นข้าอีกแล้วเล่า เมื่อครู่ข้าก็แสร้งทำตัวเป็นอันธพาลแล้ว ตอนนี้เปลี่ยนคนอื่นบ้างไม่ได้หรือ”
“เพราะหน้าตาเจ้าเหมือนที่สุด ให้ข้าแสร้งทำต้องเปลืองแรงเพียงใดกัน”
หยางโฮ่วเฉิงหัวเราะแหะๆ “แต่ถ้าปลอมเป็นเด็กสาวล่ะก็ สือซี เจ้าเหมาะสมที่สุด”
ฉือชั่นหน้าบึ้ง อดนึกถึงเรื่องที่เคยปลอมตัวเป็นสตรีแฝงกายเข้าจวนสกุลหลีไม่ได้
ตอนนั้นไม่รู้สึกใส่ใจ แต่บัดนี้คิดๆ ดูแล้ว หรือว่าหลีซานเห็นเขาสวมอาภรณ์สตรียังดูงามกว่านางก็เลยมีปมด้อยกัน
เมื่อคิดไปอย่างนี้ฉือชั่นก็นึกเสียใจภายหลังไม่หยุด เป็นธรรมดาที่จะชักสีหน้าใส่สหายมากขึ้น
หยางโฮ่วเฉิงรู้ตัวว่าพลั้งปากก็ยิ้มเก้อๆ พอดีเสี่ยวเอ้อร์ยกสุราอาหารเข้ามา เขารอให้ทุกอย่างวางบนโต๊ะเรียบร้อยค่อยยื่นมือไปคว้าข้อมือของเสี่ยวเอ้อร์หมับ พูดอย่างดุร้ายว่า “ไปยืนชิดผนัง”
เขาเป็นคนมือหนัก เสี่ยวเอ้อร์รู้สึกเจ็บตรงข้อมือแทบขาดใจทันที ได้แต่ยืนชิดผนังอย่างว่าง่ายพลางถามเสียงละห้อย “ท่านยังมีสิ่งใดจะสั่งกำชับอีกหรือขอรับ”
“เพราะอะไรที่นี่ถึงไม่เห็นหญิงสาวเลย” หยางโฮ่วเฉิงถามตรงเข้าเรื่อง
เมื่อถ้อยคำนี้ดังขึ้นเสี่ยวเอ้อร์หน้าถอดสีกะทันหัน เขาสั่นศีรษะถี่ๆ พลางกล่าวว่า “ข้าไม่ทราบเรื่องนี้ ไม่ทราบ…”
“เกี่ยวข้องกับทางการหรือ” เซ่าหมิงยวนพลันปริปากถาม
ชาวบ้านปิดปากเงียบสนิทเฉกนี้ มีโอกาสแปดถึงเก้าในสิบส่วนว่าเรื่องราวเกี่ยวพันโยงใยไปถึงขุนนางท้องถิ่น
เสี่ยวเอ้อร์นิ่งขึงไปกับคำถามของชายหนุ่ม
เซ่าหมิงยวนวางมือลงบนโต๊ะ ตอนยกมือออกก็มีก้อนเงินเล็กๆ ก้อนหนึ่งอยู่บนนั้น เขากล่าวด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง “พวกข้าแค่ผ่านมาทางนี้ ที่สอบถามเรื่องนี้มิได้มีความหมายอื่นใด เพราะพบว่าที่นี่ไม่มีหญิงสาว ถึงได้เป็นห่วงความปลอดภัยของคู่หมั้นข้าแต่เพียงประการเดียวเท่านั้น หวังว่าพี่ชายจะไขความกระจ่างให้พวกข้าด้วย เจ้าพูดแล้วก็ผ่านไป พวกข้าฟังแล้วก็ผ่านไป มีเพียงเท่านี้”
คู่หมั้น?
มุมปากของฉือชั่นกระดกขึ้น หยางโฮ่วเฉิงรีบเตะเขาอยู่ใต้โต๊ะด้วยความตกใจ
คุณชายฉือขอรับ ถอนตัวแล้วก็อย่าสร้างปัญหาขึ้นอีก คู่หมั้นก็คู่หมั้นสิ คุณหนูหลียังไม่คัดค้านเลยนะ ถามให้รู้เรื่องรู้ราวก่อนเป็นสำคัญ
ฉือชั่นเม้มมุมปาก
ข้าแค่ประหลาดใจในความหน้าหนาของเซ่าหมิงยวน เรื่องอะไรหยางเอ้อร์ต้องเตะข้าด้วย เจ้าลูกเต่าบัดซบ!
แม่นางเฉียวซึ่งหยางโฮ่วเฉิงนึกว่าไม่คัดค้านสักนิดลอบกำมือเป็นหมัดแน่น
ช่างเถิด เรื่องงานสำคัญกว่า
ถ้อยคำของเซ่าหมิงยวนทำให้เสี่ยวเอ้อร์ลังเลใจครู่หนึ่ง เขาเหลียวซ้ายแลขวาก่อนลดสุ้มเสียงลงกล่าว “เช่นนั้นข้าน้อยขอบอกตามตรง ที่ในตำบลนี้ของพวกข้าไม่มีหญิงสาว ไม่ใช่เพราะพวกนางล้วนเก็บตัวอยู่ในเรือนไม่ออกมาข้างนอก แต่ถูกทางการส่งไปให้ชาววอโค่วน่ะสิ”
คำกล่าวนี้สร้างความตกอกตกใจให้ทุกคนยกใหญ่
ขุนนางท้องถิ่นส่งหญิงสาวไปให้ชาววอโค่วหรือ!
เสี่ยวเอ้อร์ยกมือปาดน้ำตา “สองปีก่อนยังดีๆ อยู่ ต่อมาชาววอโค่วนับวันยิ่งมาถี่ขึ้นทุกที เพื่อรักษาความสงบสุขไว้ชั่วคราว ทางการจะคัดเลือกหญิงสาวหลายคนในตำบลส่งไปให้ชาววอโค่วเป็นระยะๆ นานวันเข้า พวกหญิงสาวที่ตายก็ตายไปที่หนีก็หนีไป ไหนเลยจะมีให้เห็นเล่าขอรับ”
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 17 ก.ย. 65 เวลา 12.00 น.