“ที่นี่มีสถานที่แห่งหนึ่งชื่อว่าสระเฟิงเยวี่ย ในสระมีกระดูกคนงาม ทุกครั้งเวลามีบุรุษรูปงามผ่านมาริมสระ กระดูกคนงามจะจำแลงกายเป็นหญิงงาม ล่อลวงบุรุษจนลุ่มหลงเคลิบเคลิ้ม หลอกล่อให้พวกเขาลงไปในสระน้ำทีละก้าว…”
“อ้อ?” ตี้อีชิวดูแคลนเรื่องราวสายลมจันทราเช่นนี้เสมอมา คนผู้หนึ่งต้องไร้สติปัญญามากเพียงใดถึงได้ถูกผีสตรีล่อลวงเช่นนี้ เขาจึงตอบส่งเดช “เช่นนั้นสตรีในสระที่จำแลงกายมาจากกระดูกคนงามคงจะงามสะคราญมากเป็นแน่”
เวลานี้บ่าวชายพาเขาเข้าไปในห้องโถงใหญ่ที่มืดสนิทแห่งหนึ่ง กลางอากาศยื่นมือออกไปมองไม่เห็นนิ้วทั้งห้า
เขาชูโคมแดงขึ้นสูงช้าๆ แสงสีแดงสลัวส่องใบหน้าเขา เผยให้เห็นใบหน้าที่ดูน่าสะพรึง “เช่นนั้น…ก็ได้แต่ให้ใต้เท้าสัมผัสด้วยตาตนเองแล้ว”
กล่าวจบเขาก็ถอยหลังไปช้าๆ
หลังจากนั้นประตูใหญ่สองบานก็ส่งเสียงดังปัง ปิดเข้าด้วยกันทันใด
ตี้อีชิวย่อมไม่กลัวอยู่แล้ว เวลานี้เองแสงอ่อนสลัวจุดหนึ่งตกกระจายอยู่เบื้องหน้า ตี้อีชิวได้ยินเสียงน้ำก็เพ่งสายตามองไป เห็นเพียงข้างหน้าเป็นสระน้ำ มีเสียงสังคีตแผ่วเบาลอยออกมาจากหลังฉากบังลม
ริ้วคลื่นในสระไหวกระเพื่อมน้อยๆ สตรีนางหนึ่งใช้มือเปล่าประคองดอกบัวขาว ก้าวขึ้นมาจากน้ำช้าๆ
เรือนผมดำของนางดั่งสาหร่าย สายน้ำไหลหยดดั่งน้ำตกดั่งไข่มุก ผ้าโปร่งบนร่างบางเบาแนบติดกับเรือนกาย ขับเน้นทรวดทรงอรชร ยากจะวาดหรือบรรยายออกมาได้
เทียนไขรอบด้านสว่างขึ้นเองเล่มแล้วเล่มเล่า โดยรอบปราศจากลม
ส่วนคนงามเอวบางร่ายรำเท้าเปล่าอยู่ในน้ำ ผิวพรรณดั่งก้อนไขมัน ท่วงท่าดั่งนกห่านป่าที่โผบิน
ตี้อีชิวลมหายใจขาดห้วงทันใด
ท่ามกลางแสงเทียนสลัวราง คนงามค่อยๆ ร่ายรำและขึ้นจากน้ำ ดอกบัวขาวที่นางประคองอยู่ดอกนั้นเห็นได้ชัดว่าซ่อนวัตถุเวทที่ทำให้เสื้อผ้าแห้งเอาไว้ ดังนั้นเมื่อนางพ้นจากผิวน้ำ ผ้าโปร่งของนางก็แห้งแล้ว เรือนผมยาวดั่งเส้นไหมดั่งหมู่เมฆ
เท้าเปล่าของคนงามย่างเหยียบลงบนขั้นบันไดหยก ราวกับในที่สุดก็สังเกตเห็นแขกแปลกหน้า
คิ้วตาของนางทรงเสน่ห์ มือหยกแบบบาง ข้างหนึ่งประคองบุปผา อีกข้างหนึ่งกระดิกนิ้วให้เด็กหนุ่ม
ใต้เท้าเจ้ากรมเหมือนถูกเกี่ยววิญญาณไป
เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตนเองได้ก้าวไปข้างหน้าหรือไม่ แต่พอได้สติกลับมาก็มาอยู่ริมสระน้ำแล้ว
คนงามอมยิ้ม ระลอกคลื่นในดวงตาดั่งน้ำตาลน้ำผึ้ง เผยประกายวาววับออกมา
นางกึ่งเอนกายอยู่ริมสระที่ปูด้วยหินสีดำ สวมอาภรณ์ผ้าโปร่งทั่วร่าง ครึ่งหนึ่งปกปิดท่อนขาขาวราวหยกไว้ อีกครึ่งหนึ่งทิ้งตัวลงในน้ำ แสงสลัวตกกระจายลงมา แขนเสื้อของนางทอประกาย ปราศจากมลทินดั่งหยกและน้ำแข็งแกะสลัก
ข้างกายนางมีป้านสุราดอกบัวขาวหนึ่งป้านกับถ้วยหยกหนึ่งใบตั้งอยู่