กองเสวียนอู่
ตี้อีชิวนั่งอยู่หลังโต๊ะ กางรายการซื้อสินค้ายาวเหยียดม้วนหนึ่ง คิ้วขมวดอย่างห้ามไม่อยู่
รองเจ้ากรมหลี่ลู่สีหน้าหนักอึ้ง “ดูจากข้าวของที่เซี่ยหยวนซูซื้อไปเหล่านี้ เหมือนว่าเขากำลังจะไปทำร้ายใครสักคน…เกรงว่าสำนักเซียนอวี้หูกำลังจะเกิดเรื่องใหญ่แล้ว”
ตี้อีชิวดูรายการแผ่นนั้นจบก็ใช้ปลายนิ้วเคาะโต๊ะเบาๆ “ดีทีเดียว สำนักเซียนไม่มีเรื่องครึกครื้นให้ชมมานานแล้ว”
หลี่ลู่ผงกศีรษะ “เช่นนั้นพวกเราจะตามไปดูหรือไม่ขอรับ”
“หึๆ” ตี้อีชิวหัวเราะเบาๆ และไม่เอ่ยอะไรอีก
สองวันนี้ในใจของเซี่ยหยวนซูรู้สึกทรมานเหมือนมีแมวข่วนตะกุย
เขายืนนั่งไม่เป็นสุข ไม่ง่ายกว่าจะหลับได้สักงีบ แต่กลับฝันเห็นเซี่ยหงเฉินหลุดจากพันธนาการ ส่วนเซี่ยหลิงปี้ก็จะตีเขาให้ตาย
โชคดีที่บ่ายวันนี้ตี้อีชิวส่งของที่เขาอยากได้มาให้…เป็นของวิเศษที่สามารถดูดพลังวัตรของคนได้ เซี่ยหยวนซูรับของมา เห็นว่าของวิเศษชิ้นนี้มีรูปลักษณ์คล้ายร่ม เพียงแต่เป็นสีดำ สัมผัสแล้วให้ความรู้สึกเย็น ไม่รู้ว่าหลอมสร้างขึ้นจากสิ่งใด
ในเรื่องการหลอมของวิเศษ เซี่ยหยวนซูมีความรู้เพียงผิวเผิน จึงแยกแยะไม่ได้ว่าทำจากสิ่งใด ดังนั้นเขาจึงไม่สบายใจนัก
“ใต้เท้าเจ้ากรม ของวิเศษชิ้นนี้ใช้ได้ผลจริงๆ หรือ”
ตี้อีชิวตอบด้วยท่าทีคล้ายไม่ใส่ใจ “คุณชายใหญ่วางใจเถิด รับมือกับเซี่ยหงเฉินได้ไม่มีปัญหา”
เซี่ยหยวนซูพรูลมหายใจยาวทันที
ตี้อีชิวไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ทางสีหน้า แต่ในใจกลับคาดเดาว่า…เขาจะลงมือกับเซี่ยหงเฉินจริงๆ หรือ! ข้อสรุปนี้แม้แต่เขาเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อ เจ้าคนโง่เขลาผู้นี้มีความกล้าเช่นนี้ด้วยหรือ
แต่เนื่องจากไม่อยากให้สำนักเซียนอวี้หูต้องสูญเสียมอดไปตัวหนึ่ง ตี้อีชิวจึงเตือนด้วยความหวังดี “เห็นแก่ไมตรีตลอดหลายปีที่ผ่านมา ข้ายังคงต้องเตือนคุณชายใหญ่สักคำว่าของวิเศษชิ้นนี้ใช้ได้แค่ดูดพลังวัตรเท่านั้น หากอีกฝ่ายมีพลังวัตรสูงกว่าท่านและมีเจตนาต่อต้าน…มันย่อมมิอาจรักษาชีวิตของท่านได้”
เขาจงใจหยั่งเชิงการตอบสนองของเซี่ยหยวนซู มิคาดคิดว่าเซี่ยหยวนซูกลับไม่สนใจเรื่องนี้โดยสิ้นเชิง อีกฝ่ายเพียงเอ่ยขึ้น
“ดูดพลังวัตรได้ก็พอ!”
กล่าวจบเซี่ยหยวนซูก็คว้าของวิเศษชิ้นนี้และสั่งให้คนส่งหินวิเศษสี่ร้อยหมื่นก้อนมายังกรมซือเทียนทันที ตี้อีชิวมองดูก้อนศิลาที่ไหลเวียนด้วยปราณวิเศษเหล่านั้นก็เยาะหยันอยู่ในใจ…ตลอดหลายปีที่เซี่ยหยวนซูดูแลกิจการการค้าของสำนักเซียนอวี้หู ไม่รู้ว่ายักยอกหินวิเศษไปมากน้อยเพียงใด
เขามองเซี่ยหยวนซูที่รีบร้อนจากไป อดจมลงสู่ภวังค์ความคิดมิได้
หรือว่าเซี่ยหงเฉินถูกเขาควบคุมตัวไว้แล้ว
เรื่องนี้จะเป็นไปได้อย่างไร เซี่ยหงเฉินมิใช่คนที่ขาดความรอบคอบถึงเพียงนั้น ด้วยสติปัญญาของเซี่ยหยวนซู จะคุมตัวเขาไว้ใช่เรื่องง่ายดายที่ใดกัน
อีกทั้งหากเซี่ยหงเฉินเกิดเรื่อง เช่นนั้นคนผู้นั้น…
ตี้อีชิวชะงักไป เขาสั่งการหลี่ลู่ทันที “เรียกตัวเป้าอู่กลับมา คอยจับตาดูสำนักเซียนอวี้หูอย่างใกล้ชิด”
หลี่ลู่รับคำ ตี้อีชิวจ้องมองเขา หลี่ลู่ถูกจ้องจนรู้สึกประหม่า ทว่าเขาคือหลี่ลู่! ผู้ที่ขึ้นชื่อว่ามีไหวพริบและมีสติปัญญาเฉียบแหลมในกรมซือเทียน! ดังนั้นเขาจึงตอบรับด้วยความเข้าใจทันที
“ข้าจะคอยสังเกตความเคลื่อนไหวของเซี่ยหงเฉินสองสามีภรรยาอย่างใกล้ชิดขอรับ”
เฮ้อ ทั้งต้องรักษาหน้าของผู้บังคับบัญชาและต้องเข้าใจเจตนาของอีกฝ่าย ลำบากเหลือเกิน
แต่ผลลัพธ์กลับดีทีเดียว เขาเห็นตี้อีชิวโบกมืออย่างพึงพอใจ “ไปเถิด”