พลังจากคัมภีร์ปีศาจมารวิญญาณที่กัดกร่อนหุ่นกลนักรบทั้งสามตัวจู่โจมถูกตี้อีชิว ของวิเศษป้องกันตัวของตี้อีชิวถูกทำลายทั้งหมด เขาถูกโจมตีจนลอยกระเด็นไปหลายจั้ง กระอักโลหิตออกมาเป็นสีดำ
ยามอยู่ต่อหน้าผู้ที่มีพลังวัตรสูงอย่างเซี่ยหลิงปี้ เห็นได้ชัดว่าพิษงูหุ่ยนี้ไม่ควรค่าให้เอ่ยถึง
เคราะห์ดีที่เมื่อครู่พลังของเซี่ยหลิงปี้ถูกสกัดไว้ เขาจึงมิอาจปลิดชีพตี้อีชิวได้
“เลือดงูหุ่ยทนการโจมตีมิได้!” เสียงหัวเราะของเซี่ยหลิงปี้ราวกับอาบย้อมด้วยโลหิต แต่ละถ้อยคำน่าขนลุกยิ่ง
มุมหนึ่งของวังหลวง บนยอดเจดีย์ที่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยว อาภรณ์ยาวของซือเวิ่นอวี๋โบกสะบัดท่ามกลางสายลม เขากำลังเฝ้ามองเงียบๆ
แม้กระทั่งเสแสร้งเซี่ยหลิงปี้ก็คร้านที่จะทำแล้ว เขายกมือขึ้นอีกครั้ง เดิมทีจะจบชีวิตของตี้อีชิว ทว่าจังหวะนี้เองอาคมเสี้ยวหนึ่งที่ไหวกระเพื่อมดึงดูดความสนใจของเขาไป
เขามองไปตามกระแสปราณ ในที่สุดก็เห็นว่าไกลออกไปตรงประตูเมืองชั้นใน คนผู้หนึ่งเข็นเก้าอี้ล้อเข็นตัวหนึ่ง กำลังจะใช้ยันต์เคลื่อนย้าย
เซี่ยหลิงปี้เพ่งสายตามองไป บนเก้าอี้ล้อเข็นมีสตรีผู้หนึ่งนั่งอยู่
“นางชั้นต่ำ!” เขาเหินลมรุดไปทันที จากนั้นก็ซัดฝ่ามือออกไปกลางอากาศ!
แค่คำพูดนี้ก็พอจะทำให้หวงหร่างจดจำเขาได้…เซี่ยหลิงปี้!
เขาใช้ร่างของเซี่ยหงเฉิน อีกทั้งพลังวัตรยังพุ่งสูงขึ้นอย่างฉับพลัน!
หมอกดำนับไม่ถ้วนห่อหุ้มโครงกระดูกที่เคลื่อนไหวได้ กระโจนเข้าใส่หวงหร่างทันที!
ของวิเศษป้องกันตัวทั้งหมดของเหมียวอวิ๋นจือทำงานในชั่วพริบตา ทว่าการโจมตีครั้งนี้ของเซี่ยหลิงปี้มาพร้อมโทสะ และเหมียวอวิ๋นจือเองก็ไม่มีพลังวัตรโดยสิ้นเชิง!
หวงหร่างได้แต่มองดูโครงกระดูกเหล่านั้นพุ่งมาตรงหน้า ชั่วขณะนั้นในใจนางกลับปราศจากความหวาดกลัว
สำหรับนางความตายหาได้น่ากลัวไม่
ถึงขั้นกล่าวได้ว่าเป็นความเมตตาอย่างหนึ่ง
ไม่ว่าจะเป็นการตายเช่นไร นางถึงขั้นมิได้กะพริบตา จ้องมองวิชามารนี้อย่างสงบนิ่ง
หมอกดำรูปโครงกระดูกนั่นมาพร้อมเสียงกรีดร้อง ภายในเหมือนจะเป็นเสียงครวญคร่ำอย่างเจ็บปวดของผู้คนนับไม่ถ้วน
แต่ยามนี้จิตใจของหวงหร่างกลับนิ่งสงบดุจสายน้ำ
ในชั่วขณะที่หมอกดำจะพุ่งเข้าใส่นาง เงาร่างสีดำสายหนึ่งก็มาขวางอยู่ตรงหน้านางโดยพลัน
หวงหร่างอึ้งงันไป เงาร่างสีดำที่ขวางอยู่ตรงหน้านางสั่นไหวเล็กน้อย ผ่านไปนานหวงหร่างจึงมองเห็นได้ชัดว่า…นั่นมิใช่เงาดำ แต่เป็นตี้อีชิวต่างหาก! เขาอาบโลหิตไปทั้งร่าง ถูกหมอกดำปกคลุมไว้
โครงกระดูกนับไม่ถ้วนในหมอกดำแยกเขี้ยวคมใส่เขา!
กรี๊ด…
หวงหร่างได้ยินเสียงกรีดร้องอย่างคลุ้มคลั่งในใจตน แต่นางกลับเปล่งเสียงไม่ออกสักนิดเดียว นางได้แต่มองตี้อีชิวถูกสิ่งชั่วร้ายเหล่านี้แสยะยิ้มใส่และกัดกินจนเลือดโชก เผยให้เห็นกระดูกสีขาว!
ตี้อีชิว! ตี้อีชิว!
นางตะโกนอย่างเจ็บปวดครั้งแล้วครั้งเล่าในใจ แต่ไม่มีใครได้ยิน
คนผู้นั้นขวางอยู่ตรงหน้านาง มือหนึ่งยันประตูเมืองชั้นใน โลหิตไหลหยดลงมาตามนิ้วทั้งห้า แต่เขาไม่ร้องสักคำ
“ไป!” เขาเอ่ยกับเหมียวอวิ๋นจือ
เหมียวอวิ๋นจือได้สติกลับมา เขาพ่นลมหายใจแรงๆ เข็นหวงหร่างพุ่งออกจากเมืองชั้นในอย่างบ้าคลั่ง
โครงกระดูกกลืนกินร่างกายเขาไปครึ่งหนึ่งอย่างรวดเร็ว บนแผงอกเขาเผยให้เห็นอวัยวะภายในแดงฉาน
โลหิตเปียกชุ่มชุดคลุมสีม่วง มองเห็นเศษเนื้อร่วงลงมากองบนพื้น แต่เขายังคงยืนหยัดไม่ยอมล้มลง
บริเวณประตูเมืองชั้นในตอนนี้ไม่มีคนคอยเฝ้ายามแล้ว
เหมียวอวิ๋นจือเข็นหวงหร่างออกไปอย่างเร่งรีบตลอดทาง ขอเพียงพ้นจากเมืองชั้นใน เขาก็จะใช้ยันต์เคลื่อนย้ายได้ อย่างน้อยก็สามารถพาหวงหร่างไปยังสถานที่ปลอดภัยได้ก่อน
หวงหร่างได้ยินเสียงที่ลอยมาจากข้างหลัง แต่นางไม่ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวของตี้อีชิว
ไม่ ข้าไม่ไป…ข้าไม่ไป