ทดลองอ่าน อริร้ายหวนรัก บทที่ 4 – หน้า 12 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน อริร้ายหวนรัก บทที่ 4

ขุนนางใหญ่ผู้นั้นพูดเสียงที่ดังก้อง “แม้พี่ชายสิ้นน้องชายต้องเป็นผู้สืบทอด แต่ไม่ว่าตงไห่อ๋องหรือหลางหยาอ๋องก็ล้วนแต่มีอายุที่น้อยเกินไป จะยืนหยัดอยู่ได้หรือไม่ยังพูดยาก” พูดถึงตรงนี้ เขาก็เหลือบมองโลงศพของซย่าโหวโหย่วเต้าแวบหนึ่ง บอกเหล่าขุนนางเป็นนัยว่าซย่าโหวโหย่วเต้าเป็นฮ่องเต้มาสี่ปี สุดท้ายยังคงมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกินสิบสี่เลย “ทุกท่านอย่าลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสมัยของเป่ยเหลียงเหวินตี้สิ”

ก่อนเป่ยเหลียงเหวินตี้จะสืบบัลลังก์ พี่ชายสองคนตายไปก่อนหน้า อีกทั้งพี่ชายสองคนนี้ก็ล้วนเป็นฮ่องเต้ในระยะเวลาสั้นๆ เพียงสองสามปีเท่านั้นก่อนจะป่วยตาย หากไม่เพราะมีกู้ซย่าช่วยต้านเอาไว้ เป่ยเหลียงก็เกือบจะถูกเป่ยฉีโค่นล้มไปแล้ว

ขุนนางบางส่วนแสดงความเห็นด้วย ทั้งยังพูดถึงเรื่องที่กู้ซย่าถูกเป่ยเหลียงเหวินตี้แต่งตั้งเป็นต้าซือหม่า ชั่วขณะหนึ่งที่ราชสำนักวิพากษ์วิจารณ์ไปมากมาย หัวข้อหารือเปลี่ยนจากการแต่งตั้งฮ่องเต้ไปเป็นการต้านทานการรุกรานของแคว้นทางเหนือ

หลูยวนส่งสายตาให้ขุนนางอีกคน ขุนนางผู้นี้จึงก้าวออกมา “ข้าคิดว่าควรแต่งตั้งซีไห่อ๋อง”

ซีไห่อ๋องอายุไม่เข้าเกณฑ์ อีกทั้งการสืบสายเลือดยังไม่มีข้อได้เปรียบใดๆ ดังนั้นจึงมีคนคัดค้านทันที ขุนนางผู้นั้นโต้เถียงกับคนที่คัดค้าน

สุดท้ายเป็นหลูไหวที่ตวาดสั่งให้สองคนเงียบและเอ่ยว่า “ข้าก็คิดว่าควรแต่งตั้งซีไห่อ๋อง”

หลายคนหันไปมองเซี่ยตันหยาง หลูไหวเป็นน้องชายของหลูยวน หลายครั้งสิ่งที่เขาพูดออกมาย่อมแสดงถึงความต้องการของหลูยวน

ไฉนเซียวหวนยังมาไม่ถึงอีกเล่า เซี่ยตันหยางร้อนใจดั่งไฟลน ทว่าสีหน้ากลับไม่แสดงอารมณ์ออกมาแม้แต่น้อย เขาไม่อาจแสดงความเห็นด้วยในเวลานี้ได้…ในสถานการณ์เช่นนี้ สิ่งที่เขาพูดออกมาย่อมมีน้ำหนัก มิอาจเปลี่ยนใจได้ในภายหลัง ต่อให้อีกประเดี๋ยวเซียวหวนรุดมาถึง เขาก็มิอาจเปลี่ยนใจกลางคันได้แล้ว

นี่เป็นหลักการของการเป็นคน! ทั้งยังเป็นพื้นฐานของการเป็นคน!

หลูยวนกับเซี่ยตันหยางต่อสู้กันมาหลายสิบปี ความไม่ยินยอมและการถูกบังคับอย่างไม่มีทางเลือกที่เซี่ยตันหยางต้องเผชิญนั้น บัดนี้หลูยวนมองเห็นได้อย่างชัดเจน แล้วเขาจะเปิดโอกาสให้เซี่ยตันหยางเปลี่ยนใจในภายหลังได้อย่างไร

“เช่นนั้นแต่งตั้งซีไห่อ๋องแล้วกัน!” หลูยวนปรายตามองเซี่ยตันหยางอย่างเย็นชา แล้วพูดเสียงขรึม “ซีไห่อ๋องแม้อายุยังไม่มาก แต่หากไม่นับตงไห่อ๋องกับหลางหยาอ๋อง เขาก็เป็นบุคคลที่มีสายเลือดใกล้ชิดกับอู่จงมากที่สุด ประกอบกับเขาเติบโตนอกวัง ร่างกายแข็งแรง…”

“ข้าไม่เห็นด้วย!” ซย่าโหวอวี๋ที่เดิมทีควรพักผ่อนอยู่ในตำหนักข้างกลับปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตูตำหนักตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้ แสงอาทิตย์ยามเที่ยงวันส่องตรงลงมาบนหลังคา ใบหน้าของนางซ่อนอยู่ใต้เงามืดของชายคาตำหนัก เห็นสีหน้าอารมณ์ได้ไม่ชัดเจน ทว่าท่ายืนเหยียดตรงและน้ำเสียงก้องกังวานนั้นกลับทำให้คนรู้สึกได้ถึงความแน่วแน่ของนาง

“ข้าไม่เห็นด้วยที่จะแต่งตั้งซีไห่อ๋องเป็นฮ่องเต้” ซย่าโหวอวี๋พูดซ้ำอีกครั้ง “ไม่มีเหตุผลที่จะต้องละทิ้งสายเลือดตรงไปแต่งตั้งสายเลือดรองเลย ข้าไม่มีทางเห็นด้วยเป็นอันขาด!”

หลูยวนมุ่นหัวคิ้ว ก้นบึ้งนัยน์ตาสาดประกายไฟของโทสะ “จิ้นหลิงจ่างกงจู่ นี่เป็นเรื่องภายในราชสำนัก เชิญจ่างกงจู่หลบเลี่ยงด้วย!”

ซย่าโหวอวี๋เงยหน้ามองหลูยวน แววตาสุขุมพลันเปลี่ยนเป็นคมกริบ “โอรสสวรรค์ไม่มีเรื่องในครอบครัวก็จริง แต่ข้ายังมีบรรพบุรุษและวงศ์ตระกูลอยู่ เหตุใดข้าจะก้าวก่ายเรื่องนี้ไม่ได้”

หลูยวนยิ้มเย็นเอ่ยว่า “ในเมื่อโอรสสวรรค์ไม่มีเรื่องในครอบครัว ราชวงศ์แต่งตั้งทายาทก็ยิ่งไม่ใช่เรื่องที่จ่างกงจู่จะก้าวก่ายได้ นี่เป็นเรื่องของขุนนางในราชสำนัก!”

ซย่าโหวอวี๋ไม่แสดงความอ่อนแอแม้แต่น้อย นางโต้กลับไปว่า “มิน่าก่อนตายโอรสสวรรค์ถึงได้อนุญาตให้ข้าไปร้องไห้ระบายทุกข์ที่ศาลบรรพบุรุษของราชวงศ์ คงเดาได้แต่แรกแล้วว่าหลังสวรรคตไปจะต้องมีคนที่ไม่ประสงค์ดี สละสายตรงแต่งตั้งสายรอง แม่ทัพใหญ่ไม่แต่งตั้งตงไห่อ๋อง ไม่แต่งตั้งหลางหยาอ๋องด้วยเหตุผลใด เติบโตอยู่นอกวัง นั่นก็คือไม่รู้ธรรมเนียมมารยาทของในวัง! ร่างกายแข็งแรงก็อาจเป็นไปได้ว่าไม่ชอบเล่าเรียนตำรา หรือแม่ทัพใหญ่อยากแต่งตั้งโอรสสวรรค์ที่ไม่รู้ธรรมเนียมมารยาท ไม่มีความรู้กระนั้นหรือ หรือว่าแม่ทัพใหญ่คบหาไปมาสนิทสนมกับซีไห่อ๋อง รู้จักซีไห่อ๋องเป็นอย่างดี คิดว่าซีไห่อ๋องเหมาะสมที่จะเป็นโอรสสวรรค์มากกว่าตงไห่อ๋องและหลางหยาอ๋อง” นางพูดเสียงสูงขึ้นในทุกประโยค น้ำเสียงแหลมขึ้นในทุกประโยค ยามที่พูดถึงตอนสุดท้ายนั้นก็ขาดแค่ไม่ได้ชี้จมูกหลูยวนบอกว่าเขามีเจตนาแอบแฝง หมายจะควบคุมฮ่องเต้ กุมอำนาจแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 84.1-84.2

    By

    บทที่ 84.1 ชายาเป่ยเจิ้นอ๋องมองชุดรัดเอวแขนหลวมทำจากผ้าพลิ้วกรุยกรายลายปักซูซิ่ว บนร่างองค์หญิงอวี๋หยางอีกครา ดูคล้ายกับแบบที่ซูลั่วอวิ๋นสวม...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 83.1-83.2

    By

    บทที่ 83.1 หานเหยาได้ยินน้องชายพูดขึ้นมา นางก็เอ่ยอย่างลิงโลด “ดี! พี่สะใภ้ ท่านไม่ต้องกลับไปที่หมู่บ้านเฟิ่งเหว่ยแล้ว ที่นั่นวุ่นวายเหลือเก...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 82.1-82.2

    By

    บทที่ 82.1 ที่แท้จ้าวกุยเป่ยคิดว่าให้สัญญากับหานเหยาไว้ว่าจะมารับลูกอมก็จำเป็นต้องรักษาคำพูดหรือไร หานหลินเฟิงคร้านจะแยแสบุรุษหัวทึบผู้นี้ เ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 5-6

    By

    บทที่ 5 ราตรีวุ่น แววตาเสิ่นเฉียนมืดทะมึน กัดริมฝีปาก ปลายคางเกร็งแน่นเผยความแข็งกร้าวอยู่ในที “ที่แท้ถูกเด็ดปีกหมดสิ้นแล้วเนรเทศมาให้ข้านี่...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 81.1-81.2

    By

    บทที่ 81.1 ฉิวเจิ้นเพ่งตามองดูแล้วก็พบว่าไม่เพียงกำแพงของค่ายเสบียงมีการต่อเติมให้สูงขึ้น ยังขุดคูลึกรอบตัวกำแพงทั้งด้านนอกด้านในเพิ่มอีกสอง...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 3-4

    By

    บทที่ 3 หงหลวนแต่งงาน ลมราตรีพัดกรู แสงจันทร์สาดส่อง ภายในหอตั้นเสวี่ยของจวนสกุลเซี่ยเวลานี้ เซี่ยจิ่นสองมือไพล่หลัง ฟังน้องชายตัวน้อยเซี่ยซ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 1-2

    By

    บทที่ 1 ลมตะวันตกพัดมา สุริยันจมลับประจิม แสงสายัณห์สาดส่องขอบฟ้า เสิ่นเฉียนเปลี่ยนม้าไปตัวหนึ่งแล้วในจุดพักม้า เช่นนี้จึงเร่งมาถึงนอกเมืองห...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

community.jamsai.com