บทที่ 233 ตัวตนที่แท้จริง
เฉินอิ๋งจ้องหมิงซินไม่วางตา ก่อนหน้านี้สิ่งแรกที่นางนึกถึงตลอดยามพบเจอหน้าหมิงซินคืออีกฝ่ายเป็นสาวโสดทึนทึกอายุเกินยี่สิบห้าในยุคโบราณผู้หนึ่ง
ทว่ายามนี้พอได้เจอหน้ากันอีกครั้งนางกลับรู้สึกว่าหมิงซินกลับดูอ่อนเยาว์ลง เป็นก็แค่เพียงสตรีอายุยี่สิบเท่านั้น
“เชิญคุณหนูสามเข้ามานั่งข้างในก่อนเถิด ด้านนอกผู้คนขวักไขว่ไม่เหมือนในห้องที่เงียบสงบกว่า” หมิงซินเอ่ยปากเชื้อเชิญอีกคราว วาจาเกรงอกเกรงใจอันใดล้วนไหลลื่นคล่องปาก แค่ดูก็รู้แล้วว่าทำเช่นนี้อยู่บ่อยครั้ง ต่างกับสาวใช้ที่ไม่ใคร่พูดจาในความทรงจำของเฉินอิ๋งราวกับเป็นคนละคน
ขณะกำลังครุ่นคิด เฉินอิ๋งก็ถอดหมวกม่านแพรออก สีหน้ายังคงสงบนิ่งเช่นทุกครั้ง “เช่นนั้นก็ต้องรบกวนแม่นางหมิงซินให้ช่วยนำทางแล้ว”
“คุณหนูล้อผู้น้อยเล่นแล้ว เชิญทางนี้” หมิงซินค้อมกายน้อยๆ เดินนำทางอยู่ด้านหน้า ทุกคนเดินตามนางไปยังลานเรือนด้านหลัง
ร้านเซียงอวิ๋นที่จี่หนานเล็กกว่าที่อำเภอเผิงไหลอยู่เล็กน้อย ทว่ารูปแบบของพวกมันกลับคล้ายคลึงกันอยู่หลายส่วน หลังร้านล้วนเป็นลานเรือนสองชั้น ที่พำนักของกัวหว่านอยู่ลานเรือนด้านหลังสุด
ครั้นเข้าไปถึงภายใน ทุกคนก็ได้พบกับต้นสนเขียวชอุ่มกลางลาน ทางเดินหินคดเคี้ยว ก่อเกิดเป็นทัศนียภาพเงียบวิเวกกลางหิมะโปรย
ห้องโถงเก็บกวาดจัดวางงดงาม ทางด้านหน้าของหน้าต่างฉลุลายมีโต๊ะสูงวางอยู่ตัวหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ทางด้านบนคือดอกเหมยแรกแย้มในแจกัน แต่กลับมิใช่ดอกเหมยแดงที่พบเห็นได้ทั่วไป หากเป็นล่าเหมย* กิ่งหนึ่ง
พอเห็นเฉินอิ๋งจ้องมองดูดอกเหมยนั่น หมิงซินก็ยิ้มกล่าว “มันเป็นดอกไม้หน้าหนาวที่นายหญิงโปรดปรานที่สุด”
เฉินอิ๋งพยักหน้านั่งลงที่ข้างโต๊ะ หมิงซินประคองส่งชาหอมให้กับนางด้วยมือตนเอง ขณะเดียวกันก็มีสาวใช้ตัวน้อยอีกคนประคองกล่องขนมทรงดอกเหมยมาสองกล่อง ด้านในบรรจุของว่างจำพวกเนื้อแห้งผลไม้แห้งนานาเข้ามา
หมิงซินยิ้มกล่าว “หากต้อนรับขาดตกบกพร่องอันใด ขอคุณหนูสามอย่าได้ถือสา”
พอเห็นอีกฝ่ายอากัปกิริยาไม่ธรรมดาเช่นนั้น เฉินอิ๋งก็นึกอะไรขึ้นได้บางอย่าง นางเอ่ยปากถาม “ข้าคงต้องเรียกแม่นางหมิงซินว่าท่านผู้ดูแลแล้วกระมัง”
ได้ยินเช่นนั้นหมิงซินก็ตะลึงไปชั่วขณะก่อนจะเผยยิ้ม นางปิดปากกล่าว “ไหนเลยจะมีเรื่องเช่นนั้น คุณหนูสามยกย่องผู้น้อยเกินไปแล้ว ผู้น้อยยามนี้ก็แค่สาวใช้คนหนึ่งเท่านั้น”
ถึงจะพูดเช่นนั้น ทว่าท่าทางของนางหลังจากนั้นกลับยิ่งทำให้คนตกใจ
เพราะหลังจากเฉินอิ๋งนั่งลงได้ไม่นาน หมิงซินก็ประคองสมุดบัญชีออกมาปึกหนึ่ง
“นายหญิงบอกว่าคุณหนูอาจจะมาเพื่อขอดูบัญชี ผู้น้อยจึงได้เตรียมบัญชีของเดือนนี้ไว้” หมิงซินพูด สีหน้าขัดเขินปรากฏขึ้นบนใบหน้า “เพราะผู้น้อยดูรายการบัญชีไม่สู้จะเข้าใจนัก คุณหนูสามคิดว่าเล่มใดใช่ก็เชิญคุณหนูตรวจดูได้ตามสบาย”
เฉินอิ๋งสีหน้าสงบนิ่ง ทว่าในใจกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกประหลาดใจ
เพิ่งจะแค่เดือนกว่าเท่านั้น แต่กัวหว่านกลับมอบสมุดบัญชีให้หมิงซินดูแลแล้ว นางไว้ใจหมิงซินมากถึงเพียงนี้เชียว
แล้วลวี่อีกับหงเซียงเล่า
เฉินอิ๋งจำได้ว่าสาวใช้สองคนนั่นเป็นคนสนิทของกัวหว่าน แม้แต่เรื่องใหญ่เช่นนี้นางยังให้หมิงซินเป็นคนดูแล แล้วสาวใช้สองคนนั้นเล่าทำสิ่งใด
หลังจากกวาดตาใจลอยดูสมุดบัญชีอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายเฉินอิ๋งก็วางมันลง
สมุดบัญชีสมัยโบราณเช่นนี้นางเองก็ดูไม่รู้เรื่องสักเท่าใดนัก แค่พออ่านเข้าใจได้คร่าวๆ เท่านั้น นอกจากนี้บัญชีพวกนี้ก็ไม่เกี่ยวข้องอันใดกับนาง กัวหว่านเพียงให้หมิงซินนำออกมาเพื่อแสดงความจริงใจ
หลังจากนั้นนางก็นั่งกินของว่าง พูดคุยอยู่กับพวกหลัวมามาเป็นครั้งคราว ชาหอมถูกเติมเข้ามารอบแล้วรอบเล่า ของว่างหรือก็เปลี่ยนไปหลายครั้งหลายหน แต่ถึงกระนั้นกัวหว่านก็ยังคงไม่ปรากฏตัว