เฟิ่งจวินกับจักรพรรดินีโต้เถียงกันราวกับไม่มีผู้ใดอยู่ข้างๆ เดิมทีหมอหลวงในตำหนักต่างก็มีแรงกดดันราวภูเขาทับอยู่จากเรื่องที่องค์หญิงไม่ฟื้นคืนสติเสียที ตอนนี้ยังถูกบังคับให้ต้องมาฟังเรื่องราวของตำหนักในเป็นฉากๆ อีก ในนี้ยังมีคนหนุ่มอายุไม่เต็มสิบเจ็ดสิบแปดที่เพิ่งเข้ามาในสำนักหมอหลวงอยู่ด้วย สำหรับหมอหลวงแล้ว ชีวิตในตอนนี้ช่างโหดร้ายเหลือเกิน
ตอนนั้นเองไป๋สิงเจี่ยนก็เข้ามาในตำหนัก กู้ไหวกอดล่วมยาเดินนำอยู่ด้านหน้า เขาใช้ร่างกายตนเองเปิดทางให้เส้นหนึ่งก่อน เพื่อให้ไป๋สิงเจี่ยนไม่ต้องถูกผู้คนมากมายในตำหนักกระแทก และเขาก็ไม่คิดสนใจแววตาของเหล่าหมอหลวงที่ทั้งแปลกใจและรังเกียจพวกนั้นสักนิด
ไป๋สิงเจี่ยนเดินผ่านเหล่าหมอหลวงไป แน่นอนว่าสีหน้าเขาเย็นเยียบยิ่ง ทุกที่ที่เขาผ่านราวกับมีไอเย็นเยือกแผ่ออกมา เหล่าหมอหลวงที่มีหมอหลวงใหญ่เป็นหัวหน้าพอเห็นหัวหน้าสำนักหลันไถที่ถูกขึ้นบัญชีดำไว้เป็นลำดับแรกมาอยู่ในที่นี้แล้ว พวกเขาต่างก็ขมวดคิ้วนิ่วหน้า พากันหลีกทางให้ด้วยตนเอง กระทั่งเว้นเป็นทางกว้างสำหรับเขาโดยเฉพาะ
ไป๋สิงเจี่ยนเดินไปที่หน้าฉากบังลม เขายืนคำนับแล้วเอ่ยตัดบทการโต้เถียงของสามีภรรยาที่อยู่ข้างหลังฉาก “ฝ่าบาท หากรัชทายาทยังไม่ฟื้นคืนสติ กระหม่อมมีคนผู้หนึ่งเป็นตัวเลือก ขอให้เขาได้ลองทำการรักษาดูพ่ะย่ะค่ะ”
ทั้งสองที่กำลังโต้เถียงพลันหยุดความขัดแย้งภายในลงได้เป็นการชั่วคราว ก่อนจะนึกได้ว่าฉืออิ๋งยังไม่ได้สติ เมื่อได้ยินไป๋สิงเจี่ยนเอ่ยขึ้นเช่นนี้ก็ราวกับมีดาวเทพมาช่วยเหลือ
“เป็นผู้ใดกัน รีบพาเข้ามา!” เฟิ่งจวินไม่ห่วงเรื่องปะทะคารมแล้ว ในเมื่อไป๋สิงเจี่ยนเป็นคนเอ่ยขึ้นมาเอง นั่นก็หมายความว่าคนผู้นั้นจะต้องเชื่อถือได้แน่นอน
ตั้งแต่เห็นกู้ไหวนำหน้าไป๋สิงเจี่ยนเข้ามาในตำหนัก หมอหลวงใหญ่ก็เกิดรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีแล้ว เจ้าหมอหลวงหนุ่มที่ไม่แยกแยะดีชั่วไม่ได้ถูกไป๋สิงเจี่ยนหมิ่นเกียรติจนเกิดเพี้ยนไปแล้วหรอกนะ นี่ไม่เหมือนอย่างที่คิดไว้เลย!
เมื่อกู้ไหวได้รับการอนุญาตทางสายตาจากไป๋สิงเจี่ยน เขาก็เดินอ้อมฉากบังลมไปด้านในด้วยความตื่นเต้น
หมอหลวงใหญ่เห็นเช่นนั้นก็ตระหนักได้ว่า…เรื่องราวเริ่มจะไม่เข้าทีแล้ว
และที่ทำให้หมอหลวงใหญ่ตระหนกมากยิ่งขึ้นก็คือไป๋สิงเจี่ยนเดินตามกู้ไหวเข้าไปด้วย เขาจะเข้าไปทำไม หมอหลวงใหญ่แทบอยากตามเข้าไปดูด้วยตาตนเอง
หยวนสี่ตี้และเฟิ่งจวินหลีกทางให้และยกพื้นที่ข้างเตียงของฉืออิ๋งแก่กู้ไหว ทั้งสองร้อนใจคิดแต่จะช่วยบุตรสาว…จึงไม่ทันได้สงสัยถึงเรื่องที่ไป๋สิงเจี่ยนเดินตามหมอหลวงมาที่นี่ด้วย เนื่องจากที่นี่เป็นตำหนักบรรทมของรัชทายาท ห้องบรรทมของฉืออิ๋งนี้ นอกจากหมอหลวงแล้วก็ไม่เคยมีผู้ใดเข้ามาได้โดยเฉพาะบุรุษอื่น นี่จึงถือเป็นครั้งแรกที่ไป๋สิงเจี่ยนได้มาเยือนที่นี่
กู้ไหวเดินไปที่ข้างเตียง ทั้งยังแอบขยับที่ให้ไป๋สิงเจี่ยนได้เข้ามาใกล้อย่างแนบเนียน