ทดลองอ่าน อุบายรักลิขิตเสน่หา บทที่ 20 – หน้า 3 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน อุบายรักลิขิตเสน่หา บทที่ 20

ทันใดนั้นก็รู้สึกไม่ค่อยมั่นใจขึ้นมาเล็กน้อย

“เจ้ามั่นใจหรือว่าเป็นเช่นนี้…”

ลู่อู๋โยวพูดด้วยลมหายใจไม่สม่ำเสมอ “ไม่อย่างนั้นจะเป็นเช่นไรเล่า”

เฮ่อหลันฉือกัดริมฝีปากแล้วพูดว่า “ข้าคิดว่าไม่น่าจะทำได้กระมัง…”

ลู่อู๋โยวจุมพิตเนินไหล่ของนางเหมือนปลอบขวัญ “ก็เคยเกิดขึ้นแล้วมิใช่หรือ”

“แต่ตอนนั้นข้าจำไม่ได้แล้ว!”

ลู่อู๋โยวชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยว่า “ข้าก็จำได้ไม่ชัดเจนแล้ว แต่น่าจะไม่มีปัญหา…คุณหนูเฮ่อหลัน เจ้าต้องเชื่อใจตนเอง”

คำพูดของเขาไม่ได้ปลุกใจนางเลยแม้แต่น้อย นางอยากพูดเพียงว่า ‘ข้าคิดว่าเรื่องนี้ข้าพยายามไปก็ไม่มีประโยชน์…’

มีเสียงสวบสาบอีกพักหนึ่ง

ลู่อู๋โยวแนบริมฝีปากพูดข้างหูนางอีกหนึ่งประโยค

เฮ่อหลันฉือติ่งหูร้อนผ่าวขึ้นมา นางเหมือนรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง คล้ายถูกกระตุ้นจนหนังศีรษะชาวาบ นางกดไหล่ของเด็กหนุ่มอย่างอ่อนแรง ร่างกายเหมือนถูกเผาจนแดงก่ำ

ดวงตาดอกท้อของลู่อู๋โยวที่อยู่ตรงหน้าหลุบลงครึ่งหนึ่ง ขนตายาวปกคลุมปิดบังแววตาที่เปลี่ยนเป็นลึกล้ำ ใบหน้าหล่อเหลากระจ่างใสราวกับน้ำพุขึ้นสีแดงเรื่ออย่างประหลาด แม้แต่หางตายังถูกย้อมเป็นสีแดงไปด้วย หัวคิ้วขมวดเล็กน้อย เพราะอดกลั้นจนร่างกายแข็งตึงราวกับลูกธนูบนสาย

“เจ้าก็รุกมากเหมือนกันนะ…”

เฮ่อหลันฉือ “…?”

ไม่รอให้นางคืนสติก็ต้องส่งเสียงร้องด้วยความตกใจอีกครั้ง ครั้งนี้เสียงร้องยาวนานเป็นพิเศษ ในที่สุดนางก็ทนไม่ไหวกัดหลังมือของตนเองอีกครั้ง แต่จากนั้นก็ถูกลู่อู๋โยวรั้งเอาไว้

เขาเอ่ยว่า “เจ้ากัดอย่างอื่นเถอะ กัดข้าก็ได้…”

ดูเหมือนใจกว้างอย่างยิ่ง ทั้งที่…เฮ่อหลันฉือคิดว่าตอนนี้คนที่ใจกว้างยิ่งกว่าคือตัวนาง

ครั้งก่อนนางจำได้ไม่ชัดเจนนักจริงๆ เดิมทีก็อยู่ในสภาวะสติมึนงง เหลือเศษเสี้ยวเหตุการณ์เพียงน้อยนิดอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน ทุกช่วงเวลากระจ่างชัดเป็นพิเศษ

นางค่อยๆ เริ่มจำได้ว่าตอนนั้นเหตุใดตนเองถึงร้องไห้

เมื่อถึงจุดวิกฤตของความอดทน น้ำตาจะหลั่งออกมาโดยไม่รู้ตัวเพื่อผ่อนคลายความรู้สึกของร่างกาย

เฮ่อหลันฉือทนไม่ไหวจับแขนของลู่อู๋โยวไว้ ในดวงตาพร่าเลือนเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าจะทรมานเช่นนี้ ทำได้เพียงพูดตะกุกตะกัก อยากให้เขาผ่อนแรงลงบ้าง แต่พอขยับปากจึงพบว่าเสียงของตนเองย่ำแย่จนถึงขีดสุดแล้ว

ปกติเสียงของนางแผ่วเบาก็ช่างเถอะ นางไม่รู้สึกอะไร แต่คิดไม่ถึงว่าภายใต้สถานการณ์พิเศษบางอย่างเสียงของนางที่ถูกบีบให้เปล่งออกมากลับทำให้คนไม่อาจมองเป็นเรื่องปกติได้เลย

มันไม่เกิดผลอย่างที่คาดไว้แม้แต่น้อย บางที…ยังทำให้เกิดผลตรงกันข้าม

ใต้เปลือกตาของเฮ่อหลันฉือรู้สึกถึงไอร้อนเอ่อล้น ราวกับไข่มุกที่เอ็นร้อยขาด

ลู่อู๋โยวดึงตัวนางขึ้นมา ขยับใบหน้าเข้าใกล้ทั้งยังเช็ดน้ำตาให้นางอีกด้วย แต่ไม่ได้หยุดการกระทำด้านล่างเลยแม้แต่ครู่เดียว

เฮ่อหลันฉือสติเปิดเปิงเล็กน้อย ใช้แขนยันตัวอีกฝ่ายไว้อย่างไร้เรี่ยวแรง อยากถามว่าเขาไม่เหนื่อยบ้างหรือ จากนั้นก็นึกได้ว่าเขามีพละกำลังที่น่าตกใจอย่างมากจริงๆ แต่นางก็พยายามออกกำลังอย่างดีแล้วแท้ๆ

 

ในขณะที่สติของเฮ่อหลันฉือกำลังกระเจิดกระเจิง สายฝนนอกห้องกลับตกหนักขึ้นอย่างมืดฟ้ามัวดิน ตกกระทบหลังคาอย่างรุนแรง ไม่ยอมหยุดพักแม้เพียงชั่วครู่ น้ำหยดใหญ่กระเด็นขึ้นมาครั้งแล้วครั้งเล่า

แม้แต่แผ่นกระเบื้องบนหลังคาก็ดูเหมือนจะต้านทานไม่ไหว สั่นสะเทือนเบาๆ เกิดเป็นเสียงเอี๊ยดอ๊าดอย่างน่าสงสาร ทั้งยังดูเป็นอันตราย

ที่น่าสงสารที่สุดน่าจะเป็นต้นกล้าเล็กๆ ที่เพิ่งโตได้ไม่เท่าไรและดอกเบญจมาศที่เพิ่งผลิบาน ต้นกล้าเล็กถูกลมเร็วแรงพัดจนโอนเอน กิ่งก้านส่ายไหว ลำต้นสั่นคลอน

ส่วนดอกไม้ในลานบ้านที่ปลูกได้ไม่นานเวลานี้เพิ่งผลิบานเพียงเล็กน้อย ยังไม่บานทั้งผืน บางส่วนยังเป็นดอกตูม บางส่วนเกสรบานเพียงครึ่ง กลับถูกน้ำฝนจนเปียกเฉาไปหมดแล้ว

ซวงจือถูกพายุฝนนี้ทำให้ตกใจตื่นเช่นกัน นางมีภาพจำเลวร้ายในใจต่อฝนที่ตกอย่างรุนแรงเช่นเดียวกับเฮ่อหลันฉือ นางมองดูต้นไม้ดอกไม้ในลานบ้านผ่านช่องหน้าต่าง ยังลังเลอยู่ครู่หนึ่งว่าจะไปกำบังช่วยเหลือพวกมันสักนิดดีหรือไม่ ทว่าสุดท้ายนางก็เลือกที่จะล้มเลิกความคิดแล้วนอนอยู่ภายในห้องอบอุ่นและไม่มีฝนรั่วต่อไปดีกว่า

แต่ก่อนจะล้มตัวลงนอนนางก็พึมพำออกมาหนึ่งประโยค หวังว่าดอกไม้นี้อย่าได้ถูกฝนตกกระทบจนเสียหายเลย

 

เฮ่อหลันฉือรู้สึกว่าแย่แล้ว

ลู่อู๋โยวใช้นิ้วมือเกี่ยวผมที่ชุ่มเหงื่อออกจากหน้าผากของนางเบาๆ พลางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ทว่าหางเสียงกลับยกสูงอย่างเสแสร้ง ลมหายใจหอบเล็กน้อย

“ข้ารับรอง ครั้งสุดท้ายแล้ว”

เฮ่อหลันฉือยกมือขึ้นอย่างยากลำบากไร้เรี่ยวแรงมากดนิ้วของเขาเอาไว้ หลุบตาลงพลางพูดด้วยเสียงแหบพร่าอย่างยิ่ง

“เจ้า…ให้ข้าพักสักครู่ได้หรือไม่”

นางคิดออกในทันใด นี่เดิมทีควรเป็นเวลาที่ข้าหลับสนิทไปแล้ว! ไม่ใช่ปัญหาจากการฝึกฝนร่างกายของข้า!

ลู่อู๋โยวเห็นดังนั้น ถึงแม้จะยังกินไม่เต็มอิ่ม แต่ก็ไม่บังคับฝืนใจ เพียงแค่ผ่อนลมหายใจแล้วขยับตัวออกเล็กน้อย จากนั้นก็จับมือไร้เรี่ยวแรงและอ่อนนุ่มของนางข้างนั้นขึ้นมา จุมพิตปลายนิ้วสีชมพูจางๆ นั้นทีหนึ่งจึงเอ่ยขึ้น

“ก็ได้ เช่นนั้นเจ้าพักสักนิด แต่เจ้าต้องทำความเข้าใจเสียใหม่…” เขาชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็อธิบายว่า “ข้าไม่มีโรคซ่อนเร้นจริงๆ”

เฮ่อหลันฉือเข้าใจอย่างเต็มเปี่ยม ถึงขั้นที่ไม่สามารถเต็มเปี่ยมไปกว่านี้ได้อีกแล้ว

นางคว้าผ้าห่มบางมาคลุมตัวแล้วใช้มืออีกข้างปิดตาของตนเอง ยังคงมีความเขินอายอยู่หลายส่วน…ไม่ใช่สิ มีอย่างมากทีเดียว ร่างกายเริ่มขดเข้าไปข้างใน สีเลือดกระจายไปถึงติ่งหู ทั่วร่างราวกับแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ไม่มีแรงแม้แต่น้อย

นี่กี่รอบกันแน่…

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน อุบายรักลิขิตเสน่หา บทที่ 20

บทที่ 20 ความรักลึกซึ้งแนบแน่น เฮ่อหลันฉือไม่มีท่าทางประหนึ่งไม่ยี่หระต่อความตายแต่บนใบหน้ายังคงดูสงบนิ่งอย่างเห็นได้ชัด...

ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก

ทดลองอ่าน ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก บทที่ 137-138

บทที่ 137 ยามนั้นอวี้ฉือเฟยเยี่ยนเองก็เปลี่ยนเป็นชุดพันรอบอกสำหรับเล่นน้ำแล้ว นางเกิดมาแขนขายาว ดังนั้นท่อนล่างถัดจากเสื...

ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก

ทดลองอ่าน ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก บทที่ 139-140

บทที่ 139 เซียวอ๋องเดินทางเข้าเมืองหลวงไปเข้าเฝ้าครั้งนี้นับว่าราบรื่นผิดปกติ ฮ่องเต้เรียกพบองค์ชายรองในห้องทรงพระอักษรท...

community.jamsai.com