ทดลองอ่าน อุบายรักลิขิตเสน่หา บทที่ 20 – หน้า 7 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน อุบายรักลิขิตเสน่หา บทที่ 20

การเข้าสังคมตามปกติเช่นนี้ลู่อู๋โยวย่อมไม่มีทางปฏิเสธ

หลินจางได้กล่าวขออภัยลู่อู๋โยวเป็นการส่วนตัวในเรื่องของเว่ยอวิ้นครั้งก่อนแล้ว ลู่อู๋โยวก็รู้ว่าเรื่องนี้จะโทษเขาไม่ได้ สองคนพบหน้ากันจึงไม่ค่อยอึดอัดนัก แต่เห็นเขาดื่มสุราท่าทางกลัดกลุ้มจึงเดินไปแตะไหล่

“ดื่มน้อยสักนิดเถิด การเมาคลายความกลัดกลุ้มทุกอย่างไม่ได้”

หลินจางเงยหน้าขึ้นมองเขา ใบหน้าแดงเล็กน้อยและมีอาการเมาอยู่หลายส่วน ผ่านไปครู่หนึ่งจึงเอ่ยว่า “ดวงของข้ากับนางอาจจะไม่เข้ากันกระมัง”

“ตอนสามหนังสือหกพิธีพวกเจ้าไม่ได้ตรวจดูดวงสมพงศ์หรือ”

หลินจางยิ้มเศร้า “เป็นมงคล แต่ข้าเองก็จนปัญญา” เขาดื่มสุราอีกหนึ่งอึกอย่างกลัดกลุ้ม “เมื่อก่อนข้าไม่รู้ว่าที่แท้การแต่งงานซับซ้อนยากเย็นเช่นนี้”

ถึงแม้จะรู้นานแล้วว่านี่ไม่ใช่วาสนาอันดี แต่จนใจที่…

หลังจากเว่ยอวิ้นมาที่จวนสกุลหลินก็คล้ายว่าอยู่แล้วไม่พอใจ นางเริ่มจัดการตกแต่งไปทั่ว จู้จี้พูดติเขาตั้งแต่ต้นจนจบ หลินจางทำอารมณ์ดีไม่ถือสานาง นางกลับหนักข้อขึ้นหาเรื่องเขาครั้งแล้วครั้งเล่า

เขาไปที่ห้องหนังสือ เดิมทีเพราะอยากได้ความสงบ กลับพบว่าบนชั้นหนังสือของเขามีบทละครสมุดภาพที่เว่ยอวิ้นนำมาด้วยกองเต็มไปหมด ตำราสำคัญของเขาเหล่านั้นกลับถูกผลักเบียดไปอยู่มุมหนึ่ง

เขากำลังอ่านเอกสาร เว่ยอวิ้นอาจจะว่างจนรู้สึกเบื่อจึงหยิบบทละครมานั่งอ่านตรงข้ามกับเขา อ่านไปพลางกินของว่างไปพลาง ทั้งยังส่งเสียงหัวเราะชอบใจอยู่บ่อยครั้ง

เรื่องนี้หลินจางก็อดทนไว้เช่นกัน

เว่ยอวิ้นอ่านบทละครอยู่ครู่หนึ่ง อาจเพราะเบื่อแล้วจึงวางบทละครลง ก่อนจะหยิบเอกสารที่เขาอ่านจบขึ้นมาแล้วเริ่มอ่านเพื่อเรียกความสนใจจากเขา

หลินจางพยายามอดทนแต่ก็ทนไม่ไหว ยื่นมือไปแย่งมาด้วยความโกรธเกรี้ยว ‘เจ้าอ่านบทละครของเจ้าไป จะมาอ่านสิ่งเหล่านี้เพื่ออะไร!’

‘มีอะไร อ่านก็ไม่ได้หรือ’ บนนิ้วของเว่ยอวิ้นยังมีคราบมันจากของว่างที่นางกินติดอยู่ พอกดลงบนกระดาษก็เกิดเป็นรอยนิ้วมือ ‘ข้าจะอ่าน…เจ้าว่าเจ้าอ่านสิ่งนี้ทุกวันมีประโยชน์อะไร เจ้าอยู่ที่สำนักราชบัณฑิตเพื่อทำสิ่งนี้หรือ’

ยังมีอีก ตอนกลางคืนขณะเขานอนหลับสบายอยู่บนตั่งในห้องหนังสือกลับถูกคนผลักจนตื่น ช่วงกึ่งหลับกึ่งตื่นเขาเห็นเว่ยอวิ้นคลุมเสื้อนอก พูดกับเขาด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

‘เตียงแข็งเกินไปแล้ว ข้านอนไม่หลับ’

หลินจางพูดอย่างสะลึมสะลือ ‘เจ้าก็นอนมาหลายวันแล้วมิใช่หรือ…’

‘นั่นเพราะข้าอดทนไว้!’ เว่ยอวิ้นเท้าเอวพูดด้วยความโกรธเคืองยิ่งขึ้น ‘ตอนนี้ข้าทนต่อไปไม่ไหวแล้ว! ไม่เช่นนั้นเจ้ามาดูสิ!’

หลินจางจำเป็นต้องลุกขึ้นมาสวมเสื้อคลุมกลางดึกแล้วเดินไปที่ห้องนอนกับนาง

เตียงปูด้วยฟูก ดูแล้วน่าจะนุ่ม อย่างน้อยก็นุ่มกว่าตั่งในห้องหนังสือที่เขานอน แต่เว่ยอวิ้นกลับนวดไหล่แล้วพูดว่า ‘ข้านอนจนไหล่แข็งหมดแล้ว!’

ด้วยกิริยาที่ไม่สำรวมของนาง เสื้อชั้นนอกที่คลุมไว้จึงเลื่อนไหลลงจากหัวไหล่ เผยให้เห็นบังทรงสีสดใต้ชุดสตรี หลินจางรีบเลื่อนสายตาหนีแล้วยื่นมือไปช่วยนางดึงเสื้อชั้นนอกกลับที่เดิม ในใจลอบบ่นหลายประโยค จากนั้นจึงเอ่ยขึ้น

‘ข้าจะไปช่วยเจ้าหาฟูกเตียงมาอีกสองสามหลัง’

‘รองสูงเกินไปข้านอนแล้วไม่สบายตัวเช่นกัน’

หลินจางถอนใจอยู่ภายในใจ แต่ปากยังคงพูดว่า ‘พรุ่งนี้ข้าจะไปเอาฝ้ายมาให้เจ้าจำนวนหนึ่ง’

‘แล้วคืนนี้ข้าจะทำอย่างไร’

…ดึกดื่นค่อนคืนแล้วเขาจะมีปัญญาทำอะไรได้

นอกจากนี้ยังมีเรื่องยิบย่อยอีกหลายอย่าง เว่ยอวิ้นดูเหมือนจะไม่มีอะไรพอใจในตัวเขาเลย

ตระกูลของเขาเป็นบัณฑิต สนใจเพียงศึกษาความรู้มารยาท ไม่สนใจเครื่องแต่งกายอาหาร เสื้อผ้านอกจากชุดขุนนางแล้วก็ล้วนเป็นเสื้อคลุมยาวสีเรียบ เว่ยอวิ้นกลับรังเกียจว่าเขาสวมเสื้อผ้าเรียบเกินไป ไม่สดใสพอ ไม่เหมือนเสื้อแพรหรูหรา

นางยืนกรานจะซื้อให้เขา ทั้งยังบังคับให้เขาสวมใส่อีกด้วย

ไม่เช่นนั้นก็รู้สึกว่าเขาออกไปนอกบ้านกับนางทำให้นางขายหน้า

ปกติแล้วหลินจางไม่ชอบพูดนินทาคนให้ใครฟัง แต่เว่ยอวิ้นกลับปากไม่อยู่นิ่ง ได้ยินอะไรจากพี่น้องสหายสนิทจะต้องมาเล่าให้ฟัง แค่เล่าก็ช่างเถอะ ยังจะให้เขามีความเห็นร่วม นินทาคนอื่นไปด้วย

หากหลินจางเพียงแค่พูด ‘อ้อ’ หรือ ‘อืม’ เว่ยอวิ้นก็จะยิ่งโกรธ ปั้นหน้าขึงขัง ดึงพู่กันหรือเอกสารออกจากมือของเขาแล้วพูดเสียงดังว่า ‘หลินเซ่าเยี่ยน เจ้าไม่จริงจังกับข้าอีกแล้ว! เจ้าได้ฟังข้าพูดหรือไม่!’

เขาเอ่ยอย่างจนใจ ‘ข้าฟังแล้ว’

‘เช่นนั้นเมื่อครู่ข้าพูดอะไรกับเจ้า เจ้ารีบทวนซ้ำให้ข้าฟังหนึ่งรอบ’

โชคดีที่เขามีความจำไม่เลว

เว่ยอวิ้นจึงยิ้มสดใสยอมปล่อยเขาสักครั้ง ‘นี่ถือว่าใช้ได้ ข้าจะบอกเจ้านะ…’

แค่ย้อนคิดขึ้นมาหลินจางก็รู้สึกปวดศีรษะอย่างยิ่ง

ลู่อู๋โยวยกจอกสุราแตะริมฝีปาก หัวเราะเบาๆ แล้วเอ่ยว่า “พอรับได้กระมัง ค่อยๆ ปรับตัวให้ชินได้ก็ดีเอง”

“ข้าคิดว่าข้าอาจจะปรับตัวให้ชินไม่ได้”

หลินจางไม่สะดวกจะพูดออกมา เรื่องที่หนักข้อที่สุดก็คืออีกฝ่ายถึงขั้นใส่ยากระตุ้นกำหนัดลงในน้ำชาของเขาอีกด้วย

ตอนที่เขาอ่านตำราอยู่ที่ห้องหนังสือ บางครั้งจะดื่มน้ำชาสักสองถ้วยเพื่อให้สดชื่น ทว่าวันนั้นเขาเพิ่งดื่มไปไม่นานก็รู้สึกว่าร่างกายร้อนรุ่ม สมองเริ่มมึนงง ตอนแรกคิดว่าตนเองเป็นหวัดมีไข้ จึงสั่งคนไปเคี่ยวยารักษาอาการหวัดมาหนึ่งถ้วย ส่วนตัวเขานอนอยู่บนตั่ง

ตอนที่เขาฝืนทนอย่างเจ็บปวด กลับมองเห็นเว่ยอวิ้นยืนอยู่ตรงหน้า

นางโบกมือแล้วเอ่ยถามว่า ‘เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้าง’

หลินจางหน้าแดงหูแดง พูดเสียงทุ้มต่ำว่า ‘เจ้าออกไปก่อน’

‘ฤทธิ์ยานี่รุนแรงถึงเพียงนี้เชียวหรือ…’

หลินจางรู้สึกตกใจในทันใด ‘ยาอะไร’

เว่ยอวิ้นพูดพึมพำ ‘ยาที่ท่านยายให้ข้า บอกว่า…’ นางพูดอึกอัก ‘…ไม่ว่าอย่างไรก็จะเชื่อฟัง’

หลินจางจึงเดาได้ถึงจุดประสงค์การใช้งานของยานี้

แต่เป็นเพราะเว่ยอวิ้นมีความคิดด้านลบต่อเขามากเกินไป ทั้งยังไม่พอใจเขาอยู่มาก ก่อนหน้านี้ก็มีคนในใจอยู่แล้ว หลินจางถึงอย่างไรก็ไม่คิดว่ายานี้จะถูกนำมาใช้กับตัวเขา…พอมองไปทางสาวใช้ติดตามออกเรือนที่หลบๆ ซ่อนๆ อยู่ด้านหลังเว่ยอวิ้น ในใจของหลินจางก็มีการคาดเดาขึ้นมาเจ็ดแปดส่วนแล้ว

อาจเพราะยังไม่ค่อยไว้ใจเขา เพราะกลัวว่าวันใดเขาทนไม่ไหวล่วงเกินนางเข้า จึงเตรียมการไว้ให้เขาก่อน ให้เขาสร้างความแปดเปื้อนแก่สาวใช้ติดตามออกเรือนข้างกายของนาง

หลินจางหัวเราะเศร้าในใจ พยุงตัวขึ้นแล้วพูดว่า ‘เจ้าวางใจได้ ข้าไม่มีทางแตะต้องเจ้า’

เว่ยอวิ้น ‘…’

หลินจางพูดอย่างยากลำบากอีกครั้ง ‘ยาถอนพิษเล่า หรือไม่ก็เตรียมน้ำเย็นให้ข้าหนึ่งถัง’

เว่ยอวิ้นดูเหมือนเป็นเพราะตนเองไม่ได้สมความปรารถนาหรือเพราะเขาไม่เชื่อฟังจึงพูดอย่างโกรธเกรี้ยวในทันใด

‘เจ้านี่อย่างไรกัน…เจ้าคงไม่ได้…’ นางไม่อยากจะเชื่อเลย ‘ในใจเจ้ายังคิดถึงเฮ่อหลันฉือคนนั้นอยู่สินะ’

หลินจางรีบร้อนส่ายหน้า ในหัววิงเวียนหนักอึ้ง ‘ไม่มีเรื่องนี้แน่นอน ข้าจะกล้าได้อย่างไร’

‘ข้าว่าเจ้าเป็นเช่นนี้ ไม่เช่นนั้นเหตุใดเจ้าจึง…เหตุใดจึง…’ เว่ยอวิ้นโมโหยิ่งขึ้น ‘ดี! เจ้าบริสุทธิ์ เจ้าแข็งแกร่ง! เก่งจริงเจ้าก็เป็นเช่นนี้ไปชั่วชีวิตเลย! ไปเอาน้ำเย็นมาหนึ่งถัง! ราดใส่ตัวเขาไปเลย!’

เมื่อน้ำเย็นถังนั้นราดลงมา หลินจางก็แทบจะเป็นหวัดไปเลยจริงๆ

การปฏิบัติของเว่ยอวิ้นต่อเขาหลังจากนั้นกลับเอาแต่ใจอย่างหนักข้อมากขึ้น

ลู่อู๋โยวย่อมไม่รู้ เริ่มพูดอย่างไม่ใส่ใจนัก “ฮูหยินของเจ้าอย่างไรก็เป็นสตรี ในเมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เซ่าเยี่ยน เจ้าลองพูดเอาใจดีหรือไม่ ในเมื่อเมื่อก่อนนางชอบ…เจ้าไม่ต้องเงียบขรึมมากก็ได้ พูดจาอ่อนหวานเอาใจนาง พูดคำน่าฟังสักนิด นางอาจจะอารมณ์ดีขึ้นบ้าง ชีวิตของเจ้าก็จะสบายขึ้นเล็กน้อย”

หลินจางชะงักงัน “แต่ข้าทำไม่เป็น…”

“เจ้าเรียนรู้ได้ สามีภรรยาอยู่ด้วยกัน ส่วนใหญ่ก็อยู่ในระหว่างศึกษาเรียนรู้กัน จริงสิ…” ลู่อู๋โยววางจอกสุราลง หัวเราะเบาๆ แล้วเอ่ยถามว่า “ถุงเครื่องหอมของข้างามหรือไม่”

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 1-2

บทที่ 1 อู๋เซี่ยวเซี่ยวไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตนเองที่เป็นผู้จัดการดารามือทองมากประสบการณ์จะถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 5-6

บทที่ 5 ตามที่บทละครเขียนไว้แขวนโคมแดงคือการเปิดประตูเรือนทำงานเป็นนางคณิกา แม้หูซื่อจะทำเช่นนี้จริงๆ ยามจวนตัว แต่คำพูด...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 3-4

บทที่ 3 อู๋เซี่ยวเซี่ยวเปิดกระจกรถเล็กน้อยด้วยสีหน้าเรียบเฉย ให้กลิ่นค่อยๆ ระบายออกไป จากนั้นสตาร์ตรถ เหยียบคันเร่งขับรถ...

ลำนำฝูหรงเคียงกระเรียน

ทดลองอ่าน ลำนำฝูหรงเคียงกระเรียน บทนำ-บทที่ 1.2

บทนำ บนโลกนี้มีการเดินทางข้ามกาลเวลาที่สมบูรณ์แบบอยู่หรือไม่ น่าจะมีอยู่ หยางหวั่นก็คือคนโชคดีที่ได้เดินทางข้ามกาลเวลาคร...

community.jamsai.com