ทดลองอ่าน อุบายรักลิขิตเสน่หา บทที่ 21 – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน อุบายรักลิขิตเสน่หา บทที่ 21

เฮ่อหลันฉือเป็นห่วงลู่อู๋โยวจริงๆ “ข่าวลือนี้เจ้าคงไม่ได้เป็นคนปล่อยออกไปจริงๆ ใช่หรือไม่ ถ้าสาวมาถึงตัวเจ้าจะทำอย่างไร”

ลู่อู๋โยวแตะไหล่นางเป็นการปลอบขวัญแล้วเอ่ยว่า “สาวมาไม่ถึงหรอก ละครถูกยกเลิกแล้ว ไม่มีโอกาสให้เจ้าได้ดูน่าเสียดายอยู่บ้าง คนที่เขียนคำร้องนั่นระดับฝีมือไม่เลวจริงๆ แน่นอนว่าหนังสือร้องเรียนไม่ใช่ผลงานของข้าคนเดียว ในหมู่ราษฎรมีทั้งสนับสนุนและต่อต้าน เซียวหนานสวินเดิมทีก็ไม่ได้ใจคนอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องนี้ก็ใช่ว่าจะไม่มีมูล” ด้วยกลัวว่าเฮ่อหลันฉือจะกังวลใจ เขายังอธิบายเพิ่มอีกหลายประโยค “เจ้ารู้จักตึกลมบูรพารุจีหรือไม่”

เฮ่อหลันฉือพยักหน้า “ร้านค้านั่นหรือ”

“ใช่ ร้านที่ทำกิจการใหญ่มากร้านนั้น ชุดแต่งงานของเจ้าก็สั่งจากร้านตัดเสื้อของพวกเขา แน่นอนว่าไม่ใช่เพียงร้านตัดเสื้อ รวมไปถึงโรงเตี๊ยม หอสุรา และโรงละครต่างๆ พวกเขายังมีกิจการที่ไม่มีใครรู้อีกอย่างก็คือการซื้อขายและส่งข่าว ฝีมือถึงขั้นไม่ด้อยไปกว่าองครักษ์เสื้อแพรเลย” ลู่อู๋โยวหยิบของหวานชิ้นหนึ่งเข้าปาก “บอกเจ้าแล้วว่าบ้านข้าเป็นพรรคในยุทธภพ แต่มีกิจการมากมายที่ติดต่อกับตึกลมบูรพารุจี เจ้าของตึกกับท่านลุงข้าเป็นคนรู้จักกันมานาน ให้เกียรติฝ่ายข้าอย่างยิ่ง เบิกเงินทองจากทางนั้นหรือขอความช่วยเหลือก็สะดวกมาก…เจ้ายังจำแผ่นป้ายคำสั่งเหล็กสีนิลแผ่นนั้นที่ข้าเคยให้เจ้าก่อนแต่งงานได้หรือไม่”

เฮ่อหลันฉือพยักหน้า “ข้าเก็บไว้ในหีบเสื้อผ้า ถ้าเจ้าต้องการข้าจะไปหยิบมาให้”

“ไม่ต้องแล้ว แค่อยากบอกเจ้าเท่านั้น แผ่นป้ายนั้นเห็นป้ายเหมือนเห็นตัวข้า ถ้าเจ้ามีความจำเป็นเมื่อไร เอาแผ่นป้ายไปยื่นที่ร้านใดของตึกลมบูรพารุจีก็ได้เพื่อขอความช่วยเหลือ”

เฮ่อหลันฉือรู้สึกว่าลู่อู๋โยวแทบจะชี้แจงทุกอย่างในบ้านจนหมดแล้ว

ขณะที่นางกำลังคิด ลู่อู๋โยวก็พูดกับนางว่า “อ้าปาก”

เฮ่อหลันฉือตกตะลึง เห็นของหวานชิ้นหนึ่งถูกยื่นมาที่ข้างปากของตนเองแล้ว นางนิ่งงัน รู้สึกว่าถูกคนป้อนเช่นนี้น่าอายเล็กน้อย ขณะกำลังคิดจะยื่นมือไปรับมา ลู่อู๋โยวกลับเอ่ยทวนซ้ำอีกรอบ

“อ้าปาก”

เฮ่อหลันฉือทำได้เพียงอ้าปาก

ลู่อู๋โยวป้อนของหวานเข้าปากนางอย่างพอใจเต็มเปี่ยม “รสชาติเป็นอย่างไร”

เฮ่อหลันฉือกัดไปหลายคำ หลังจากกลืนลงคอแล้วก็เอ่ยว่า “ไม่เลวนัก”

“แค่ไม่เลวเท่านั้นหรือ”

ความจริงแล้วในบรรดาของหวานที่ลู่อู๋โยวชอบ นี่เป็นประเภทที่ไม่ค่อยหวานแล้ว แต่สำหรับเฮ่อหลันฉือยังคงหวานมาก แน่นอนว่าอร่อยก็อร่อยอยู่ แต่เลี่ยนเล็กน้อย

ลู่อู๋โยวครุ่นคิดแล้วเอ่ยว่า “เป็นเจ้าเองที่หวานเกินไปกระมัง ดังนั้นจึงไม่รู้สึกถึงความหวาน”

เฮ่อหลันฉือพูดอย่างตกใจ “นี่เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร”

ลู่อู๋โยวส่งเสียงหัวเราะเบาๆ เอานิ้วมือที่เพิ่งเช็ดริมฝีปากนางมาแตะริมฝีปากของตน ใช้ดวงตาดอกท้อมองนางพลางพูดด้วยน้ำเสียงเป็นธรรมชาติอย่างยิ่ง

“เจ้าใช่จะไม่รู้ว่าข้าชอบกินหวาน ดังนั้นไม่ว่าที่ใดก็อยากชิมมาก…”

เฮ่อหลันฉือตัดสินใจไปจากตรงนี้ทันที

 

ระหว่างทางเฮ่อหลันฉือเห็นคุณชายมู่หลิงผู้นั้นยังนอนป่วยอยู่อีก หมอบอกว่าเขาแค่บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ไม่รู้ว่าเหตุใดจึงนอนนานเช่นนี้ นางจำได้ว่าลู่อู๋โยวเคยบอกว่าพลังชีวิตของคนผู้นี้แข็งแกร่งมาก บาดแผลก็สมานเร็วอย่างยิ่ง

แต่ตอนนี้คุณชายที่ผมยาวดำขลับสยายลงข้างกายผู้นี้ราวกับอ่อนแอจนต้านลมไม่ไหว ผ่านไปครู่หนึ่งก็ไอสองทีอยู่บ่อยครั้ง

ฮวาเว่ยหลิงระยะนี้ก็ไม่ค่อยออกไปนอกบ้านแล้ว อยู่ในจวนคอยดูแลเขา

“อาการป่วยของเจ้าเมื่อไรจึงจะหาย”

มู่หลิงไอออกมาอีกทีหนึ่งแล้วพูดด้วยเสียงอ่อนแรง “ข้าก็ไม่รู้ อาจจะทำให้โรคเก่ากำเริบก็ได้…”

ฮวาเว่ยหลิงน้ำเสียงงุนงงมากเช่นกัน “เหตุใดถูกป้ายร้านกระแทกจึงทำให้โรคเก่ากำเริบได้”

มู่หลิงพูดด้วยรอยยิ้มเจือจางอ่อนแอว่า “อาจเป็นเพราะก่อนหน้านี้ข้าเคยถูกป้ายร้านกระแทกใส่เช่นกัน”

“…เช่นนั้นเจ้าก็โชคร้ายเกินไปแล้วกระมัง”

“ไม่เป็นไร ได้เจอกับแม่นางฮวาถือว่าข้ามีโชคในสามชาตินี้แล้ว”

ฮวาเว่ยหลิงเท้าแก้มพลางครุ่นคิดก่อนจะเอ่ยว่า “ไม่ ข้าคิดว่าเจ้าดูเหมือนจะเริ่มโชคร้ายตั้งแต่ได้เจอข้า หรือไม่พวกเราสองคนก็ห่างกันสักหน่อยเถิด”

มู่หลิงเริ่มไอเสียงดังสะเทือนฟ้าดินขึ้นมาทันที ราวกับจะไอเอาปอดออกมาเลยทีเดียว หากว่ามีถุงเลือด เฮ่อหลันฉือคงสงสัยว่าเขาอาจจะแสดงบทกระอักเลือดใส่บุปผาในตอนนี้เลยก็ได้

ฮวาเว่ยหลิงจำต้องประคองตัวเขา ตบแผ่นหลังเบาๆ พลางเอ่ยว่า “ได้ๆๆ ข้าไม่ไปแล้ว ข้าไม่ไปแล้ว…” นางพึมพำ “นี่เจ้าเป็นอะไรกันแน่…”

เฮ่อหลันฉือจู่ๆ ก็นึกถึงการแสดงอันยอดเยี่ยมของใครบางคนก่อนหน้านี้เมื่อนานมาแล้วขึ้นมา

ลู่อู๋โยวก็เห็นแล้วเช่นกัน สีหน้ายากจะอธิบายได้อยู่หลายส่วน เขาเดินเข้าไปพูดกับฮวาเว่ยหลิงว่า “เจ้าไม่ต้องสนใจเขา อีกครู่เขาก็หายแล้ว”

มู่หลิงไอจนหน้าแดงแล้ว

ฮวาเว่ยหลิงตบแผ่นหลังของเขาต่อไปแล้วกล่าวว่า “พี่ชาย ท่านไร้ความเห็นอกเห็นใจเกินไปแล้วกระมัง”

ลู่อู๋โยวพับแขนเสื้อเล็กน้อย “เช่นนั้นเจ้าถอยไป ข้าจะตบหลังให้เขาเอง รับรองว่าคนถึงโรคหาย และข้าก็เคยเรียนการแพทย์ เจ้าเรียนเพียงเรื่องพิษมิใช่หรือ”

“แต่ครั้งก่อนท่านตบจนเขาแทบกระอักเลือดแล้วนะ”

ลู่อู๋โยวพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “กระอักเลือดเสียออกมาบ้างจึงจะดี”

ฮวาเว่ยหลิงยังสองจิตสองใจอยู่ คุณชายมู่หลิงผู้นั้นกลับปิดปากไอก่อนแล้วพูดอย่างเกรงใจว่า “ไม่ ไม่ต้องรบกวนใต้เท้าลู่แล้ว ข้า…ข้าไม่เป็นไรแล้ว…”

เฮ่อหลันฉือไม่รู้เช่นกันว่าควรจะเป็นห่วงใครก่อนดี

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน อุบายรักลิขิตเสน่หา บทที่ 20

บทที่ 20 ความรักลึกซึ้งแนบแน่น เฮ่อหลันฉือไม่มีท่าทางประหนึ่งไม่ยี่หระต่อความตายแต่บนใบหน้ายังคงดูสงบนิ่งอย่างเห็นได้ชัด...

ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก

ทดลองอ่าน ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก บทที่ 137-138

บทที่ 137 ยามนั้นอวี้ฉือเฟยเยี่ยนเองก็เปลี่ยนเป็นชุดพันรอบอกสำหรับเล่นน้ำแล้ว นางเกิดมาแขนขายาว ดังนั้นท่อนล่างถัดจากเสื...

ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก

ทดลองอ่าน ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก บทที่ 139-140

บทที่ 139 เซียวอ๋องเดินทางเข้าเมืองหลวงไปเข้าเฝ้าครั้งนี้นับว่าราบรื่นผิดปกติ ฮ่องเต้เรียกพบองค์ชายรองในห้องทรงพระอักษรท...

community.jamsai.com