ทดลองอ่าน
ทดลองอ่าน อุบายรักลิขิตเสน่หา บทที่ 1
“คุณหนูเฮ่อหลัน ไม่ได้พบกันเสียนาน บังเอิญมารบกวนพวกท่านแล้ว”
เสียงนั้นทุ้มกังวาน อีกทั้งน้ำเสียงยังอ่อนโยนและมีมารยาทเต็มเปี่ยม แต่เฮ่อหลันฉือฟังออกถึงแววหยอกล้อที่แฝงความนัยไม่ถูกไม่ควรชัดเจน
อย่างที่คนเขาพูดกันว่ายิ่งเกลียดยิ่งเจอ
ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายได้ยินบทสนทนาเมื่อครู่ไปมากน้อยเท่าไร เฮ่อหลันฉือตัวแข็งทื่อ กดประตูไว้ สายตาลอบมองไปยังคนเคยรู้จักที่ไม่ได้พบพานกันนานแล้วจริงๆ
“เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”
ช่วงสอบเข้าเป็นขุนนาง อีกฝ่ายจะปรากฏตัวที่เมืองหลวงก็หาใช่เรื่องแปลก แต่มาโผล่อยู่ในห้องนี้ออกจะประหลาดไปสักหน่อย
ยิ่งไปกว่านั้นเฮ่อหลันฉือยังสงสัยว่านางเพิ่งเห็นเขาอยู่ที่หน้าประตูบ้านนางก่อนหน้านี้ด้วย
ลู่อู๋โยวได้ยินเช่นนั้นก็ช้อนตาขึ้นทันใด ยามกะพริบตาเผยดวงตาสีอ่อน หางตาชี้ขึ้นกว่าปกติ ฉาบรัศมีวับวาวที่ดูคล้ายเมามาย แม้ไม่ได้เอื้อนเอ่ยวาจาใด แต่กลับเหมือนล่อลวงโดยไม่เจตนา
ยิ่งไปกว่านั้นเขายังแย้มยิ้มก่อนจะพูดเสียงสั่นในลำคอ แทรกลมหายใจบางเบา “คุณหนูเฮ่อหลันบุกพรวดพราดเข้ามาเอง คำพูดนี้ข้าสมควรเป็นฝ่ายถามมากกว่ากระมัง”
เฮ่อหลันฉือกังวลว่าหลี่ถิงหานางไม่เจอแล้วจะวกกลับมา จึงยังไม่กล้าออกไปข้างนอกตอนนี้ ได้แต่กดกลอนประตูไว้แล้วมองอีกฝ่ายอย่างระแวดระวัง
“เจ้าถือเสียว่าไม่เห็นอะไรก็แล้วกัน”
นางกล่าวเสียงแผ่วเบานุ่มนวล แม้จะเอ่ยวลีข่มขู่ แต่ยังอ่อนโยนกระชดกระช้อยดุจธารน้ำไหลผ่านช่องเขา ไพเราะรื่นหูยิ่ง
แต่เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ผล อีกฝ่ายหัวเราะเบาๆ ก่อนจะหลุบตาลง นิ้วยาวเกี่ยวกาน้ำชาดินเผาบนโต๊ะขึ้นมารินน้ำชาสองถ้วยอย่างสบายใจแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย
“อย่าเพิ่งตื่นตระหนกไป คุณหนูเฮ่อหลันดื่มชาสงบสติอารมณ์ก่อนดีหรือไม่”
เฮ่อหลันฉือไหนเลยจะกล้าดื่มชาถ้วยนี้ “ไม่จำเป็น”
ลู่อู๋โยวก็ไม่ฝืน ข้อนิ้วที่ดูราวกับหยกวางรอบขอบถ้วยขณะยกขึ้นจิบ กระดูกบนหลังมือเรียงตัวยาวเด่นชัด อากัปกิริยายังคงสง่างามและเปี่ยมด้วยมารยาท ประหนึ่งสิ่งที่ดื่มมิใช่ชาเก่าค้างปีของวัด แต่เป็นสุราชั้นดีที่หายากยิ่ง
เวลานี้เฮ่อหลันฉือเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าบนโต๊ะในห้องนี้นอกจากกาและถ้วยน้ำชาแล้ว ยังมีผ้าเช็ดหน้าและปิ่นปักผมของสตรีวางอยู่หลายชิ้น ข้างกันนั้นเป็นกระดาษจดหมายแบบเดียวกับที่หลี่ถิงถืออยู่
นางระลึกได้ทันใดว่าชายผู้นี้ได้รับความนิยมในหมู่สตรีอย่างยิ่งตอนอยู่ที่ชิงโจว
เมืองหลวงเจริญรุ่งเรือง ผู้คนเปิดกว้างยิ่งกว่าที่ชิงโจว คาดว่าเขาก็คงมาอยู่ที่นี่เพื่อหลบแม่นางเหล่านั้นที่คอยชม้อยชายตามาให้เช่นเดียวกัน
ครั้นปะติดปะต่อเรื่องราวได้เฮ่อหลันฉือกลับบังเกิดความรู้สึกเห็นใจหญิงสาวที่ดวงตาพร่ามัวเหล่านั้นขึ้นมาอย่างที่ไม่ค่อยเหมาะกับสถานการณ์ยามนี้เท่าไรนัก นั่นก็เพราะว่าชายผู้นี้มิใช่บุรุษแสนดีอ่อนโยนดังเช่นรูปโฉมภายนอกเลยสักนิด
ยังจำได้ว่าตอนนั้นที่นางอยู่บนภูเขาด้านหลังสำนักศึกษาเจียงหลิวในชิงโจว นางเห็นกับตาว่ามีแม่นางคนหนึ่งมอบผ้าเช็ดหน้าปักลายไผ่เขียวให้เขาด้วยสีหน้าตื่นเต้นพร้อมกล่าวอย่างเขินอาย
‘ทำให้ผ้าเช็ดหน้าท่านสกปรกแล้ว ข้า…ข้าเลยหาผืนใหม่มาให้…’
เขารับไว้ด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ทั้งยังกล่าวขอบคุณเบาๆ ด้วยกิริยาสุภาพเหลือแสนจนเกือบทำให้เฮ่อหลันฉือคิดว่าตนเผลอเข้ามาขัดจังหวะส่วนตัวของคู่รักเสียแล้ว
คาดไม่ถึงว่าขณะที่นางกำลังจะเดินตามออกไปหลังจากแม่นางผู้นั้นเดินไปไกล นางเห็นลู่อู๋โยวล้วงเอากลักจุดไฟมาเผาผ้าเช็ดหน้าปักลายผืนนั้นทิ้งจนไม่เหลือซากด้วยสีหน้าเฉยเมย ราวกับต้องการทำลายหลักฐานความผิดอะไรสักอย่าง แสงไฟส่องกระทบบนใบหน้าเขาเป็นเงาตะคุ่ม ดูโหดเหี้ยมไร้ซึ่งเยื่อใย ทำเอาเฮ่อหลันฉือที่ตอนนั้นต้องเลี่ยงไปทางอื่นเพื่อไม่ให้เจอกันรู้สึกตื่นตะลึงยิ่ง
ยามนี้ลู่อู๋โยวมองตามสายตาของเฮ่อหลันฉือ สายตาจับค้างอยู่บนข้าวของเหล่านั้นครู่หนึ่ง ก่อนจะหันกลับไปมองหญิงสาว
เขายกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “ของเหล่านี้ข้าจะกำจัดทิ้ง ไม่ให้ผู้ใดเข้าใจผิด ว่าแต่คุณหนูเฮ่อหลันตอนนี้ใช่หรือไม่ว่า…กำลังหัวเราะเยาะผู้อื่นทั้งที่ตนทำอย่างเดียวกัน”
เฮ่อหลันฉือคิดได้ทันที ประโยคแรกที่เขาพูดตอนเจอหน้ากันแทบจะยืนยันได้เลยว่าเขาไม่เพียงได้ยินบทสนทนาของนางกับหลี่ถิงเมื่อครู่ แต่เกรงว่ายังได้ยินมาไม่น้อยด้วย
“คุณชายลู่” นางพยายามคุมน้ำเสียงให้นุ่มนวล “เกรงว่าเจ้าจะเข้าใจอะไรผิด ข้าไม่ได้นัดพบคนที่นี่ วันนี้ล้วนเป็นเรื่องไม่คาดคิด…ตอนนี้ข้ากำลังหนีภัย”
ลู่อู๋โยวจ้องมองนางแวบหนึ่งแล้วพูดยิ้มๆ “คุณหนูเฮ่อหลันวางใจได้ ข้าไม่เอาไปพูดที่ใดหรอก…เรื่องนี้ไม่มีประโยชน์อันใดกับข้า”
เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เชื่อโดยสิ้นเชิง
“ต่อให้ข้าโง่งมเพียงใดก็ไม่นัดเขามาเจอกันที่นี่เวลานี้แน่นอน” เฮ่อหลันฉือกล่าว
หากมีผู้ใดบังเอิญมาพบ นางต้องเดือดร้อนเป็นแน่
ลู่อู๋โยวถอนสายตากลับ ยกมือไปรินน้ำชาให้ตนเองอีกถ้วยอย่างไม่รีบไม่ร้อน รอยยิ้มที่ริมฝีปากลึกขึ้นกว่าเดิม “เรื่องนี้ข้าจะไปทราบได้อย่างไร”
เฮ่อหลันฉือ “…?”
หญิงสาวอดถามไม่ได้ “หลังประกาศผลสอบเจ้ายังจะหน้าระรื่นเช่นนี้อยู่หรือไม่”
“อา…ยังมิทราบ” ลู่อู๋โยวแกว่งถ้วยชาเบาๆ น้ำชาถูกแกว่งจนขุ่นขึ้นมา เขาทำสีหน้าสำรวม เอ่ยเสียงต่ำคล้ายรู้สึกกระดากใจ “แต่ก็คงภายในวันสองวันนี้”
แสงเงาที่กระจัดกระจายในห้องตกกระทบบนใบหน้าอ่อนเยาว์ของเด็กหนุ่ม ดูสะอาดใสราวกับสระน้ำ
ใบหน้าของเขาอ่อนละมุนยิ่ง แววในดวงตากระจ่างชัด วาววับเป็นประกาย ยามแพขนตาหนาปกคลุมลงมายังให้ความรู้สึกอ่อนน้อม ทั่วทั้งร่างดุจชำระล้างด้วยน้ำพุใสสะอาด เมื่อสวมชุดคลุมสีขาวปลอดแบบบัณฑิต ผู้ใดก็ตามที่แลเห็นล้วนคิดว่าเขาเป็นคุณชายที่แสนอ่อนโยนไร้พิษภัยในโลกแห่งโลกียวิสัย มีโอกาสที่จะถูกผู้อื่นหลอกลวงอย่างยิ่ง
หากมิใช่เพราะรู้จักถึงก้นบึ้ง นางคงคิดว่าเขากำลังถ่อมตัวจริงๆ
Comments
