เดิมเรือจากเมืองเหลียวไปเมืองหลวงก็มีน้อยเต็มที ทั้งยามนี้เป็นช่วงปลายปี อากาศเริ่มเย็นขึ้นเรื่อยๆ แล้ว แม่น้ำลมแรง ทำให้ยิ่งมีเรือน้อยลงไปอีก เวลาเพียงชั่วครู่ชั่วยามจะยังหาเรือไปเมืองหลวงได้จากที่ใด
สีหน้าผู้ติดตามนามฉีหมิงมีแววลำบากใจ ยังคงหันตัวไปกล่าวกับหลี่ซิวเหยาที่ยืนอยู่ข้างกัน “คุณชาย ท่านดูเถิด เรื่องนี้ควรทำเช่นไรดีขอรับ”
สามวันมานี้ไม่ว่าพวกเขามองเห็นเรือลำใดก็จะถามว่าไปเมืองหลวงหรือไม่ ไม่ง่ายเลยกว่าจะเจอเรือที่ไปเมืองหลวงในที่สุด แต่กลับถูกคนเหมาไว้แล้ว ไม่รับคนเพิ่ม
ทว่าคุณชายได้รับหนังสือจากกรมขุนนางเรียกไปรายงานตัวที่กรมทหารอย่างเร่งด่วนที่สุด ทางบกช้าเกินไป จึงได้คิดเดินทางทางน้ำ แต่ก็ยังหาเรือไปเมืองหลวงไม่ได้เสียที…
ฉีหมิงกล่าวอีกว่า “คุณชาย ข้าจะไปบอกกับคนคุมเรือผู้นั้นว่าขอแค่เขาให้พวกเราขึ้นเรือ พวกเราจะให้เงินเพิ่มเป็นอย่างไรขอรับ หรือไม่ข้าไปขอพบคนที่เหมาเรือลำนี้ก็ได้ ขอแค่ให้พวกเราขึ้นเรือ พวกเราก็ให้เงินเขาด้วยอีกคน”
สายตาหลี่ซิวเหยาเหลือบมองหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหัวเรือ
ก่อนคนคุมเรือจะตอบเมื่อครู่นี้ อีกฝ่ายได้มองไปทางเสิ่นหยวนแวบหนึ่ง แม้จะเลื่อนสายตากลับมาทันที แต่หลี่ซิวเหยาก็ยังสังเกตเห็นนาง
คิดว่าหญิงสาวนางนั้นคงเป็นคนที่เหมาเรือนี้ไว้เป็นแน่
ก่อนหน้านี้นางหันหน้ามามองเพียงแวบเดียวก็รีบหันหน้ากลับไป เวลานี้หลี่ซิวเหยาจึงมองเห็นเพียงหลังอันแบบบาง
“ช่างเถอะ” หลี่ซิวเหยาเก็บสายตากลับมา สีหน้าราบเรียบ “รอถามเรือลำอื่นแล้วกัน”
เขาเป็นคนที่ไม่เคยยอมขอร้องใคร
ฉีหมิงจนใจ ทำได้เพียงรับคำ จากนั้นเขาก็ทำท่าจะเดินออกไปจากริมฝั่งตามหลังหลี่ซิวเหยา
เวลานี้เองเสิ่นหยวนกลับกระซิบบางอย่างริมหูไฉ่เวย ไฉ่เวยมองเงาหลังของหลี่ซิวเหยาและฉีหมิงที่เดินไปได้ไม่กี่ก้าวแวบหนึ่ง เอ่ยปากตอบรับเสิ่นหยวนเสียงเบา ก่อนจะเดินไปหยุดเบื้องหน้าคนคุมเรือ ถ่ายทอดคำพูดของเสิ่นหยวนเบาๆ
คนคุมเรือฟังแล้วก็รีบตะโกน “น้องชายท่านนั้นโปรดช้าก่อน! ผู้ว่าจ้างของพวกข้าบอกว่าจะให้พวกท่านทั้งสองเดินทางไปเมืองหลวงด้วยกัน เชิญทั้งสองท่านขึ้นเรือมาเถิด!”
ฉีหมิงดีใจจนเผยออกมาทางสีหน้า ร้องเรียกคุณชายด้วยความตื่นเต้นดีใจ ในใจหลี่ซิวเหยาเองก็คาดไม่ถึง ทว่าบนใบหน้ากลับไม่แสดงอาการใดๆ ยังคงเรียบเฉย
เขาหันกลับมาก็มองเห็นหลังแบบบางนั้นหายลับเข้าประตูห้องพักไปพอดี
เขาเก็บสายตากลับมาพลางยกเท้าเดิน ก่อนเหยียบไม้กระดานขึ้นเรือ ผงกศีรษะให้คนคุมเรือและไฉ่เวยน้อยๆ ก่อนสั่งให้ฉีหมิงนำเงินสองก้อนออกมาให้คนคุมเรือและไฉ่เวย “นี่เป็นค่าเรือ”
ในใจคนคุมเรืออยากรับเงินนี้แต่ก็ไม่กล้ารับ สายตาเหลือบไปทางไฉ่เวยไม่หยุด ไฉ่เวยย่อมจะไม่รับ เพียงแต่พูดว่านี่เป็นคำสั่งของคุณหนู
เดิมทีก็เป็นเรือที่ผู้อื่นเหมาเอาไว้ แต่นางไม่เพียงให้พวกเขาขึ้นเรือไปด้วยกัน แม้แต่ค่าเรือก็ยังไม่รับ หลี่ซิวเหยารู้สึกเกรงใจอยู่บ้าง จึงเอ่ยปากว่าจะไปขอบคุณเจ้านายไฉ่เวยต่อหน้า
ไฉ่เวยลังเลเล็กน้อย จากนั้นก็นำทางหลี่ซิวเหยาเดินไปทันที