ครั้นแล้วเสิ่นหยวนก็ให้ไฉ่เวยออกไปส่งหลี่ซิวเหยา
ไฉ่เวยรับคำ เปิดประตูออกไป
หลี่ซิวเหยาประสานมือคารวะไปยังประตู เสียงราบเรียบเช่นกัน “ผู้น้อยแซ่หลี่ ขอบคุณในคุณธรรมอันสูงส่งของแม่นาง วันหน้าจะตอบแทนแน่นอน”
มุมปากเสิ่นหยวนโค้งขึ้นมาอีก
นางรู้ว่าหลี่ซิวเหยามีนิสัยเย่อหยิ่งเย็นชา เขายอมเสียเลือดดีกว่าจะเอ่ยปากขอร้องผู้ใด ทั้งไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากผู้อื่นโดยปราศจากสาเหตุ กระนั้นเรื่องในวันนี้นางก็ไม่เคยคิดอยากได้สิ่งตอบแทนจากหลี่ซิวเหยาอยู่แล้ว
เสิ่นหยวนหันหน้าไปทางหน้าต่างเรือ หลุบตาลง มองผิวน้ำที่มีระลอกคลื่นน้อยๆ ด้วยสีหน้าเฉยชา
ชาติก่อนใช้ชีวิตห้าปีอันไม่น่าจดจำอยู่ในสกุลหลี่ ชาตินี้นางไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับผู้ใดในสกุลหลี่อีกแล้ว วันนี้รับหลี่ซิวเหยาติดเรือไปด้วยก็ถือว่าคืนน้ำใจในคำพูดนั้นที่เขาพูดกับนางในชาติก่อน นับแต่นี้ไม่ติดค้างต่อกันอีก
ครั้นคนที่ไปซื้อเสบียงอาหารกลับมา คนคุมเรือก็สั่งลูกเรือปลดเชือก ชักใบเรือขึ้น เรือแล่นออกจากฝั่ง เดินทางมุ่งหน้าต่อไปอีกครั้ง
เป็นเวลาอาหารกลางวันแล้ว สาวใช้อายุน้อยนามชิงเหอและชิงจู๋ถือถาดใหญ่สีแดงชาดเข้ามา
เป็ดตุ๋นสี่มงคลหั่นเป็นชิ้นหนึ่งจาน แตงมะเขือหนึ่งจาน หมี่กึงผัดหนึ่งจาน และแกงหน่อไม้ตุ๋นขาหมูรมควันอีกจานใหญ่ พร้อมด้วยข้าวสวยร้อนๆ อีกหนึ่งถ้วย
ไฉ่เวยจัดอาหารเหล่านี้ลงบนโต๊ะเรียบร้อยก็เรียกเสิ่นหยวนมากิน “บนเรือไม่มีวัตถุดิบดีๆ และก็ไม่มีพ่อครัวฝีมือดีอะไร คุณหนูกินประทังท้องเสียหน่อยนะเจ้าคะ”
นางจำได้ว่าเมื่อก่อนเสิ่นหยวนพิถีพิถันเรื่องเหล่านี้เป็นที่สุด อาหารไม่ถูกปากนิดเดียวนางก็ไม่กินแล้ว ทั้งยังจะอารมณ์เสียด้วย ผู้ที่เคราะห์ร้ายมีหรือจะพ้นบ่าวอย่างพวกนาง ดังนั้นพอเห็นอาหารง่ายๆ เช่นนี้บนโต๊ะในใจไฉ่เวยจึงกระวนกระวายอยู่บ้าง เกรงว่าเสิ่นหยวนจะอารมณ์เสีย
แต่ครั้นเสิ่นหยวนเดินมาเห็นอาหารเหล่านี้แล้ว กลับนั่งลงบนม้านั่งกลมข้างโต๊ะ หยิบตะเกียบขึ้นมาเริ่มกินโดยที่ไม่มีสีหน้าไม่พอใจแม้แต่น้อย
ขณะนางกินสีหน้านั้นจริงจังยิ่ง และจดจ่อยิ่ง คล้ายนางเห็นคุณค่าของข้าวทุกเม็ดและผักทุกใบ ทนให้สิ้นเปลืองไม่ได้อย่างไรอย่างนั้น
และอันที่จริงเสิ่นหยวนก็เสียดายข้าวทุกเม็ดและผักทุกใบจริงๆ
ชาติก่อนนางกินข้าวกล้องที่สกุลหลี่อยู่หลายปี กับข้าวยิ่งไม่ต้องพูดถึง มีผักแก่ๆ ได้สักจานก็นับว่าหาได้ยากแล้ว เพราะฉะนั้นกับข้าวตรงหน้าเหล่านี้ถือว่าดีมากจริงๆ
เสิ่นหยวนค่อยๆ กินจนหมด ชิงเหอและชิงจู๋เก็บถ้วยชามออกไป ไฉ่เวยก็นำผ้าเช็ดมืออุ่นๆ มาให้เสิ่นหยวนเช็ดมือ
เสิ่นหยวนรับมาเช็ดมือพลางกล่าวกับนาง “เมื่อครู่ข้ากินเป็ดตุ๋นสี่มงคลจานนั้นรู้สึกว่ารสชาติดียิ่ง ประเดี๋ยวตอนเจ้ากับชิงเหอชิงจู๋กินข้าวก็แบ่งไปกินเถิด อีกอย่างฉางหมัวมัวอายุมากแล้ว เป็ดนี้เกรงว่านางคงกินไม่ไหว ทั้งนางก็เมาเรือ อาเจียนหนัก ประเดี๋ยวเจ้านำสาลี่เป็ด พุทรากรอบ กับกระจับสดไปให้นางด้วยตนเองสักหน่อย”
ไฉ่เวยตอบรับอย่างเคารพนบนอบเสร็จก็เรียกสาวใช้อีกคนที่กินข้าวแล้วเข้ามาคอยรับใช้ ส่วนตนเองออกไปส่งของที่เสิ่นหยวนมอบให้ฉางหมัวมัว