ชุยฉวนเป่ามองดูดวงหน้าจิ้มลิ้มที่ขาวผุดผาดดุจหยกสลักของนาง ทั้งที่เห็นอยู่ว่าเป็นแม่นางน้อย แต่กลับพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงที่ใช้หลอกล่อเด็ก เขาจึงทั้งฉุนทั้งขันยื่นมือไปยึดจับร่างที่ยืนโคลงเคลงของนางให้มั่นคง ทางหนึ่งพยุงแขนน้องสาวไว้ อีกทางหนึ่งก็เรียกให้นางลงมาจากม้านั่งไม้ “เจ้าจะซื้ออะไรเล่า พี่ยังมีเงินเก็บเป็นเหรียญอีแปะจำนวนหนึ่ง ปิ่นนั่นเจ้าเก็บไว้เถอะ”
ไม่ทันจบคำเขาก็ค้นถุงผ้ากลางเก่ากลางใหม่ใบเล็กๆ ออกมาจากบนเตียงของเขา ก่อนเทเหรียญอีแปะข้างในออกมาห้าเหรียญ
แม้ชาติก่อนอยู่ที่สกุลหลิ่วฉยงเหนียงก็มีพี่ชายหนึ่งคน ทว่าหลิ่วเจียงจวีหลงใหลในวิชายุทธ์มาตั้งแต่เล็ก ทั้งคบหาสหายในยุทธภพจำนวนหนึ่งจนวันทั้งวันไม่เห็นร่องรอย ครั้นต่อมาเขาไปเป็นทหาร ความสัมพันธ์กับฉยงเหนียงจึงไม่นับว่าแน่นแฟ้น
ตอนนี้แม้ชุยฉวนเป่ายังมักปั้นหน้าขรึมกับนาง แต่ก็มีท่าทีของผู้เป็นพี่ชายไม่น้อย เขาถึงกับใจดีเทเงินให้นางหมดหน้าตักเช่นนี้ ทำให้หัวใจนางร้อนผะผ่าวอย่างไม่อาจควบคุมเลยทีเดียว
ชาติก่อนแม้ได้อยู่ในตระกูลที่เรืองอำนาจ ทว่าพออยู่นานวันเข้าหัวใจกลับเย็นเฉียบไปทั้งดวง ไม่เหลือน้ำใจคนอยู่แม้แต่น้อย ต่อให้มีอาภรณ์หรูหราอาหารเลิศรสมากสักเพียงใด ก็ไม่อาจเทียบความจริงใจกับเหรียญอีแปะห้าเหรียญที่วางเรียงอยู่ข้างเตียงในตอนนี้ได้
นางเม้มปากเล็กน้อยก่อนจะผงกศีรษะรับ “เงินนี้ข้าจะนำไปใช้ก่อน วันหน้าจะคืนให้พี่เป็นเท่าตัวแน่นอน”
ชุยฉวนเป่าถูกท่าทางจริงจังของนางเย้าให้คลี่ยิ้มอีกครั้ง เขาตอบนางเพียงว่า “ใช้แล้วก็ใช้ไปสิ ต้องการให้เจ้ามาใช้คืนเสียเมื่อไร” จากนั้นเขาก็พานางออกไปข้างนอกด้วยกัน
เดิมทีเขานึกว่านางจะซื้อของกระจุกกระจิกเช่นดอกไม้แซมผมหรือลูกอม คาดไม่ถึงว่านางจะตรงไปยังร้านภาพอักษรที่มุมถนน
เจ้าของร้านเพิ่งจะถอดบานประตูหน้าร้านเสร็จ ก็เห็นแม่นางผิวขาวเนียนผู้หนึ่งตรงเข้ามาเอ่ยถามว่า “ในร้านมีพู่กันก้ามปูขนาดเล็กที่สุดหรือไม่”
พู่กันก้ามปูนั้นใช้สำหรับงานวาดที่เน้นความละเอียด เช่นใช้ลงน้ำหมึกในจุดที่ประณีตยิ่งยวดอย่างเส้นผมของสตรีชั้นสูง แม่นางน้อยผู้นี้แม้งดงาม ทว่าดูจากชุดผ้าสีน้ำเงินบนร่างแล้วกลับไม่คล้ายทายาทของผู้รู้ศิลปะที่จะได้เรียนวาดภาพ เมื่อถามชัดเจนแล้วว่านางจะเป็นผู้ใช้ เจ้าของร้านก็เอ่ยเย้าทันที “พู่กันนี้เรียวเล็กเกินไป เจ้าถือไม่อยู่มือหรอก คงไม่ใช่ซื้อผิดกระมัง”
ฉยงเหนียงปรายตามองเขาเรียบๆ ปราดหนึ่งก่อนเอ่ยเสริมอีกประโยค “พู่กันก้ามปูของอำเภอเหวยเป็นของชั้นเลิศ ทว่าราคาสูงนัก เถ้าแก่หยิบพู่กันซานลี่ของอำเภอเม่ามาก็พอ” นางพูดพลางควักเหรียญอีแปะสี่เหรียญจากในกระเป๋า
วาจาที่เอ่ยนี้มิใช่แม่นางน้อยผู้ไร้เดียงสาความรู้ตื้นเขินจะสามารถพูดออกจากปากได้เด็ดขาด เจ้าของร้านอดไม่ได้ที่จะตะลึงงัน