อีกด้านหนึ่งหลังหลี่ซิวเหยากุมมือเสิ่นหยวนเดินออกมาจากเรือนฮุ่ยชุนแล้ว เขาก็เอ่ยถามนางว่า “ไฉนเจ้าถึงมาที่นี่”
เรือนฮุ่ยชุนเป็นเรือนของหลี่ซิวหยวนกับเซี่ยเจินเจิน
คราวก่อนขณะหลี่ซิวเหยามองเห็นหลี่ซิวหยวนกับเสิ่นหยวนที่เรือนโม่อวิ้น ในใจก็นึกสงสัยอยู่บ้างแล้ว รู้สึกอยู่ตลอดว่าระหว่างคนทั้งสองหาได้แค่เคยพบหน้ากันในบ้านเสิ่นลั่วแต่อย่างเดียวไม่
ยามนี้ยังมาเห็นเสิ่นหยวนอยู่ในเรือนฮุ่ยชุนอีก และเมื่อครู่หลี่ซิวหยวนก็อยู่ด้วย
เสิ่นหยวนรู้ว่าหลี่ซิวเหยาเป็นคนขี้ระแวง เกรงว่าเขาจะเกิดคลางแคลงใจขึ้นมาจึงรีบอธิบายว่า “ก่อนหน้านี้ข้าอยู่ในเรือนแล้วรู้สึกอุดอู้ จึงพาไฉ่เวยไปเดินเล่นในสวน แล้วบังเอิญเจอกับน้องสะใภ้รองเข้าพอดี นางบอกว่าไม่กี่วันก่อนเพิ่งปักภาพเสร็จ จึงชวนข้ามาดู เดิมทีข้าไม่อยากมา แต่นางก็จะชวนข้ามาให้ได้ ข้าจึงได้แต่ตามมา หลังคุยกับนางได้ครู่หนึ่ง นางบอกว่าจะทำขนมแป้งกระจับผสมน้ำตาลดอกกุ้ยให้ข้ากิน ตอนนั้นเองก็เห็นน้องรองเลิกงานกลับมา ข้าคิดว่าท่านอาจจะกลับมาแล้วเช่นกัน จึงรีบจะกลับไปเรือนจิ้งหยวนเพื่อพบท่าน คิดไม่ถึงว่าท่านจะมาหาข้าเสียก่อน”
พูดถึงตรงนี้เสิ่นหยวนก็กระเซ้าขึ้นยิ้มๆ “ต้องโทษท่าน มิเช่นนั้นป่านนี้ข้าก็คงได้กินขนมแป้งกระจับผสมน้ำตาลดอกกุ้ยที่น้องสะใภ้รองทำแล้ว!”
หลี่ซิวเหยาได้ยินเสิ่นหยวนพูดเช่นนี้ ความคลางแคลงใจเมื่อครู่ก่อนก็สลายหายไป จึงยิ้มพลางกล่าวว่า “วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดครบรอบหกสิบปีของอิงกั๋วกง ตอนเย็นจะจัดงานเลี้ยง ซ้ำยังเชิญคณะละครและนักแสดงปาหี่มาด้วย ตอนประชุมขุนนางในตอนเช้าเขาได้กราบทูลขอให้ฝ่าบาททรงเลื่อนเวลาเลิกงานในวันนี้ให้เร็วขึ้น ด้วยอยากจะเชิญบรรดาขุนนางไปร่วมงานเลี้ยงที่จวนเขา ฝ่าบาททรงอนุญาตแล้ว ดังนั้นวันนี้กรมกองต่างๆ จึงเลิกงานตั้งแต่กลางยามเว่ย”
เสิ่นหยวนจึงถามว่า “แล้วไฉนท่านถึงไม่ไปร่วมงานเลี้ยงที่จวนอิงกั๋วกงเล่า”
ตอนนี้หลี่ซิวเหยาเป็นแม่ทัพใหญ่ ไม่มีทางที่อิงกั๋วกงจะไม่เชิญเขา
แต่เสิ่นหยวนก็จำได้ว่าชาติก่อนอิงกั๋วกงดูเหมือนจะยืนอยู่ฝ่ายองค์ชายใหญ่ ต่อมายังถูกหลี่ซิวเหยาจัดการด้วย
หลี่ซิวเหยามองนางด้วยสายตาเปื้อนยิ้ม “ไปอยู่กับคนพวกนั้นมีอะไรน่าสนใจกัน กลับมาอยู่กับเจ้าดีกว่า”
มิหนำซ้ำหลี่ซิวเหยาเองก็รู้ว่าแม้ผิวเผินอิงกั๋วกงจะเชิญเขาไปร่วมงานเลี้ยง แต่ก็หาเชิญด้วยความจริงใจไม่
อิงกั๋วกงถือตัวว่าเป็นขุนนางมาสองรัชศก บรรพบุรุษยังเคยเป็นผู้ช่วยที่ติดตามปฐมกษัตริย์ จึงไม่เห็นหลี่ซิวเหยาอยู่ในสายตา อีกทั้งอิงกั๋วกงก็สนับสนุนองค์ชายใหญ่ ผู้ที่ไปร่วมงานเลี้ยงคราวนี้ก็เป็นขุนนางที่ยืนอยู่ฝ่ายองค์ชายใหญ่เป็นส่วนมาก หลี่ซิวเหยาไม่อยากไปคบค้าสมาคมกับคนเหล่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้นในใจหลี่ซิวเหยาก็คิดถึงเสิ่นหยวนจริงๆ ดังนั้นจึงบอกปัดอย่างเกรงอกเกรงใจสองสามคำ แล้วสั่งให้ฉีหมิงส่งของขวัญไปแทน ส่วนตนเองก็กลับมาก่อน
เสิ่นหยวนได้ยินแล้วก็แก้มแดง ในใจนึกยินดียิ่ง