ทว่าเขาออกจากบ้านมานานนับเดือนแล้ว ไม่รู้ว่าตอนนี้เสิ่นหยวนเป็นอย่างไรบ้าง เขาทิ้งองครักษ์ที่ไว้ใจได้ให้คอยคุ้มครองเสิ่นหยวนในจวนสกุลหลี่ คิดว่าคงไม่มีใครกล้ารังแกนางแน่นอน
แต่จะอย่างไรหลี่ซิวเหยาก็ยังไม่วางใจ เขาคิดแล้วก็หันหน้าไปสั่งฉีหมิงที่ยืนอยู่ด้านข้าง “หาคนเหมาะสมมาสักคน ให้กลับไปดูว่าตอนนี้ฮูหยินเป็นอย่างไรบ้างแล้ว”
“นายท่าน เรื่องนี้…” ฉีหมิงลังเลอยู่บ้าง ที่สุดแล้วก็ยังคงเอ่ยปากเตือนอย่างอ้อมค้อม “ความเคลื่อนไหวในยามนี้ของท่านไม่อาจปล่อยให้ผู้ใดล่วงรู้ได้นะขอรับ”
ผู้อื่นล้วนคิดว่ายามนี้หลี่ซิวเหยายังอยู่ที่ซานซี มีหรือจะรู้ว่าเขามาหลบอยู่ที่ชานเมืองหลวง ลอบก่อกวนแทรกแซงการเปลี่ยนแปลงในราชสำนักอย่างลับๆ
หากส่งคนไปดูฮูหยินในยามนี้แล้วถูกคนไม่หวังดีจับได้ เช่นนั้นเรื่องที่ทำมาทั้งหมดไหนเลยจะไม่สูญเปล่า
ทว่าพอฉีหมิงพูดออกมาเขาก็เห็นว่าสายตาที่หลี่ซิวเหยามองตนเย็นเยียบคมปลาบขึ้นในพริบตา จึงรู้ในทันทีว่าหลี่ซิวเหยามีโทสะแล้ว
ฉีหมิงใจหายวาบ ไม่กล้าพูดอะไรอีก เพียงก้มหน้ารับคำว่า “ขอรับ”
พูดพลางฉีหมิงก็หันหลังเดินออกไปหาคนลอบสืบข่าวฮูหยินในยามนี้
เช้าวันรุ่งขึ้นคนที่ฉีหมิงส่งไปสืบข่าวก็กลับมาแล้ว หลี่ซิวเหยาให้ฉีหมิงพาเขาเข้ามารายงาน
ผู้มาคุกเข่าลงกับพื้น รายงานสถานการณ์ในจวนอย่างละเอียด “เมื่อคืนผู้น้อยอาศัยความมืดข้ามกำแพงเข้าไปในจวน ลอบไปหาองครักษ์จางอย่างเงียบๆ สอบถามข่าวคราวในระยะนี้ของฮูหยินจากเขา ก็ทราบว่าวันรุ่งขึ้นหลังท่านจากมา ขณะฮูหยินกินอาหารได้เกิดอาการคลื่นเหียน อาเจียนออกมา จึงเชิญหมอมาตรวจดู ท่านหมอบอกว่าฮูหยินตั้งครรภ์ได้สามเดือนกว่าแล้ว หลังจากวันนั้นฮูหยินก็อาการมิสู้ดีนัก มักจะคลื่นเหียนอาเจียนลมเป็นประจำ ทุกวันจึงอยู่แต่ในห้อง น้อยครั้งนักที่จะก้าวออกประตูเรือน”
ขณะหลี่ซิวเหยาได้ยินคนผู้นั้นบอกว่าเสิ่นหยวนตั้งครรภ์ได้สามเดือนกว่า เขาก็มึนงงไปทันใด เป็นครู่ใหญ่ก็ยังไม่ได้สติกลับมา
ในใจฉีหมิงเองก็ตกตะลึงเช่นกัน คิดไม่ถึงว่านายของตนเพิ่งจะจากมา ฮูหยินก็พบว่าตนเองตั้งครรภ์ทันที มิหนำซ้ำยังตั้งครรภ์ได้สามเดือนกว่าแล้ว เช่นนั้นตอนนี้คำนวณดูอายุครรภ์ฮูหยินก็น่าจะได้สี่เดือนกว่า
ฉีหมิงหันหน้าไปมองหลี่ซิวเหยา
เห็นว่าแม้ยามนี้สีหน้าเขาจะนับว่าดูสงบนิ่ง แต่มือขวาที่กุมถ้วยชาอยู่กลับกำแน่นขึ้นจนทำให้คนนึกเป็นห่วงว่าอีกประเดี๋ยวถ้วยชาใบนี้จะถูกเขาบีบแตกคามือ
ฉีหมิงคิดในใจว่า…ดูท่านายท่านคงจะตกตะลึงมากแน่นอน
ในใจหลี่ซิวเหยาตกตะลึงมากจริงๆ
เสิ่นหยวนถึงกับตั้งครรภ์แล้ว? ลูกของข้ากับนาง? มิหนำซ้ำตอนนี้นางก็ยังอาการไม่สู้ดี…
พอคิดถึงตรงนี้หลี่ซิวเหยาก็รู้สึกปวดใจ อยากจะพบหน้าเสิ่นหยวนเสียเดี๋ยวนี้ใจแทบขาด
เขาโบกมือให้คนผู้นั้นถอยออกไป ก่อนหันหน้าไปมองต้นอู๋ถงที่นอกหน้าต่าง
ต้นอู๋ถงใหญ่โตจนคนเดียวโอบไม่รอบ เป็นฤดูใบไม้ผลิ ใบไม้จึงเขียวขจี แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องลงไปก็คล้ายว่ากึ่งโปร่งแสง
ยามนี้เสิ่นหยวนกำลังอุ้มท้องลูกของเขา ทั้งยังอาการไม่ดียิ่ง แต่เขากลับไม่ได้ไปอยู่ข้างๆ นาง ในใจนางจะตำหนิเขา จะรู้สึกน้อยใจ กระทั่งทำอะไรไม่ถูกหรือไม่
พอคิดถึงตรงนี้หลี่ซิวเหยาก็แทบอยากจะตรงกลับบ้านไปพบเสิ่นหยวนทันที ดึงนางมากอดไว้ในอ้อมแขนของตนเอง จุมพิตนางด้วยความรักและสงสาร
หลี่ซิวเหยาต้องใช้ความมุ่งมั่นอย่างมากถึงได้ฝืนหักห้ามความคิดนั้นในใจลงได้