ทดลองอ่าน เกิดใหม่อีกที ไม่ขอสามีสกุลหลี่ บทที่ 7 – บทที่ 8 – หน้า 5 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน เกิดใหม่อีกที ไม่ขอสามีสกุลหลี่ บทที่ 7 – บทที่ 8

เสื้อผ้าที่ผ่านมาของเสิ่นหยวนล้วนมีสีสันสดใสฉูดฉาด แต่ตอนนี้อยู่ในช่วงไว้ทุกข์ให้มารดาย่อมไม่อาจสวมใส่ ยามอยู่ที่บ้านท่านตาที่ฉางโจวจึงได้ตัดชุดสีเรียบสะอาดตาไว้หลายชุดแล้ว

เสิ่นหยวนมองเสื้อผ้าที่อยู่ในตู้เสื้อผ้าแวบหนึ่ง ก่อนจะบอกว่า “เสื้อนอกตัวยาวผ่าหน้าที่ทำจากผ้าต่วนซ่อนลายสีขาวงาช้างตัวนั้นกับกระโปรงจีบเล็กสีหยกตัวนั้นแล้วกัน”

ไฉ่เวยรับคำ ก่อนหยิบชุดนั้นออกจากตู้มาใส่ให้เสิ่นหยวนอย่างคล่องแคล่วว่องไว ทรงผมที่ทำให้ดูเรียบง่าย ส่วนเครื่องประดับที่ใส่ก็ล้วนเป็นเครื่องเงินสีเรียบๆ สะอาดตาเช่นกัน

หลังแต่งตัวเรียบร้อยและสั่งให้ชิงเหอชิงจู๋อยู่เฝ้าเรือนแล้ว เสิ่นหยวนก็พาไฉ่เวยออกไปคารวะบิดา

 

เสิ่นเฉิงจางสวมเสื้อนอกตัวยาวสีน้ำเงินเทา กำลังกินอาหารเช้าอยู่โดยมีเซวียอี๋เหนียงปรนนิบัติ

ครั้นเห็นเสิ่นหยวนเดินมา เสิ่นเฉิงจางก็เอ่ยถามนางอย่างมีเมตตาปรานี “เจ้าเดินทางมาเหน็ดเหนื่อย เพิ่งจะถึงบ้านเมื่อวานนี้ ไฉนไม่พักให้มากหน่อย ตื่นเช้าเพียงนี้ไปไย”

เสิ่นหยวนตอบยิ้มๆ ด้วยท่าทางนอบน้อม “ลูกไม่ได้มาคารวะท่านพ่อตั้งนานแล้ว วันนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องตื่นเช้ามาคารวะท่านให้ได้เจ้าค่ะ”

ที่แล้วมาเสิ่นหยวนรำคาญจะฟังเสิ่นเฉิงจางบ่นว่านางไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ทุกวัน ปกติสิบวันครึ่งเดือนถึงค่อยมาคารวะเสิ่นเฉิงจางสักหน ซ้ำยังต้องให้มารดาคะยั้นคะยอถึงจะยอมมาด้วย ยามนี้กลับเป็นฝ่ายมาคารวะเองแต่เช้า เสิ่นเฉิงจางเห็นแล้วก็ให้รู้สึกปลาบปลื้มใจ เขาจึงถามเสิ่นหยวนว่า “กินอาหารเช้ามาหรือยัง”

เสิ่นหยวนยิ้มพลางส่ายหน้า “ลูกทราบว่าอีกประเดี๋ยวท่านพ่อยังต้องไปประชุมราชการเช้า ลูกตื่นแล้วก็รีบมาคารวะเลย จึงยังไม่ทันได้กินเจ้าค่ะ”

“ในเมื่อยังไม่ได้กิน เช่นนั้นก็มานั่งกินด้วยกันกับข้า” เสิ่นเฉิงจางพูดพลางทอดถอนใจอีกว่า “จะว่าไปพวกเราสองพ่อลูกก็ไม่ได้นั่งกินอาหารเช้าด้วยกันนานมากแล้ว”

เสิ่นหยวนยิ้มรับ เดินมานั่งลงบนเก้าอี้ข้างเสิ่นเฉิงจาง

เซวียอี๋เหนียงที่ยืนฟังเสิ่นเฉิงจางกับเสิ่นหยวนคุยกันอยู่ข้างๆ ให้รู้สึกตระหนกตกใจ

เมื่อคืนขณะเสิ่นหยวนกับเสิ่นเฉิงจางคุยกันอยู่ในห้องไม่มีบ่าวไพร่คอยรับใช้อยู่ข้างๆ ดังนั้นเซวียอี๋เหนียงจึงรู้แค่ว่าสองพ่อลูกคืนดีกันแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเสิ่นเฉิงจางถึงกับเมตตาปรานีต่อเสิ่นหยวนปานนี้

ดูแล้วช่างเป็นภาพพ่อลูกผูกพันที่ชวนประทับใจนัก

ในใจเซวียอี๋เหนียงกระวนกระวายขึ้นมาเล็กน้อย ทว่าเบื้องหน้ากลับยังคงพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้ม “คุณหนูใหญ่อยู่ที่ฉางโจวมาหนึ่งปีกว่า แม้นายท่านจะไม่พูด แต่ผู้น้อยก็รู้ว่าในใจนายท่านระลึกถึงคุณหนูใหญ่”

รับชามและตะเกียบจากสาวใช้ด้านข้างมาวางลงตรงหน้าเสิ่นหยวนด้วยตนเอง

เซวียอี๋เหนียงเป็นอนุ เสิ่นหยวนเป็นบุตรสาวสายตรง ฐานะยังคงต่างกัน ฉะนั้นเสิ่นหยวนสามารถนั่งกินข้าวข้างเสิ่นเฉิงจางได้ แต่เซวียอี๋เหนียงกลับทำได้เพียงยืนรับใช้อยู่ข้างๆ

ทว่าเซวียอี๋เหนียงจะอย่างไรก็เป็นคนรักในใจบิดา ยังคงต้องแสร้งทำดีด้วยไว้ก่อน เสิ่นหยวนจึงพยักหน้าน้อยๆ ให้อีกฝ่าย “รบกวนอี๋เหนียงแล้ว”

“คุณหนูใหญ่เกรงใจแล้ว” เซวียอี๋เหนียงยิ้มพลางตอบกลับ แต่ในใจตระหนกยิ่ง

เสิ่นหยวนสุภาพรู้มารยาทเพียงนี้ตั้งแต่เมื่อไร ดูกิริยาวาจาเรียบร้อยเหมาะสมอย่างที่คุณหนูตระกูลใหญ่สมควรเป็น ทั้งๆ ที่ในอดีตนางมีนิสัยเย่อหยิ่งจองหองออกปานนั้น

เสิ่นเฉิงจางเห็นเสิ่นหยวนสุภาพรู้มารยาทเช่นนี้ ในใจเขาก็ยินดี

สองพ่อลูกกินอาหารเช้าด้วยกันเสร็จ เซวียอี๋เหนียงก็รับชุดขุนนางสีแดงเข้มมาจากมือสาวใช้ สวมให้เสิ่นเฉิงจางด้วยตนเอง

เสิ่นเฉิงจางทางหนึ่งกางสองแขนออกให้เซวียอี๋เหนียงสวมชุดขุนนางให้เขา อีกทางก็กล่าวกับเสิ่นหยวน “เจ้าไม่อยู่บ้านมาปีกว่าย่อมห่างเหินกับพี่น้องในบ้านอย่างเลี่ยงไม่ได้ บัดนี้เจ้ากลับมาแล้วก็ควรไปมาหาสู่กับพวกเขาให้มาก”

เสิ่นหยวนยืนอยู่ข้างๆ หลุบตารับคำอย่างเชื่อฟัง

เวลานี้เองเซวียอี๋เหนียงก็พูดยิ้มๆ มาจากด้านข้าง “พอรู้ว่าคุณหนูใหญ่กลับมาเมื่อวาน ข้าก็พาคุณหนูคุณชายทุกคนไปต้อนรับคุณหนูใหญ่ที่ประตูรองแต่เช้า คนอื่นนั้นช่างเถอะ แต่หลันเจี่ยนั้นหนึ่งปีกว่ามานี้พูดถึงคุณหนูใหญ่ทีไรเป็นต้องร้องไห้ทุกที บอกว่าคิดถึงพี่หญิงใหญ่ที่สุด มีหลายครั้งที่บอกจะมาขอให้ท่านรับคุณหนูใหญ่กลับมา เห็นหรือไม่ เมื่อวานพอหลันเจี่ยเห็นคุณหนูใหญ่ก็ตื่นเต้นจนร้องไห้ออกมาทันที จับมือคุณหนูใหญ่พลางเรียกพี่หญิงใหญ่ไม่ขาดปาก”

เสิ่นเฉิงจางฟังแล้วก็พยักหน้า ใบหน้าก็มีรอยยิ้มเช่นกัน “พวกนางพี่น้องรักใคร่ผูกพันกัน ข้าที่เป็นบิดาดูอยู่ข้างๆ ก็ยินดีไปด้วย”

เสิ่นหยวนใบหน้ามีรอยยิ้มโดยตลอด ทว่าในใจกลับกำลังหัวเราะเสียงเย็น

ฝีมือโกหกตาใสของเซวียอี๋เหนียงนี้ วันนี้นับว่าข้าได้รับการสั่งสอนแล้ว

เสิ่นหยวนเอ่ยปากพูดเสียงนุ่ม “แม้หนึ่งปีกว่ามานี้ข้าจะอยู่ที่บ้านท่านตา แต่ในใจก็คิดถึงท่านพ่อ อี๋เหนียง และพี่น้องทุกคนเป็นที่สุด” ยิ้มพลางกล่าวอีกว่า “ข้ากลับมาคราวนี้ยังนำของฝากจากฉางโจวกลับมาด้วย แม้จะไม่มีค่ามากมายอะไร แต่ก็เป็นน้ำใจของข้า ประเดี๋ยวจะส่งไปให้อี๋เหนียงกับเหล่าพี่น้อง ขออี๋เหนียงอย่ารังเกียจเลย”

เซวียอี๋เหนียงรีบยิ้มเอ่ยว่า “คุณหนูใหญ่กล่าวอะไรเช่นนี้ ข้าขอขอบคุณไว้ตรงนี้แล้ว”

เสิ่นเฉิงจางเห็นพวกนางปรองดองกันเช่นนี้ ในใจย่อมจะยินดี

เวลานี้เองเซวียอี๋เหนียงก็หยิบเสื้อคลุมสีฟ้าอ่อนที่เสิ่นเฉิงจางสวมประจำมา ทำท่าจะคลุมให้เขา แต่กลับถูกเสิ่นเฉิงจางยกมือห้าม “วันนี้ข้าไม่สวมเสื้อคลุมตัวนี้” ก่อนจะสั่งสาวใช้ที่ยืนอยู่ข้างๆ “ไปเอาเสื้อคลุมสีครามเข้มที่คุณหนูใหญ่ให้ข้าเมื่อคืนมา”

เซวียอี๋เหนียงมีสีหน้าอึ้งงันไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com