รถยนต์ส่วนตัวของหมอบุษบงกชมาจอดใต้ถุนคอนโดมีเนียมหรูกลางกรุง เธอเดินออกจากรถในสภาพเหมือนกับถูกฝูงหมาป่าสักฝูงรุมขย้ำ เครื่องสำอางที่ถูกฉาบไว้ตั้งแต่เช้าซีดเลือนไปมากแล้ว แต่ด้วยความที่เป็นคนผิวพรรณดีตั้งแต่เกิด แม้มันจะไม่ถูกแต่งแต้มแต่เธอก็ยังน่ามองอยู่ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยืนขึ้นทำความเคารพตรงหน้าประตูทางเชื่อมระหว่างลานจอดรถกับห้องโถงของอาคาร ใบหน้าซื่อและจริงใจ กับผมทรงสกินเฮดนั้นทำให้บุษบงกชยิ้มตอบจนได้
“เหนื่อยไหมครับคุณหมอ”
“มาก แล้ววันนี้เป็นยังไงบ้าง”
“วันนี้ไม่มีอุบัติเหตุหน้าคอนโดฯ ของเราครับ ทุกอย่างก็เรียบร้อยดี รถขยะมาผิดเวลานิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้ทำให้การจราจรภายในคอนโดฯ ของเราติดขัดแต่ประการใด ส่วนเรื่อง…”
“หยู้ด” เธอตกมือขึ้นห้าม “ฉันหมายถึงเต่าน่ะ วันนี้เป็นยังไงบ้าง”
“อ้อ คุณหมอถามถึงผมเหรอครับ” เขาหัวเราะแหะๆ “สบายดีครับ ขอให้คุณหมอสุขภาพดี กินอิ่ม นอนหลับเช่นกันนะครับ”
“จ้า ราตรีสวัสดิ์นะ”
“ครับผม ราตรีสวัสดิ์ครับ มีปัญหาอะไรโทรมาที่โต๊ะทำงานของผมได้เลยนะครับ”
“ขอบใจจ้ะ”
บุษบงกชพยายามยิ้มหวานตอบแม้จะเหนื่อยเต็มที พนักงานรักษาความปลอดภัยกลายเป็นคนรู้จักนอกสถานที่ทำงานคนเดียวที่เธอได้คุยด้วยในวันนี้ และส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นอย่างนั้น
บุษบงกชขึ้นลิฟต์มาที่ชั้นสิบเจ็ด ห้องของเธอเป็นห้องสูทซึ่งอยู่ปลายทางเดินของตึก มุมนั้นมีวิวที่สวยมาก มันสามารถมองเห็นสีของท้องฟ้าในยามพระอาทิตย์ตกได้ ถ้าเธอสามารถกลับถึงบ้านได้ก่อนค่ำน่ะนะ หญิงสาวใช้คีย์การ์ดอันเดียวกับที่ใช้ขึ้นลิฟต์มาเปิดประตูห้อง เมื่อประตูถูกเปิดและคีย์การ์ดถูกเสียบไว้ในช่องของมันระบบไฟฟ้าก็ทำงานอัตโนมัติ ทั้งโคมไฟ ไฟเพดาน รวมถึงเครื่องปรับอากาศ
“หวัดดีอีวี่ เธออยู่ไหนเนี่ย”
เธอร้องหาใครบางคนในขณะที่โยนกระเป๋าไว้บนโซฟารับแขกกลางห้องโถง จากนั้นจึงเดินเข้าไปในส่วนของครัวเพื่อดื่มน้ำเย็นจากตู้ เสียงหึ่งๆ ดังอยู่ไม่ไกล บุษบงกชจึงยิ้มเจ้าเล่ห์
“ฉันรู้แล้วว่าเธออยู่ที่ไหน”
คุณหมอวางแก้วน้ำไว้บนเคาน์เตอร์แล้วทรุดตัวลงนั่งที่พื้นทันที เธอก้มหน้าจนศีรษะแทบจะติดพื้นห้อง ตั้งใจว่าสิ่งที่กำลังหาอยู่นั้นต้องหลบซ่อนเธออยู่ใต้โต๊ะรับประทานอาหารแน่ๆ
“นั่นแน่ อยู่ตรงนี้จริงๆ ด้วย ออกมาได้แล้ว ฉันว่าตรงนั้นมันสะอาดดีแล้วนะ”
เธอส่ายหน้ากับความไม่รู้ของมันแล้วลุกขึ้นยืน บุษบงกชยังคงพูดต่อ
“วันนี้ชีวิตของฉันห่วยมาก เริ่มจากการได้พบคนที่ฉันไม่ชอบหน้าตั้งแต่เช้า แล้วยังต้องทำงานที่เขาเร่งเอายิกๆ อีก” เธอเปิดชั้นแช่แข็งของตู้เย็นแล้วหยิบอาหารกล่องขึ้นมากล่องหนึ่ง “คนที่ตายก็อายุยังน้อยเกินไป”
เธอตัดถุงพลาสติกออกแล้วใช้ส้อมจิ้มลงไปบนถาดอาหารสองสามครั้งก่อนที่จะโยนมันเข้าไมโครเวฟ
“ถ้าตำรวจใจเย็นลงกว่านี้อีกนิด เด็กที่กำลังจะเกิดมาคงไม่ขาดพ่อ ฉันยอมรับนะว่าการเป็นผู้ร้ายมันไม่ดี ฉันเข้าใจ แต่ถ้าเขาติดคุกก็ยังมีโอกาสเห็นหน้าลูกหลังออกจากคุกแล้ว แต่นี่…ตายก่อนที่จะได้เห็นหน้ากันด้วยซ้ำไป”
ไม่มีเสียงตอบรับจากอีวี่ นอกจากเสียงหึ่งๆ อันเป็นปกติของมัน บุษบงกชล้วงมือเข้าไปใต้กระโปรงแล้วถอดถุงน่องออกทั้งสองข้าง เธอโยนมันเข้าถังขยะอย่างไม่ไยดี เพราะถุงน่องมันรันมาตั้งแต่ตอนบ่ายแล้ว เสียงติ๊งของไมโครเวฟและกลิ่นหอมของอาหารเรียกความสดชื่นกลับมาได้ เธอหยิบกล่องออกมาแล้วเปิดลิ้นชักหาภาชนะมาใส่ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยก็หันกลับไปที่โต๊ะรับประทานอาหาร จังหวะนั้นอีวี่กำลังลอดขาเก้าอี้ออกมาจากใต้โต๊ะพอดี หญิงสาวจึงใช้เท้าปิดปุ่มตรงกึ่งกลางของเครื่องดูดฝุ่นทรงกลมสีดำ
“ฉันรู้ว่าเธอเหนื่อย”
มันสงบนิ่งเพื่อรอการชาร์จแบตเตอรี่ และพร้อมลุกขึ้นมาทำงานในเช้าวันถัดไป อีวี่ถือเป็นสัตว์เลี้ยง เพื่อนสนิท หรือญาติของบุษบงกชในห้องพักหรูหราโอ่อ่าแห่งนี้…บุษบงกช คุณหมอคนเก่ง หญิงสาวผู้ซึ่งสามารถคุยกับหุ่นยนต์ทำความสะอาดได้อย่างเข้าใจ
เช้าวันรุ่งขึ้นหัสยุทธมาถึงห้องทำงานเป็นคนที่สองรองจากปารุสก์ ส่วนวุฒิภาศกับอาสดานั้นยังวุ่นกับการหาข้อมูลเพิ่มเติมอยู่ นายตำรวจยื่นซองเอกสารในมือให้ลูกน้องของเขา
“ในนี้มีข้อมูลจากโรงพยาบาลกับของนิติเวช”
“หา…ทำไมหมอบุษกับน้องพจทำงานเร็วจัง ผมคิดว่าเราน่าจะได้ข้อมูลไม่วันนี้เย็นก็พรุ่งนี้เช้านะครับ”
หัสยุทธไม่พูดอะไร แต่เดินไปชงกาแฟที่หลังห้องทำงาน ปารุสก์นำข้อมูลที่ได้มาใส่ในคอมพิวเตอร์ ทั้งผลการตรวจสุขภาพของอิ๋วและผลการชันสูตรศพของคนร้ายทั้งสอง
“สแกนลายนิ้วมือก่อนรุสก์” หัสยุทธสั่งมาจากหลังห้อง
“ครับ”
ปารุสก์ใส่กระดาษที่พิมพ์ลายนิ้วมือของโอ่งกับตุ่นเข้าไปในเครื่องสแกนทีละคน จากนั้นลายนิ้วมือก็ถูกโหลดเข้าในคอมพิวเตอร์ ชายหนุ่มร่างท้วมเปิดโปรแกรมลายนิ้วมือของประชาชนซึ่งเชื่อมต่อกับงานทะเบียนราษฎร์ กระทรวงมหาดไทยขึ้นมา จากนั้นก็ให้มันค้นหาลายนิ้วมือที่สามารถวางซ้อนทับกันได้พอดี