LOVE
ทดลองอ่าน เจรจาต่อ-ตาย ตอน ราคะ บทที่ 7-บทที่ 9
บทที่ 8
บ่ายแล้วบุษบงกชสรุปสาเหตุที่ทำให้คนร้ายเสียชีวิตได้ไม่ยากเลย นั่นเป็นเพราะกระสุนปืนถูกยิงเข้าจุดสำคัญ มันเด็ดชีพเขาแทบจะทันที คุณหมอนิติเวชค่อนข้างสลดใจเมื่อคาดการณ์อายุของชายคนนี้ว่าไม่เกินยี่สิบปี ชีวิตที่ผ่านมาไม่กี่ปีของเขาคงเป็นช่วงเวลาที่ไม่สุขสบายนัก แล้วยังต้องมาจบชีวิตเร็วเกินไปด้วย
“เพศชาย ไม่ทราบชื่อ อายุประมาณสิบแปดถึงยี่สิบปี มีรอยสักที่ต้นแขนข้างขวาเป็นรูปงู” เธอพูดเบาๆ เพื่อให้ผู้ช่วยลงบันทึกในขณะที่เธอยังยืนเกาะเตียงชันสูตรอยู่ “ที่ข้อมือข้างซ้ายเป็นรอยแผลคล้ายอักษรตัวที (T) นี่น่าจะเกิดจากการใช้ของมีคมกรีดลงบนเนื้อจนทำให้เกิดแผลเป็นรอยนูนขึ้นมา สุขภาพฟันเข้าขั้นแย่ สูบบุหรี่ เลือดกรุ๊ปโอ พบแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดแต่ไม่ได้อยู่ในปริมาณที่สูงเกินไป ไม่พบสารเสพติดชนิดอื่น”
พจนีย์จดตามที่แพทย์หญิงบุษบงกชพูดอย่างรวดเร็ว
“มีรอยกระสุนปืนบนร่างกายผู้ต้องหาสามจุด คือ ศีรษะ หัวใจ และหน้าอกข้างขวา ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ รอยกระสุนที่ศีรษะถูกยิงจากทางด้านหน้ามุมตรง ส่วนหัวใจกับหน้าอกถูกยิงมาจากทางด้านหลังของผู้ต้องหาซึ่งเป็นมุมสูง”
…กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง…
เสียงโทรศัพท์ในห้องชันสูตรดังขึ้น บุษบงกชพยักหน้าให้พจนีย์ละงานตรงหน้าเพื่อไปรับสายก่อน ผู้ช่วยร่างเล็กตรงไปยังโทรศัพท์ซึ่งถูกติดตั้งไว้บนผนังแล้วรับสาย
“ห้องชันสูตรของหมอบุษค่า”
พจนีย์ฟังเสียงปลายสายบอกความต้องการอยู่พักหนึ่ง ซึ่งในความคิดของบุษบงกชนั้นมันนานเกินไป เธอไม่ได้ยินเสียงผู้ช่วยโต้ตอบใดๆ เลย เอาแต่พยักหน้าแล้วจบบทสนทนาด้วยคำว่า ‘ค่ะ’ แค่คำเดียว
“มีอะไรพจ”
“อีกศพค่ะ คืนนี้ไม่ต้องกลับบ้านกันพอดี”
“เฮ้อ…พรุ่งนี้ไม่ได้เหรอ”
“อือฮึ” เธอส่ายหน้า “คดีเดียวกับคนที่นอนอยู่บนเตียงค่ะ ทางตำรวจบอกว่าต้องการให้ชันสูตรไปพร้อมกันเพื่อประโยชน์ในการสรุปสำนวน บลาๆๆ”
บุษบงกชท้าวสะเอวทันที “สารวัตรหัสยุทธใช่ไหม”
“ฟังจากน้ำเสียงแล้วไม่น่าใช่นะคะ เพราะพจจำเสียงสารวัตรได้ เสียงของสารวัตรเซ็กซี่กว่านี้เยอะเลย”
คนฟังเบะปากพร้อมสะบัดหน้าพรืด “พี่บอกไปรึยังว่าพี่เบื่อตำรวจ”
พจนีย์หัวเราะคิก “ถ้านับรวมครั้งนี้ก็สี่ล้านครั้งพอดี ครั้งสุดท้ายที่แสดงออกอย่างชัดเจนก็คือช่วงเช้าที่ผ่านมาค่ะ”
บุษบงกชยิ้มออกมาได้แล้วเริ่มทำงานต่อ อีกไม่กี่ชั่วโมงศพของคนร้ายอีกคนจะถูกส่งมาให้เธอพิสูจน์อัตลักษณ์ ภาวนาขอให้อีกคนไม่อายุน้อยไปกว่าคนนี้ และเสียชีวิตด้วยความไม่ทรมานมากนัก เธอทำงานกับศพมามากมายก็จริง แต่ทุกครั้งเธออดสะท้อนใจกับผู้เสียชีวิตที่อายุน้อยๆ ไม่ได้ ยังไงหมอก็ยังเป็นคน และเธอก็มีหัวใจที่สงสารและเห็นใจเพื่อนมนุษย์ทุกคน แม้ว่าคนคนนั้นอาจจะไม่ใช่คนดีก็ตาม
หญิงสาวที่กำลังท้องอ่อนๆ ตัดสินใจเรียกแท็กซี่จากหน้าโรงพยาบาลเพื่อไปยังห้างสรรพสินค้า ชุดแซกที่ดูเป็นหญิงเรียบร้อย มีการศึกษาและฐานะดีนั้นไม่เหมาะกับเธออีกแล้ว เธอเลือกซื้อเสื้อผ้าใส่สบายมาหลายชุดกับอาหารที่รับประทานง่ายแล้วไปจ่ายเงินที่แคชเชียร์ พยายามไม่สบตากับใครเพราะไม่อยากให้จำเธอได้ จากนั้นจึงไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำของห้าง สามีของเธอบอกว่าให้ไปทิ้งข่าวไว้ที่ ‘บ้าน’ เพราะฉะนั้นเธอจะไปหาโรงแรมเล็กๆ พักก่อนแล้วค่อยไปทิ้งจดหมายไว้ที่นั่น หากโอ่งกลับมาเมื่อไรพวกเขาก็จะได้เจอกันอีกครั้ง
อิ๋วเคยชินแล้วกับการเปลี่ยนที่อยู่ที่นอนบ่อยๆ พูดไปเธอก็แทบจะไม่มีบ้านเป็นหลักแหล่งมาร่วมสามปีแล้วหลังออกมาจากบ้านหลังแรกของเธอ หากไม่ได้พบสามีชีวิตเธอก็คงต้องเป็นผู้หญิงเร่ร่อนที่เปลี่ยนคู่นอนไปเรื่อยๆ เพื่อแลกกับการมีข้าวกินและมีที่ซุกหัวนอนไปวันๆ การพบโอ่งเป็นเรื่องที่ดีที่สุดในชีวิต และเธอจะไม่ปล่อยให้อะไรมาเป็นอุปสรรคความรักครั้งนี้เด็ดขาด
ร่างกายของหญิงสาวกำลังเรียกร้องพลังงานเพิ่มเติม ตอนนี้เธอรู้สึกหิวและมีอาการคลื่นไส้รวมอยู่ด้วย อิ๋วพยายามยัดขนมปังที่ซื้อมาเข้าไปเร็วๆ จนเกือบสำลักในระหว่างรอเรียกรถแท็กซี่ตรงป้ายรถเมล์ แต่เมื่อกินไปได้สามสี่คำเธอก็อยากจะขย้อนมันออกมาแทน การตั้งครรภ์ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับเธอ ก่อนหน้าที่จะเจอโอ่งเธอเคยทำแท้งมาแล้วสองครั้ง เกือบเอาชีวิตไม่รอดแต่ก็ยังอุตส่าห์รอดมาได้ทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ทุกอย่างไม่เหมือนเดิม เธอจะอดทนเพื่อให้ทุกอย่างมันดีขึ้น เธอกับลูกต้องรอดไปพบสามีอีกครั้งให้ได้
อิ๋วเก็บขนมปังที่เหลือใส่ถุงแล้วหยิบขวดน้ำขึ้นมาจิบ พยายามไล่ก้อนพะอืดพะอมนั้นกลับลงไป โคนผมตรงหน้าผากเปียกเพราะชื้นเหงื่อ หญิงสาวพยายามหายใจเข้าลึกๆ เธอต้องเดินทางต่อและเธอต้องแข็งแกร่งมากกว่านี้
“แท็กซี่”
เธอตัดสินใจโบกแท็กซี่เมื่อรู้สึกว่าอาการของตัวเองดีขึ้นมานิดแล้ว คนขับรถแท็กซี่คันสีชมพูจอดเทียบริมฟุตบาธ หญิงสาวเปิดประตูหลังแล้วชะโงกหน้าเข้าไปถาม
“พาไปหาโรงแรมเล็กๆ ใกล้สถานสงเคราะห์เด็กรังสิตให้หน่อยได้ไหม แล้วฉันจะให้ทิปพิเศษร้อยนึง”
คนขับเป็นชายศีรษะล้านวัยห้าสิบเศษ แกขมวดคิ้วแล้วถามเพิ่มเติม “เอาไงแน่นังหนู จะไปสถานสงเคราะห์หรือจะไปโรงแรมกันแน่”
“ฉันจะหาโรงแรมพัก แต่โรงแรมนั้นต้องอยู่ใกล้สถานสงเคราะห์ด้วย…เข้าใจรึยัง”
“อ้อ เข้าใจแล้ว งั้นขึ้นมาเลย อย่าลืมทิปร้อยนึงที่บอกว่าจะให้นะ”
“ไม่ลืมหรอกน่า”