ไวเท่าใจคิด เมื่อปฐวีเปิดประตูเยี่ยมหน้าออกไปก็ได้พบกับหญิงสาวที่เขาไม่ได้เจอหน้ามาร่วมสองปียืนอยู่อีกฟากของประตู กำลังห่อไหล่เพราะสายลมหนาวนอกบ้าน
ปฐวีถึงกับนิ่งอึ้งไปชั่วอึดใจ ก่อนจะขยี้ตาไล่ความง่วงเพื่อมองให้แน่ใจอีกครั้งว่าใช่น้ำหนึ่งจริงๆ
‘คุณหนึ่ง…’
‘ก็ใช่น่ะสิ จะยืนมองอีกนานไหน หนึ่งหนาวจะแย่แล้ว’
พอได้ยินเสียงประกอบภาพดังตามมา ปฐวีก็รู้ทันทีว่านี่แหละน้ำหนึ่งตัวจริงเสียงจริง เขาจึงรีบเปิดประตูบ้านออกให้กว้างขึ้นพร้อมกับรัวถามเป็นชุด
‘หาบ้านผมเจอได้ยังไง แล้วมายังไงคนเดียวดึกๆ ดื่นๆ’
ปฐวีไม่วายสอดส่ายสายตามองหารถที่น้ำหนึ่งน่าจะขับมา แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะเห็นอยู่ตรงส่วนไหนของหน้าบ้าน
หญิงสาวไม่ตอบ นอกจากรีบลากกระเป๋าใบเขื่องเข้าประตูบ้าน แต่ลูกล้อกลับไปติดตรงพื้นต่างระดับระหว่างในบ้านกับนอกบ้านซึ่งสูงเหลื่อมกันประมาณสองนิ้ว ปฐวีจึงต้องช่วยยกตามเข้าไปให้แทน
‘โอ้โห หนักนะนี่ ขนอะไรมาเยอะแยะครับ’
‘ก็ของจำเป็นทั้งนั้นแหละ’ น้ำหนึ่งตอบอย่างรำคาญนิดๆ ‘ขอผ้าห่มหน่อย ตอนนี้หนึ่งหนาวจะแย่แล้ว’
ปฐวียืนมองซ้ายมองขวาอยู่ครู่หนึ่งก็เดินไปเปิดไฟ แล้วหยิบเอาผ้าห่มบางๆ พอใช้คลุมได้มาส่งให้ น้ำหนึ่งยื่นมือมารับพลางทำจมูกฟุดฟิดเหมือนไม่ชอบใจกลิ่นของมัน
‘ไม่ได้ซักนานแล้ว แต่ยังพอใช้ได้อยู่’
‘นาน…นานแค่ไหนกัน ขอผืนอื่นดีกว่า หนึ่งห่มไม่ได้หรอกแบบนี้’
ปฐวีเดินไปทิ้งตัวลงบนโซฟาแบบเบาะเดี่ยว บอกว่า ‘ที่นี่ไม่ใช่โรงแรมนะครับ แล้วผมก็มีอยู่ผืนเดียวนี่แหละ’
น้ำหนึ่งเบ้ปากอย่างไม่พอใจ เพราะเธอเองก็ไม่ได้เตรียมเสื้อหนาๆ หรือเสื้อแขนยาวมาไว้เผื่ออากาศหนาวเสียด้วย จึงจำใจต้องคลี่ผ้าห่มเนื้อบางราคาถูกคลุมร่างกายท่อนบนเอาไว้อย่างเสียไม่ได้
‘ทีนี้คุณหนึ่งจะบอกได้หรือยังว่ามาหาผมทำไม แล้วรู้ได้ยังไงว่าผมย้ายมาอยู่ที่นี่’
น้ำหนึ่งทำหน้าเครียด ซึ่งแทบจะนับครั้งได้ที่อีกฝ่ายจะทำหน้าแบบนี้ให้เห็น เพราะชีวิตของหญิงสาวไม่เคยต้องเอาตัวเองไปเฉียดกรายกับคำว่า ‘เครียด’ อย่างคนอื่นเขา
‘หนึ่งอยู่กรุงเทพฯ ไม่ปลอดภัยน่ะสิ’
‘ไม่ปลอดภัย?’ ปฐวีขมวดคิ้ว
‘ใช่ หนึ่งโดนพวกสตอล์กเกอร์คอยตาม’
‘หมายถึงพวกโรคจิตน่ะเหรอ’
ปฐวีพึมพำพลางพยายามนึกไปด้วยว่าช่วงนี้น้ำหนึ่งได้ถ่ายรูปชุดว่ายน้ำวาบหวิวลงไอจีหรือถ่ายแบบเซ็กซี่ล่อเสือล่อตะเข้ให้น้ำลายสอหรือเปล่า ก่อนจะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเขาไม่ได้ติดตามไอจีของเธอและไม่เคยเห็นข่าวลงรูปสลัดผ้าถ่ายรับซัมเมอร์อะไรทำนองนั้นด้วย
‘อือ หนึ่งคงต้องแอบอยู่ที่นี่ไปก่อน ให้พี่พีทแจ้งตำรวจจับพวกนั้นให้หมดแล้วค่อยกลับ’
‘อะไรนะ…’
ถ้าน้ำหนึ่งจะมุ่งหน้ามาซ่อนตัวที่นี่สักพักก็ไม่แปลก เพราะนับตั้งแต่เรียนจบมหาวิทยาลัย เธอก็ไม่ได้แสดงตัวให้ใครรู้ว่าเคยรู้จักหรือมีความสนิทชิดเชื้ออย่างใดกับผู้ชายธรรมดาอย่างเขา นอกจากนั้นบรรดาเพื่อนฝูงสมัยเรียนก็แทบไม่รู้ว่าปฐวีย้ายมาอยู่เชียงรายแล้ว
แต่ปัญหาก็คือปฐวีคงไม่แฮปปี้แน่ถ้าน้ำหนึ่งจะมาอยู่นานเกินวันสองวัน…ก็ใครมันจะอยากเป็นคนใช้น้ำหนึ่งในบ้านของตัวเองกันเล่า
‘หนึ่งบอกว่าจะมาซ่อนตัวที่นี่ไง อ้อ…แล้วพี่ก็ไม่ต้องห่วง หนึ่งจะจ่ายค่าที่พักรายวันให้ ค่าอาหาร แล้วก็ค่าน้ำค่าไฟให้พร้อม’
‘ถ้าจะเอาอย่างนั้น ผมว่าผมหาโรงแรมดีๆ ให้คุณหนึ่งดีกว่านะ เอาแบบที่ปลอดภัยไม่มีพวกชอบจุ้นเรื่องของชาวบ้าน’
‘ไม่ได้!’
น้ำหนึ่งโพล่งขึ้นมาทันทีโดยไม่มีการลังเล ทำเอาปฐวีออกจะประหลาดใจขึ้นมาหน่อยๆ เธอจึงต้องรีบให้เหตุผลว่า
‘ขืนไปโรงแรม พวกโรคจิตมันต้องตามมาได้แน่ หนึ่งดังจะตายไป ใครบ้างจะไม่รู้จัก…ต่อให้เป็นโรงแรมเล็กสุดขอบประเทศไทยก็เถอะ’
‘ครับๆ ไม่ไปก็ไม่ไป ว่าแต่ดึกดื่นขนาดนี้แล้ว คุณหนึ่งมาที่นี่ยังไง เพราะ…ถ้ามาจากสนามบินก็ไม่ใช่ใกล้ๆเลย’
‘พี่พีทจัดการให้’
‘ก็แสดงว่าคุณพีทรู้ว่าผมอยู่ที่นี่สินะ’
คุณพีทที่ปฐวีเอ่ยถึงคือพีรัช ลูกพี่ลูกน้องเพียงคนเดียวของน้ำหนึ่งนั่นเอง ซึ่งก็ไม่แปลกหรอกที่ฝ่ายนั้นจะหาบ้านของเขาเจอได้อย่างง่ายดาย เพราะพีรัชมีอิทธิพลอย่างกว้างขวางในฐานะทายาทคนสำคัญของบริษัทผลิตสินค้าส่งออกอันดับหนึ่งของประเทศไทย และยังมีบริษัทในเครืออีกมากมาย
แต่…ทำไมพีรัชถึงเลือกให้น้ำหนึ่งมาซ่อนตัวในบ้านของคนที่ตัวเองไม่ชอบหน้ากันนะ