ทดลองอ่าน เจ้าชายฉบับมือสอง บทที่ 4 – หน้า 4 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

LOVE

ทดลองอ่าน เจ้าชายฉบับมือสอง บทที่ 4

4 of 4หน้าถัดไป

“คุณหนึ่งเชื่ออย่างนั้นจริงเหรอ เอาจริงๆ นะ ผมไม่คิดว่าจะมีใครยอมหลงเชื่อเหตุผลที่โคตรจะงี่เง่าพวกนี้ได้ ไม่รู้สึกบ้างเหรอว่ามันฟังไม่ขึ้น นี่ไม่พอคุณหนึ่งยังยอมเล่นละครลิงตามพวกเขา หลักฐานก็ดูจะเมกเอาได้ง่ายๆ อีกต่างหาก”

“พี่วี!” น้ำหนึ่งแทบจะน้ำตาคลอเบ้ากับคำพูดเจ็บแสบของปฐวี แม้แต่คนพูดเองก็ยังรู้สึกได้ว่าออกจะเกินไปสักหน่อย

“ไม่งี่เง่าก็ได้ ผมแค่จะบอกว่ามันเป็นเหตุผลไม่มีน้ำหนักเท่าไหร่ เหมือน…แถไปเรื่อยเพื่อให้คุณหนึ่งมาสร้างความเดือดร้อนให้ผมมากกว่า”

“นี่ก็ไม่ได้ดีกว่ากันนักหรอก เหมือนพี่ว่าหนึ่งโคตรงี่เง่านั่นแหละ”

เมื่อเป็นอย่างนั้นปฐวีเลยเลิกพูดแล้วขอให้น้ำหนึ่งเปิดหลักฐานที่ทำท่าว่าเชื่อนักเชื่อหนาขึ้นมาใหม่ ผ่านไปครู่ใหญ่เขาก็ย่นหัวคิ้วแล้วพึมพำออกมาว่า “ต่อให้ข้อความในรูปนี้มันจะสมจริงแค่ไหน แต่นี่มันไม่ใช่วิธีการพูดของผมสักนิด อย่างน้อยผมก็ไม่เคยใช้คำว่าหลานสาวย่าบุษ หรือเรียกคุณย่าว่าย่าบุษ”

คำว่า ‘หลานสาวย่าบุษ’ ที่เห็นอยู่ในบทสนทนามีเพียงจุดเดียว ขณะที่จุดอื่นคือคุณย่า ทำให้น้ำหนึ่งนิ่งอึ้งไปทันใด เพราะเธอรู้จักคนที่เรียกคุณย่าอย่างนี้อยู่คนหนึ่ง

“นี่ไง ที่บอกว่าหลานสาวย่าบุษต้องโดนอย่างนี้เสียบ้าง ถึงจะรู้สึก”

เมื่อคดีพลิกผันจากหน้ามือไปเป็นหลังมือในพริบตา คนพูดไม่ออกจึงกลับกลายเป็นน้ำหนึ่งแทน

บ้าจริง! ทำไมเธอไม่ฉุกใจคิดบ้างว่าคำนี้มันเป็นคำที่ใครบางคนใช้อยู่หลายครั้ง แต่เป็นคำที่ปฐวีไม่เคยใช้เลยสักครั้ง

“พี่วีคงเตรียมเอาไว้เผื่อถูกจับได้ล่ะสิ เลยวางแผนเรื่องนี้ไว้ล่วงหน้า”

น้ำหนึ่งยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ

“ถึงยังไงคุณหนึ่งก็คงไม่ยอมเชื่อผมสินะ ทั้งๆ ที่คำพูดพวกนี้มันไม่ใช่คำพูดของผมเลยสักนิด แล้วก็ไม่เป็นธรรมชาติอีกต่างหาก แล้วอีกอย่างนะ ถ้าเกิดว่าคุณหนึ่งมั่นใจนักว่าผมผิด แล้วทำไมต้องวิ่งหนีหน้าตาตื่นออกมาจากบ้านผม ขอให้ผมพาหนีไปหาคุณย่า หรือว่านี่ก็เป็นส่วนหนึ่งในแผนอีกเหมือนกัน”

ไม่ใช่…น้ำหนึ่งตอบตัวเองได้ทันที ยิ่งกว่านั้นที่เธอหนีมาก็เพราะรู้สึกไม่ชอบมาพากลกับชายแปลกหน้าที่โผล่มาถึงบ้านปฐวีด้วย

“แล้วนี่จะเอาไงต่อล่ะ ถึงยังไงเราก็คงต้องไปตั้งหลักบ้านคุณย่ากันก่อนล่ะนะ เพราะผมเองก็ยังไม่รู้ว่าคนพวกนั้นเป็นใคร หรือว่า…เป็นคนของคุณหนึ่ง เป็นส่วนหนึ่งในแผนเอาคืนผมด้วย?”

“ไม่ใช่” น้ำหนึ่งตอบออกไปได้ในที่สุด

“ถ้าอย่างนั้นเป็นพวกไหนกันล่ะ นี่ผมก็พยายามใจเย็นที่สุดแล้วนะ พยายามไม่โกรธเรื่องที่คุณหนึ่งคิดแย่ๆ กับผมสุดๆ แล้วด้วย”

“ก็ได้ๆ หนึ่งล้มเลิกแผนพวกนั้นแล้ว”

พอถึงคราวได้มานั่งถกเถียงกับปฐวี น้ำหนึ่งถึงเพิ่งฉุกใจคิดว่าสิ่งที่เธอทำลงไปมันช่างน่าสมเพชสิ้นดี ถ้าไม่ใช่เพราะถูกพีรัชกับคุณแม่พูดกรอกหูอยู่ทุกวันถึงเรื่องที่ว่าปฐวีกำลังฉวยโอกาสหวังจะฮุบสมบัติจากคุณย่าจึงพยายามหาทางปัดเธอออกไปให้พ้นทาง ถ้าไม่ใช่ไปหลงเชื่อว่าปฐวีร่วมมือกับศัตรูคู่แค้นอย่างโชติรสมากลั่นแกล้งเธอ เธอก็คงไม่หน้ามืดตามัวยอมทำตามง่ายๆ

หรือไม่อย่างนั้นเธอก็อาจจะอยากเอาชนะเขาด้วยวิธีการโง่ๆ อย่างเช่นให้เขาต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เขาทำหรือไม่ได้ทำก็ช่าง ถึงได้กล้าทำลงไป

“แล้วแผนที่ว่าจะมาทำให้ผมเดือดร้อนนั่นมันคืออะไรกันแน่ บอกผมหน่อยได้ไหม”

“จัดฉากว่าพี่วีลักพาตัวหนึ่งมาทำมิดีมิร้ายน่ะสิ”

“อะไรนะ!”

น้ำหนึ่งได้แต่กัดริมฝีปาก ไม่กล้าหันไปสบตากับปฐวีที่กำลังจ้องเธออย่างไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน

“ผมเนี่ยนะ จะทำมิดีมิร้ายคุณหนึ่ง”

“แต่หนึ่งไม่รู้เลยว่าพี่พีทจะเล่นเลยเถิดไปถึงตำรวจ เราแค่ตกลงกันว่าจะพาคุณย่ามาดูให้เห็นกับตาว่าพี่วีกักขังหนึ่งเอาไว้ในบ้าน เพื่อ…เพื่อเรื่องอะไรอย่างนั้น”

น้ำหนึ่งจำได้ว่านอกจากตำรวจแล้วยังมีชายฉกรรจ์หน้าตาน่ากลัวอีกสองคนด้วย ความรู้สึกไม่ไว้วางใจทั้งหลายทำให้หญิงสาวตัดสินใจหนีออกมาจากบ้านโดยไม่มีอะไรติดตัวมาเลย แม้แต่โทรศัพท์มือถือ หรือกระเป๋าสตางค์

“ถ้าอย่างนั้น ไอ้หนุ่มคลั่งรักที่ผมเห็นในข่าวก็…”

หญิงสาวไม่ตอบ นอกจากน้ำตาที่ไหลออกมาด้วยความเจ็บใจ เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นทำให้เธอคิดได้อย่างเดียวว่าอาจจะถูกลูกพี่ลูกน้องอย่างพีรัชหลอกใช้

“ตอนนี้ชื่อเสียงหนึ่งคงป่นปี้ไม่มีเหลืออีกแล้ว”

“แล้วผมล่ะ ป่านนี้คนเขาไม่คิดว่าผมมันเป็นไอ้โรคจิตกันทั่วบ้านทั่วเมืองแล้วเหรอ ถ้าผมโดนคดีนี่เข้าคุกเห็นๆ เลยนะ”

ถึงแม้จะรับปากไปแล้ว แต่ปฐวีก็อดโมโหไม่ได้อยู่ดีที่ถูกน้ำหนึ่งทำให้กลายเป็นไอ้โรคจิตไปโดยไม่รู้ตัว

“หนึ่งไม่รู้! ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดีแล้ว พอใจไหม!”

น้ำหนึ่งยกมือขึ้นปิดหน้าร้องไห้สะอึกสะอื้น ทุกครั้งที่ปฐวีพาตัวเองออกห่างจากชีวิตของเธอไป มันก็มักจะทำให้เธอรู้สึกเหมือนจิ๊กซอว์ส่วนสำคัญของชีวิตหลุดหายไป บ่อยครั้งที่น้ำหนึ่งรู้สึกโดดเดี่ยวเหมือนอยู่คนเดียวในโลก รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง ไม่ว่าจะคิดจะทำอะไรก็ผิดพลาดไปหมด

น้ำหนึ่งเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่าที่ผ่านมาเธอพึ่งพาปฐวีมากแค่ไหน และจนถึงตอนนี้ก็ยังอยากได้เขากลับคืนมาเหมือนอย่างที่เคยเป็น

ภาพนั้นทำให้อารมณ์เดือดดาลของปฐวีจางหายไปในพริบตา พอชักจะทำอะไรไม่ถูกก็เลยเอื้อมมือไปจับบ่าหญิงสาวไว้แล้วบีบเบาๆ

“เอาเถอะ ไว้ค่อยว่ากันทีหลังก็ได้ ตอนนี้เราคงต้องรีบไปหาคุณย่าก่อน คุณหนึ่งอย่าร้องไห้เลยนะ”

ปฐวีตัดสินใจขับรถออกไปบนท้องถนนอีกครั้งท่ามกลางแสงตะวันที่กำลังอ่อนจางลงทุกขณะ ระหว่างทางก็ได้แต่เหลือบมองน้ำหนึ่งนั่งร้องไห้กระซิกอยู่บนเบาะนั่งข้างๆ อย่างไม่รู้จะปลอบอย่างไรดี และบรรยากาศน่าอึดอัดเช่นนั้นก็ดำเนินต่อไปจวบจนฟ้ามืดสนิท…

 

ติดตามตอนต่อไปวันที่ 17 .. 65  เวลา 12.00 .

4 of 4หน้าถัดไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in LOVE

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com