บทนำ
“อีหน้าด้าน!”
เสียงกรีดร้องดังขึ้นก่อนเจ้าของเสียงจะเดินแหวกแขกเหรื่อซึ่งยืนออกันอยู่หน้างานแต่งงานเข้ามาหยุดยืนตรงหน้าบ่าวสาวซึ่งกำลังรับแขกอยู่หน้าห้องจัดเลี้ยง
“ปิ๋ม!”
เจ้าบ่าวหน้าถอดสี หันขวับไปทางเจ้าสาวอย่างลนลาน ก่อนคว้าแขนแขกไม่ได้รับเชิญแน่น
“มาทำไมปิ๋ม! กลับไปก่อน”
“ทำไมปิ๋มต้องกลับ พี่อั๋นแต่งงานทั้งทีจะไม่ให้ปิ๋มมาร่วมยินดีได้ยังไงล่ะคะ”
“เราตกลงกันแล้วนะปิ๋ม กลับบ้านไปซะ!”
“ปิ๋มไม่กลับ! ถ้าจะให้ปิ๋มกลับ พี่อั๋นต้องกลับไปกับปิ๋มด้วย”
“มันใช่เวลามาหาเรื่องไหมปิ๋ม”
ทว่าหญิงสาวซึ่งมีหน้าท้องนูนออกมาราวตั้งครรภ์ได้สี่ห้าเดือนกลับแค่นหัวเราะหยัน
“ปิ๋มหาเรื่องงั้นเหรอ! ปิ๋มเสกเด็กได้เองรึไง พี่อั๋นทำปิ๋มท้องแต่กลับดึงดันจะแต่งกับพี่กั้ง พี่อั๋นทำแบบนี้กับปิ๋มกับลูกได้ยังไง”
เสียงฮือฮาของแขกเหรื่อในงานดังขึ้นเมื่อได้ยินว่าแขกไม่ได้รับเชิญน่าจะเป็นเมียอีกคนที่เจ้าบ่าวซ่อนไว้
เรียวมือบางของเจ้าสาวซึ่งสวมแหวนเพชรเม็ดงามอยู่ที่นิ้วนางข้างซ้ายกำเข้าหากันแน่น เลือดในกายเดือดพล่าน นัยน์ตาสุกใสซ่อนรอยขุ่นเคืองไว้อย่างสุดความสามารถ
“เรื่องทั้งหมดเป็นความผิดพลาด พี่จะแก้ไขทุกอย่างเอง กั้งไม่ต้องห่วงนะ”
“ค่ะ!”
รอยยิ้มอ่อนโยนค้างอยู่บนดวงหน้ารูปไข่ราวกับเครื่องแบบประจำกายที่หญิงสาวหยิบใช้เป็นประจำราวกับสั่งได้
“อีหน้าด้าน! มึงไม่เห็นรึไงว่ากูท้องลูกพี่อั๋น ยังหน้าด้านแย่งผัวกูอีก”
“หยุดบ้าได้แล้วนะปิ๋ม”
อัสนีคว้าต้นแขนผกากรองพลางมองหาคนที่จะมาลากเมียเก็บของตนออกไปจากงาน
“ปล่อยปิ๋มนะพี่อั๋น! ปิ๋มเป็นเมียพี่นะ แล้วในท้องนี่ก็ลูกพี่” หญิงสาวกรีดเสียงร้องลั่นพลางชี้มือไปทางเจ้าสาว “เจ้าข้าเอ๊ย! เร่เข้ามาดูอีคนหน้าด้านชอบแย่งผัวชาวบ้านเร็ว ไม่มีปัญญาหาผัวถึงต้องลักกินขโมยกินแบบนี้ เร่เข้ามาดูเร็ว!”
ความขมขื่นรุกล้ำลามเข้ามาในหัวใจ หกปีที่คบกันมาเขากลับตอบแทนเธอด้วยการทรยศ เธอเจ็บแต่ไม่เท่าเห็นแววตาผิดหวังระคนสมเพชของป๊าเลยสักนิด
“อีกั้ง! อีหน้าด้าน! มึงแย่งผัวกู มึงทำให้ลูกกูกำพร้าพ่อ”
แน่นอนว่าแขกเหรื่อในงานบางคนไม่ใช่ญาติสนิทของเจ้าสาวจึงปรายตามองเธอราวกับนักโทษประหาร ทั้งที่เธอคือเหยื่อความมักมากไม่รู้จักพอของเจ้าบ่าว
แล้วอัศวินขี่ม้าขาวก็มาในรูปของพนักงานรักษาความปลอดภัยซึ่งเข้ามาคุมตัวหญิงตั้งครรภ์ไว้
“พาปิ๋มไปสงบสติอารมณ์นอกงานก่อนนะครับ”
“ปล่อยกูนะ กูจะตบมันให้หน้าแหก ดูซิว่าพี่อั๋นยังจะหลงมันอยู่อีกไหม”
เสียงร้องโหยหวนระคนสะอื้นไห้ผลักกังสดาลไปจนสุดทางตัน ไม่เหลือทางเลือกให้เธอถอยได้อีก ทางออกเดียวที่เธอนึกได้ในช่วงเวลาคับขันนี้มีเพียง…
พรึบ!
“เจ้าสาวเป็นลม!”
ความโกลาหลอลหม่านลุกลามมากขึ้นเมื่อเจ้าสาวล้มพับลงไปกองที่พื้น แต่ก่อนที่เจ้าบ่าวจะเข้าถึงตัวเจ้าสาว บรรดาญาติพี่น้องของเจ้าสาวก็เข้ามาล้อมเธอราวกับเป็นโล่กันภัย
“มึงถอยไปให้ไกลๆ เลยไอ้อั๋น!” กิตติคุณ พี่ชายคนโตของเจ้าสาวชี้หน้าอย่างเดือดดาล
“ผมอธิบายได้นะครับพี่ก้อง”
“จนป่านนี้มึงยังจะแถอะไรอีก ไม่ต้องต่งไม่ต้องแต่งมันแล้ว มึงไปอธิบายกับเมียท้องโย้ของมึงเถอะ อย่ามายุ่งกับน้องกู”
หญิงวัยกลางคนยอบตัวลงคุกเข่าพลางโอบประคองลูกสาวซึ่งนอนหลับตาพริ้มไม่รู้เรื่องรู้ราวไว้ในอ้อมแขน ก่อนกระซิบเสียงแผ่วที่ข้างหู
“อย่าเพิ่งรีบฟื้นนะกั้ง ทางนี้ม้าเคลียร์ให้เอง”