ฉายพยายามเป็นกาวใจเชื่อมพ่อกับแม่มาตลอด ทว่าสิบกว่าปีมันนานจนเขาชักท้อใจขึ้นมาแล้วเหมือนกัน
“เอายังไงดีครับท่านรอง จะรอไหมครับ”
“กลับ!”
ปกติเจ้านายผู้บ้าความสมบูรณ์แบบมักนั่งแต่ชั้นเฟิร์สต์คลาส ทว่าเพราะตารางเวลาที่แน่นเอี้ยดและการจองเที่ยวบินอย่างกระชั้นชิดทำให้วิทยาหาที่นั่งได้แค่ชั้นธุรกิจ แต่เจ้านายของเขาก็ยอมเพื่อมาพบแม่ให้ทันวันเกิด หากฉายจะโกรธก็ไม่แปลก
อารมณ์ขุ่นมัวยังเคลือบอยู่บนดวงหน้าหล่อหวาน หลังก้าวออกจากลิฟต์ฉายจึงเปรยเสียงเข้ม
“แกเอากระเป๋าฉันไปเช็กอินที่โรงแรมเลย เดี๋ยวฉันขึ้นแท็กซี่ข้างหน้าเอง”
“ท่านรองจะไปไหนครับ”
“นัมซานทาวเวอร์”
“แล้วจะให้ผมไปรับท่านรองกี่โมงดีครับ”
“ไว้ฉันโทรหาแล้วกัน แกเอากระเป๋าไปเก็บแล้วจะหาซื้อของฝากเมียก็ตามใจ ฉันคงอยู่ข้างบนสักพัก”
วิทยาลอบมองเจ้านายอย่างเห็นใจ ทุกครั้งที่มีปัญหาหนักอกคิดไม่ตกเจ้านายจะขึ้นไปบนนัมซานทาวเวอร์เพื่อครุ่นคิดตามลำพัง ก่อนจะกลับมาพร้อมหนทางแก้ปัญหาเสมอ คราวนี้ก็คงไม่ต่างกัน
โรงแรมที่กังสดาลพักตั้งอยู่ริมถนนใหญ่ย่านมยองดง หน้าโรงแรมเป็นจุดจอดรถแอร์พอร์ตบัส ฝั่งตรงข้ามเป็นห้างสรรพสินค้าล็อตเต้ และเดินถัดไปเพียงไม่กี่ก้าวจะพบกับถนนช็อปปิ้งมยองดงอันคึกคักทั้งกลางวันกลางคืน หลังจากช็อปปิ้งของฝากให้ทางบ้านแล้วเธอก็กลับมาเช็กอินเข้าห้องพัก นอนเกลือกกลิ้งบนเตียงคิงไซส์อย่างไร้จุดหมาย
เธอหมดเปลืองเวลากับอดีตเกือบชั่วโมงในที่สุดก็ขุดตัวเองออกจากเตียง สวมแจ็กเก็ตเนื้อหนาเตรียมตะลอนเที่ยวให้ชุ่มปอดสมกับเงินที่เสียไป
จำได้ว่าครั้งก่อนที่มาเที่ยวเกาหลีใต้กับอัสนีเราพักย่านมยองดงและขึ้นรถบัสจากแถวมยองดงไปไม่กี่ป้ายแล้วข้ามถนนก็เจอลิฟต์ซึ่งนำสู่จุดขึ้นกระเช้าของนัมซานทาวเวอร์ เธอชอบทิวทัศน์สุดลูกหูลูกตาบนลานกว้างด้านบนก่อนขึ้นสู่ตัวหอคอย
แต่วันนี้เธอว่างมากจึงเดินเรื่อยเปื่อยโดยมีกูเกิลแมปนำทาง มารู้ตัวอีกทีก็อยู่ในกระเช้ากระจกทรงสี่เหลี่ยมซึ่งนำผู้โดยสารหลากหลายเชื้อชาติขึ้นสู่นัมซานทาวเวอร์แล้ว อาคารบ้านเรือนลดขนาดเล็กลงเมื่อกระเช้าเคลื่อนที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ผู้คนที่เดินออกกำลังกายในสวนสาธารณะนัมซานไม่ต่างจากฝูงมดที่คลานยั้วเยี้ย
ไม่นานกังสดาลก็เคลื่อนตามฝูงชนออกจากกระเช้าสู่ลานกว้างขนาดใหญ่ตรงฐานหอคอยนัมซานซึ่งมีร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึก และที่ขายตั๋วขึ้นหอคอยนัมซาน
อากาศวันนี้อยู่ที่ติดลบสามองศาเซลเซียส เวลาลมพัดกรูเข้ามาทีเนื้อตัวจึงหนาวสั่นจนฟันกระทบกันกึกกัก เธอเลยถือโอกาสแวะซื้อกาแฟร้อนก่อนมานั่งพักขาบนเก้าอี้ไม้ตัวยาวริมทางเดินพลางทอดสายตามองผืนฟ้ากว้างใหญ่สีครามอีกเกือบครึ่งชั่วโมง
ความร้อนจากกาแฟและเสื้อแจ็กเก็ตตัวหนาไม่อาจต้านทานลมเย็นกลุ่มใหญ่ที่พัดต่อเนื่องระลอกแล้วระลอกเล่า เธอจึงยอมยกธงขาว ตัดสินใจลงไปข้างล่างดีกว่า
ทว่าระหว่างทางลงไปยังจุดขึ้นลงกระเช้านั้นสายตาเจ้ากรรมดันเหลือบเห็นบริเวณที่หนุ่มสาวนิยมไปคล้องกุญแจคู่รักเข้าพอดี อัสนีเคยคุกเข่าขอเธอแต่งงานหน้าพวงกุญแจที่เรามาคล้องด้วยกัน
เธอเคยฝันถึงช่วงเวลาขอแต่งงานสุดโรแมนติกและอัสนีก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เธอจึงยิ้มทั้งน้ำตาพลางยื่นมือไปให้เขาสวมแหวน
‘อีหน้าด้าน!’
เสียงกรีดร้องแหลมดังแทรกห้วงเวลาแสนหวาน ปลุกกังสดาลตื่นจากความเพ้อฝันมาพบความจริงอันขมขื่น
‘มึงไม่เห็นรึไงว่ากูท้องลูกพี่อั๋น ยังหน้าด้านแย่งผัวกูอีก’
แม้เวลาผ่านมาแล้วกว่าหนึ่งเดือน แต่ความเจ็บปวดนั้นยังเสียดแทงอยู่ทุกอณูหัวใจ