เหลืออีกไม่กี่วันก็จะถึงกำหนดเดดไลน์ใช้หนี้แล้ว เหตุใดอิศยาถึงยังไม่ติดต่อมาอีก หรือมีคนยื่นข้อเสนอแบบเดียวกับเขา ปาลนิ่วหน้า คิดไม่ตก จะติดต่อไปก็เกรงว่าเป็นการคาดคั้นเธอเกินไป เลยได้แต่นั่งย่นคิ้วเคร่งเครียดตามลำพัง
เสียงเคาะประตูหน้าห้องตรวจดึงสายตาของคุณหมอไปยังประตูบานเลื่อน
“มีอะไรเหรอครับพี่แมว”
“หนูเอ๋ยฝากปิ่นโตมาให้น่ะค่ะ”
เรียวคิ้วหนาย่นเข้าหากัน จับจ้องปิ่นโตเถาเล็กสีชมพูด้วยสีหน้าฉงน
“ให้ผมเหรอครับ”
“ค่ะ หนูเอ๋ยบอกพี่ว่าฝากให้สมาชิกปิ่นโตคนใหม่ด้วย”
เงื่อนไขข้อเดียวที่เขาเรียกร้องจากว่าที่เจ้าสาวคืออาหารปิ่นโตของเธอ ถ้าเช่นนั้น…
ปาลลุกพรวด ยิ้มกว้างให้กับคำตอบของอีกฝ่ายพลางเดินไปรับปิ่นโตเถาน้อยมากุมไว้อย่างหวงแหน แววตาหลังแว่นกรอบบางเปล่งประกายระยิบระยับ รู้สึกเหมือนถูกข้าศึกตัวน้อยยิงศรรักสีชมพูพุ่งเข้ามาปักลงกลางใจอย่างไรอย่างนั้น
“เอ๋ยยังอยู่ไหมครับพี่แมว”
“กลับไปแล้วค่ะ ว่าแต่ปิ่นโตสีหวานขนาดนี้ พี่ตกข่าวอะไรรึเปล่าคะ”
พยาบาลวัยกลางคนแซวกลั้วหัวเราะ ทำเอาหมอหนุ่มขี้อายที่วันๆ อยู่กับตำรับตำราหน้าแดงก่ำ
“ไว้ผมแน่ใจแล้วจะบอกนะครับ”
“ไม่ปฏิเสธด้วย สงสัยพี่ต้องหาใบบัวบกมาให้สาวๆ แถวนี้ดื่มแก้ช้ำใจแล้วมั้งคะเนี่ย”
หมอปาลเพียงแต่ยิ้ม…ยิ้มกว้างอย่างที่พยาบาลวัยกลางคนไม่ได้เห็นบ่อยนัก
“ถ้างั้นหมอปาลไปทานข้าวเถอะค่ะ หมอนพกับหมอพลกลับมาที่ห้องตรวจแล้วทั้งคู่”
“ถ้ามีคนไข้ด่วนเรียกได้เลยนะครับ”
“ค่ะ พี่ไม่รบกวนแล้วนะคะ”
มาลัยยังไม่ทันเลื่อนประตูปิด เสียงนุ่มของหมอปาลก็แทรกขึ้นก่อน
“พี่แมวครับ”
“คะ?”
“ถ้าพรุ่งนี้ผมจะขอลาสักครึ่งวันเช้า…อืม เอาเป็นว่าผมขอลาสักชั่วโมงดีกว่า แล้วจะเข้ามาตรวจสักสิบโมง พี่แมวช่วยเลื่อนคิวให้ผมหน่อยนะครับ คือ…ธุระสำคัญน่ะครับ”
“ได้สิคะ สบายมาก หมอปาลไปทำธุระสำคัญเถอะค่ะ”
ปาลนั่งจ้องปิ่นโตสีหวานอยู่ตามลำพังเกือบนาที ก่อนถือมันติดตัวไปยังห้องพักแพทย์แล้วจัดแจงแกะปิ่นโตออกมาทีละชั้น
ปลากะพงนึ่งซีอิ๊ว…ไก่ห่อใบเตย…ต้มจืดมะระยัดไส้หมูสับ…และข้าวอัญชัน
อิศยารู้ว่าเขาไม่ชอบทานเผ็ดก็เลยทำเมนูพวกนี้มาให้รึเปล่านะ คิดแล้วก็ตัดสินใจโทรศัพท์หาเจ้าของปิ่นโตเสียหน่อย
“ฉันได้ปิ่นโตแล้วนะ ขอบใจมาก”
“เอ๋ยจำได้ว่าหมอปาลทานเผ็ดไม่ค่อยได้ ก็เลยทำเมนูนี้ให้เป็นพิเศษ”
คำว่า ‘พิเศษ’ ทำให้รอยยิ้มเบ่งบานขึ้นบนดวงหน้าหล่อเหลา การได้เป็นคนพิเศษของอิศยามันต้องรู้สึกดีขนาดนี้เชียวเหรอ
“ติชมได้นะคะ”
“อืม เดี๋ยวเย็นนี้ฉันไปบอก”
“ไม่ถึงกับต้องมาหาเอ๋ยหรอกค่ะ หมอปาลงานยุ่งไม่ใช่เหรอคะ”
“วันนี้ฉันพอมีเวลา สักหกโมงเธอคงยังไม่นอนใช่ไหม” ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง “ฉันไม่ได้จะเข้าไปในบ้าน ฉันรู้ว่ามันไม่เหมาะสม แค่เจอหน้าบ้านก็ได้”
“งั้นก็ได้ค่ะ”
“แล้วพรุ่งนี้เช้าเธอว่างไหม”
“กี่โมงคะ”
“สักเก้าโมง เธอสะดวกไหม”
“ได้ค่ะ เอ๋ยไปส่งไปรษณีย์ตอนสิบโมง หลังจากนั้นค่อยทยอยส่งปิ่นโตให้ลูกค้า”
“งั้นเย็นนี้ฉันแวะไปคุยรายละเอียดกับเธออีกทีแล้วกัน”
“ค่ะ”
อิศยาวางสายไปแล้ว แต่หัวใจของปาลไม่ได้เต้นเบาลงเลย ความรู้สึกนี้คือ ‘ความรัก’ แบบที่ใครหลายคนไขว่คว้า พยายามสุดความสามารถเพื่อให้ได้มาหรือเปล่านะ