บทที่ 6
การนอนของฮ่องเต้น้อยในครั้งนี้ออกจะหลับเพลินอยู่สักหน่อย ที่นอนนุ่มที่รองรับตัวนางอยู่ช่างเป็นของดีเสียจริง! หากมิใช่ว่าถูกอะไรกดทับร่างจนหายใจไม่ออก รับรองได้ว่านางต้องนอนอ้อยอิ่งอยู่บนที่นอนนุ่มนี้ต่ออีกสักพักหนึ่งเป็นแน่
นางหลับนานเกินไปหน่อยจนรู้สึกว่าใบหน้าอ่อนเปลี้ยอยู่บ้าง กว่าจะลืมตาขึ้นมาได้ก็ช่างยากเย็นเหลือเกิน นางจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาที่อยู่ใกล้เพียงคืบ ชั่วขณะนั้นยังสับสนคิดว่าตนคงกำลังฝันอยู่
ครั้นดึงสติคืนมาได้และประจักษ์ว่าผู้ที่หลับตาอยู่นี้คือผู้ใด เนี่ยชิงหลินถึงกับแข็งค้างไปสักพักหนึ่ง กว่าจะผ่อนลมหายใจออกมาอย่างแผ่วเบา
ได้เห็นท่านราชครูในชุดหรูหราคาดแถบรัดเอว สวมหมวกขุนนางอย่างสง่างามจนชินตา จู่ๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาก็เห็นพญายมที่มีชีวิตสวมเพียงเสื้อตัวในซึ่งคอเสื้อแบะออกเล็กน้อยนอนหลับอยู่ข้างกายตนเช่นนี้ แค่คำว่า ‘ตกตะลึง’ นี้คงไม่เพียงพอแล้ว!
เนี่ยชิงหลินเห็นว่าคนผู้นี้นอนหลับลึก นัยน์ตาหงส์ปิดสนิท ขนตาหนาเป็นแพ ถึงกระนั้นคิ้วเรียวยาวก็ยังคงขมวดมุ่นอยู่ ราวกับว่ากำลังตัดศีรษะใครสักคนที่โชคร้ายในความฝัน ท่อนแขนแข็งแกร่งราวกับเหล็กข้างหนึ่งกดทับบนเอวของนางอย่างแน่นหนา มิน่าเล่า เมื่อครู่นี้ข้าถึงได้หายใจไม่ออก
เมื่อก่อนตอนที่แอบอ่านนิยาย พออ่านถึงตอนสำคัญที่ยอดบุรุษกับโฉมงามขึ้นเตียงกัน ต่อจากนั้นเตียงก็ส่งเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด ที่มาของเสียงเอี๊ยดอ๊าดนั่นล้วนถูกม่านหนาหนักบังไว้เสียมิดชิด ที่เหลือก็ได้แต่อาศัยจินตนาการอันอ่อนด้อยของตนเองเติมเต็มเอาเท่านั้น
แต่บัดนี้ร่างกายล่ำสันบึกบึนที่บางส่วนเสื้อผ้าปกปิดได้ไม่มิดชิดปรากฏให้เห็นตรงหน้าของนาง พอมองตามรอยแยกตรงสาบเสื้อเข้าไป…กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ นั่นช่างดูแข็งแกร่งทรงพลังยิ่งนัก
นี่คือความแตกต่างระหว่างบุรุษและสตรีสินะ! เป็นเพราะท่อนแขนแข็งแกร่งทรงพลังออกแรงเขย่านี่เอง มิน่าเล่า เตียงถึงส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดได้!
เนี่ยชิงหลินขยับตัวไม่ได้ไปชั่วขณะ ทว่าความคิดในหัวกลับล่องลอยไปชั่วครู่หนึ่ง ประเดี๋ยวก็คิดว่าตอนนั้นมารดาของนางคิดอย่างไรกันถึงได้ให้นางสวมรอยเป็นพี่ชายของตนที่ตายไปก่อนวัยอันควร ยามนางเจริญวัยขึ้นเรื่อยๆ แต่กล้ามเนื้อที่บุรุษมีกันยังไม่โตเต็มที่ควรทำอย่างไรดี ประเดี๋ยวก็คิดว่านางควรผลักท่อนแขนของท่านราชครูออกไปแล้วลุกขึ้นก่อนดีหรือไม่ ไม่รู้ว่านิสัยการนอนของท่านราชครูเป็นอย่างไร จะหงุดหงิดเมื่อมีอะไรไปสะกิดปลุกให้ตื่นขึ้นมาหรือไม่
ขณะที่เนี่ยชิงหลินสองจิตสองใจอยู่นี้เอง ราชครูเว่ยก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น
เว่ยเหลิ่งเหยาเป็นคนนอนหลับไม่ลึกมาแต่ไหนแต่ไร ยากนักที่วันนี้เขาจะหลับอย่างสบายใจรวดเดียวเช่นนี้ได้
ตอนที่ฮ่องเต้น้อยในอ้อมแขนของเขาตัวแข็งทื่อ เขาก็ตื่นแล้วเช่นกัน ขุนนางเข้มแข็งแต่ฮ่องเต้อ่อนแอ เขาไม่ได้เตะเจ้าเด็กหนุ่มนี่ตกเตียงเสียหน่อย การปล่อยให้อีกฝ่ายได้นอนร่วมเตียงกับขุนนางของตนเองนับว่าเป็น ‘เรื่องราวดีๆ’ ตอนหนึ่งของขุนนางทรงคุณธรรมเชียวนะ เพียงแต่ไม่รู้ว่าฮ่องเต้น้อยจะมีอาการตอบสนองอย่างไร ใครจะไปรู้ว่าคนในอ้อมแขนตื่นตั้งนานแล้วกลับเอาแต่นอนนิ่งๆ ไม่ขยับเขยื้อนตัวสักนิดเลยด้วยซ้ำ
เขาปรือตาขึ้นเล็กน้อยก็เห็นว่าดวงตากลมโตของฮ่องเต้น้อยในอ้อมแขนเบิกกว้าง มองลอดเข้าไปในสาบเสื้อของเขาที่แบะออกด้วยสายตาหลุกหลิก
เว่ยเหลิ่งเหยาขบขันอยู่ในใจ เหตุใดเขาถึงลืมไปว่าฮ่องเต้น้อยพระองค์นี้เป็นคนที่ส่วนนั้นใช้การไม่ได้ อายุสิบห้าหากเป็นองค์ชายองค์อื่นๆ ป่านนี้คงมีนางกำนัลที่รอบรู้มาปรนนิบัติรับใช้ ช่วยปลดปล่อยความต้องการส่วนตนให้ตั้งแต่แรกแล้ว