ผิงชวนอ๋องเป็นคนขี้ขลาดไม่กล้าก่อปัญหาใดมาแต่ไหนแต่ไร ต่อให้อ๋องศักดินาคนอื่นๆ ฝ่าฝืนคำสั่งไม่ยอมส่งภาษี แต่ผิงชวนอ๋องกลับส่งภาษีตรงเวลาเสมอ น่าเสียดายที่เขาเป็นอ๋องศักดินาในพื้นที่ที่ยากจน ภาษีที่เขาเก็บได้นั้นน้อยนิด เปรียบเสมือนน้ำถ้วยหนึ่งที่ไม่อาจช่วยดับไฟได้
หลังจากประชุมราชสำนักเสร็จสิ้น เนี่ยชิงหลินนั่งจนรู้สึกปวดหลังไปหมด วันนี้ราชครูเว่ยกลับดูมีชีวิตชีวายิ่ง ทั้งยังแสดงความเมตตาสั่งนางว่าไม่ต้องไปที่ห้องตำราอีก นางสามารถตรงกลับไปยังตำหนักชั้นในได้เลย ไปอยู่เล่นเป็นเพื่อนบุตรชายวัยเยาว์สายตรงของผิงชวนอ๋องสักพักหนึ่ง จะได้ผูกสัมพันธ์ใกล้ชิดในหมู่ราชวงศ์ด้วยกัน
เนื่องจากร่างกายของผิงชวนอ๋องไม่ดีนัก มีบุตรค่อนข้างช้า เนี่ยจงที่เป็นบุตรชายสายตรงเพียงคนเดียวของผิงชวนอ๋องจึงมีอายุยังไม่ถึงเจ็ดขวบดี ท่าทางของเด็กน้อยฉลาดเฉลียว ดูแข็งแรง และน่ารักน่าเอ็นดูยิ่งนัก ผมฟูฟ่องถูกมัดเป็นมวยเล็กๆ เกล้าไว้บนศีรษะที่ค่อนข้างโตเล็กน้อย รัดด้วยระฆังทองคู่ ทำให้เกิดดังเสียงกริ๊งๆ เวลาเดิน ร่างกลมตุ้ยนุ้ยอยู่ในเสื้อคลุมปักลายสีทองตัวน้อย มองแวบแรกก็รู้ทันทีว่าเป็นคุณชายน้อยสูงศักดิ์ที่ได้รับความรักใคร่เอ็นดูคนหนึ่ง
หลังจากเขาคารวะฮ่องเต้น้อยภายใต้การชี้แนะของแม่นมแล้วก็พูดเจื้อยแจ้วด้วยเสียงของเด็กน้อยว่า “ได้ยินท่านพ่อบอกว่ากระหม่อมเป็นเสด็จอาเล็กของฮ่องเต้…ถูกต้องหรือไม่”
เนี่ยชิงหลินดึงตัว ‘เสด็จอาเล็ก’ มาอยู่ข้างๆ แล้วลูบแก้มป่องๆ ของอีกฝ่ายพลางเอ่ย “ถึงแม้เสด็จอาจะอายุน้อย แต่ตามศักดิ์แล้วแก่กว่าเราหนึ่งรุ่นจริงๆ”
เมื่อเด็กน้อยได้ยินว่าตนมีศักดิ์แก่กว่าฮ่องเต้ก็ยิ้มกว้างอย่างมีความสุขทันที
โชคดีที่ขันทีของกองงานฝ่ายในส่งของเล่นแปลกตาประณีตหลายชิ้นมาให้เมื่อวานนี้ เนี่ยชิงหลินจึงนำมาสร้างความเพลิดเพลินแก่เสด็จอาเล็กได้อย่างเหมาะสม รอจนเสด็จอาเล็กเล่นเหนื่อยแล้ว เนี่ยชิงหลินก็สั่งเมล็ดแตงมาให้กิน เอ่ยถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “เสด็จอาเล็กเริ่มเรียนรู้ตัวอักษรหรือยัง”
เสด็จอาเล็กพยักหน้าหงึกๆ “ทูลฝ่าบาท กระหม่อมสี่ขวบก็เข้าเรียนฝากตัวเป็นศิษย์มีอาจารย์แล้วพ่ะย่ะค่ะ”
เนี่ยชิงหลินสุ่มหยิบหนังสือพงศาวดารมาเล่มหนึ่งแล้วเปิดไปหน้าที่มีแผนที่ นางกินเมล็ดแตงพลางชี้คำที่อยู่บนนั้นเพื่อทดสอบซื่อจื่อน้อย
หลังสนทนากันไปสักพัก ฮ่องเต้น้อยก็ถามด้วยรอยยิ้ม “เราอยากทดสอบเสด็จอาเล็กดูสักหน่อยว่ารู้หรือไม่ว่าที่ดินศักดินาของท่านพ่อเจ้าอยู่ที่ใด”
เด็กน้อยพยักหน้าหงึกๆ แล้วชี้ไปยังพื้นที่แคบๆ พร้อมพูดว่า “ท่านพ่อบอกว่าต่อไปในภายหน้าพื้นที่พวกนี้ล้วนเป็นที่ดินศักดินาของกระหม่อม!”
เนี่ยชิงหลินมองตามนิ้วมือป้อมๆ ของอีกฝ่ายพลางพยักหน้าและคิดในใจว่าเสด็จอาเล็กโชคดีจริงๆ พื้นที่ตรงนั้นเป็นพื้นที่ที่ดีแห่งหนึ่งจริงๆ พื้นที่นั้นมีลักษณะยาวและแคบ ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่ป้องกันถนนสายหลักได้ ตราบใดที่มีพื้นที่แห่งนี้อยู่ ที่ดินของผิงซีอ๋องที่อยู่ด้านข้างนั่นก็ตกอยู่ในวงล้อมเหมือนตะพาบแก่ในไหที่ถูกเคี่ยวอย่างช้าๆ จนกลายเป็นน้ำแกงบำรุงชั้นดี นางได้แต่หวังว่าน้ำแกงหม้อนี้จะสามารถเคี่ยวให้ร้อนอีกสักหน่อยพอให้ราชครูเว่ยค่อยๆ ละเลียดดื่มมันได้ หาไม่แล้วพอใต้หล้าสงบสุข เนื้อสดแสนไร้ประโยชน์อย่างนางคงต้องถูกตุ๋นในหม้อด้วยเป็นแน่
ราชครูเว่ยไม่ทราบถึงความหวั่นวิตกในใจฮ่องเต้น้อยที่เกรงว่าตนเองจะถูกจับไปทำน้ำแกง ในเวลานี้เขากำลัง ‘คัดแยกถ่าน’ สำหรับตุ๋นน้ำแกงตะพาบอยู่ในห้องตำรา
ผิงชวนอ๋องที่ป่วยกระเสาะกระแสะนั่งอยู่บนเก้าอี้บุนวมนุ่มๆ ด้วยสีหน้าลังเลอยู่บ้าง “ถึงอย่างไรผิงซีอ๋องก็เป็นหลานชายของข้า ท่านราชครูอยากลงโทษเขาโทษฐานหลอกลวงเบื้องสูง อ๋องอย่างข้าย่อมไม่สะดวกออกความเห็น เสือสองตัวต่อสู้กัน ผู้ชนะย่อมเป็นผู้นำฝูงเป็นธรรมดา แต่หากท่านราชครูขอให้ข้าออกหน้าปิดเส้นทางซึ่งถือเป็นเส้นทางสำคัญของเขา นี่…นี่อาจทำให้คนสกุลเนี่ยดูถูกเหยียดหยามข้าเอาได้!”