“ไว้เล็บเสียยาวถึงเพียงนี้ พักนี้องค์หญิงทรงไม่ได้ร่วมประชุมราชสำนักเลยหรือพ่ะย่ะค่ะ” ราชครูเว่ยมองจนหนำใจแล้วก็พลันถามขึ้น
เนี่ยชิงหลินอ่อนเพลียและไร้เรี่ยวแรงแล้วในเวลานี้ แต่ราชครูเว่ยยังอุตส่าห์สั่งให้คนไปเตรียมผ้าอุ่นๆ มาเพื่อจะเช็ดตัวให้นางก่อนถึงค่อยให้นางนอนได้ พอได้ยินราชครูเว่ยถามขึ้นมาเช่นนี้ นางก็ตอบอย่างงัวเงียว่า “ท่านอัครมหาเสนาบดีเก่งกาจ ไม่จำเป็นต้องให้ข้ากังวล…” พูดจบก็พลิกตัวให้แล้วผล็อยหลับไปในไม่ช้า
เว่ยเหลิ่งเหยาขมวดคิ้วเล็กน้อย กระทั่งทางห้องนั้นเปลี่ยนผ้าปูเตียงเรียบร้อยแล้ว เขาก็ไม่มีความคิดที่จะปลุกนาง กลับเช็ดตัวให้นางอย่างเบามือแล้วอุ้มนางกลับไปวางบนเตียงนุ่ม ก่อนจะจุมพิตเบาๆ ที่ใบหน้าเล็กๆ ที่กำลังหลับพริ้มนั่น แล้วจึงเรียกซั่นหมัวมัวกลับมาที่ห้องตำรา
ซั่นหมัวมัวนำกระดาษข้อความที่เพิ่งได้รับมาเมื่อวานนี้มอบให้ราชครูเว่ย “บ่าวมีความผิด เพราะมั่นใจว่าสารที่พิราบสื่อสารส่งมานั้นต้องเป็นท่านราชครูลงมือเขียนเองแน่ จึงไม่ได้ตรวจสอบให้ละเอียดก่อนที่จะนำกระบอกจิ๋วที่นกพิราบส่งมามอบให้แก่องค์หญิง พอองค์หญิงทรงได้อ่านแล้วก็ดูท่าทางวุ่นวายใจอยู่บ้าง คาดว่าน่าจะตกใจกลัวอะไรบางอย่างเจ้าค่ะ”
สีหน้าของราชครูเว่ยซึ่งผ่อนคลายจากความอิ่มเอมใจเมื่อครู่นี้กลับเคร่งเครียดขึ้นมาทันที มิน่าเล่ากั่วเอ๋อร์ถึงได้มีอาการหวาดกลัวต่อความมืดอย่างรุนแรงเพียงนั้น เสียงร้องตะโกนของนางก็สั่นสะท้าน คงถูกเจ้าโจรเก๋อทำให้ตกใจกลัวเข้าแล้วจริงๆ!
เขาย่อมรู้ดีว่ากั่วเอ๋อร์ของเขาดีเพียงใด แต่เจ้าเก๋อชิงหย่วนนั่นคู่ควรหรือไร! หากไม่รีบจับตัวเจ้าเก๋อชิงหย่วนนั่นมาให้เร็วที่สุดแล้วสับมันเป็นพันๆ ชิ้น คงยากที่จะระบายความแค้นในใจลงได้!
หลังจากฉีกกระดาษข้อความนั่นจนแหลกเป็นชิ้นๆ แล้ว ราชครูเว่ยก็ถามซั่นหมัวมัวถึงเรื่องราวน้อยใหญ่ภายในวังช่วงที่เขาไม่อยู่ จากนั้นก็โบกมือให้นางออกไปได้ ก่อนจะค่อยๆ เดินกลับไปที่ห้องนอนและกลับขึ้นเตียงอีกครั้ง
เพราะรู้ว่านางได้รับความตระหนก เขาจึงเคลื่อนไหวด้วยความอ่อนโยนยิ่งขึ้น เกรงว่านางจะหลับไม่สนิทแล้วถูกเขาทำให้ตกใจจนฝันร้าย แต่ใครจะรู้ว่าพอเขาเพิ่งล้มตัวลงนอนเท่านั้น ร่างอรชรกลับเขยิบเข้ามาใกล้โดยไม่รู้ตัว ทั้งยังเอาใบหน้าเล็กๆ มาถูไถกับแผงอกของเขาก่อนจะหลับต่อไปอีกต่างหาก
จู่ๆ หัวใจของเว่ยเหลิ่งเหยาก็อ่อนยวบลงทันที แม้กั่วเอ๋อร์น้อยจะไม่เข้าใจความรักระหว่างชายหญิง แต่เขาก็ค่อยๆ กลายเป็นคนที่ทำให้นางมั่นใจได้แล้วสินะ ถึงแม้จะถูกมองว่าเป็น ‘พี่ชาย’ แต่…ก็ไม่เลว อย่างน้อยในหัวใจของกั่วเอ๋อร์ตอนนี้ก็ไม่มีใครสามารถเหนือไปกว่าเขาที่อยู่ในฐานะ ‘พี่ชาย’ ซึ่งสามารถปกป้องนางจากลมและฝนได้ ไม่รู้ว่าเหตุการณ์นองเลือดในวังยังทิ้งรอยแผลไว้ในใจนางอยู่มากน้อยเพียงใด แต่ต่อไปในภายภาคหน้าเขาจะไม่ยอมให้หัวใจอันอ่อนโยนในอ้อมแขนนี้ต้องเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย…
การเร่งรุดเดินทางโดยไม่หยุดพักตลอดหลายวันติดต่อกันที่ผ่านมาทำให้เว่ยเหลิ่งเหยารู้สึกเหน็ดเหนื่อย วันรุ่งขึ้นท่านราชครูตื่นสายกว่าปกติอยู่สักหน่อย แต่ยังไม่ทันได้ลืมตาเขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล จึงปรือตาขึ้นเล็กน้อยเพื่อเหลือบดูสักนิด แล้วก็เห็นว่าองค์หญิงหย่งอันลุกขึ้นจากที่นอนแล้ว เสื้อผ้าเนื้อบางบนตัวนางยังสวมใส่ไม่ค่อยเรียบร้อย เผยให้เห็นไหล่นวลเนียนครึ่งหนึ่ง นางกำลังคุกเข่าตรงหว่างขาของเขา ผมยาวหนาของนางหลุดลุ่ยลงมาจากบ่าข้างหนึ่ง ใบหน้าเล็กก้มเข้ามาที่หว่างขาจนปอยผมด้านข้างระลงมาบนขาของเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้รู้สึกจั๊กจี้จนก่อให้เกิดความรู้สึกเสียวกระสันคึกคักขึ้นทันที
เนี่ยชิงหลินพอตื่นขึ้นมาในตอนเช้าก็นึกถึงอาการบาดเจ็บที่โคนขาของราชครูเว่ยขึ้นมาได้ ด้วยความสงสัยใคร่รู้ว่าแผลที่ถูกงูกัดนั้นรุนแรงเพียงใด จึงฉวยจังหวะที่ราชครูเว่ยยังหลับอยู่ขอดูสักหน่อย…ท่านราชครูนี่ช่างหน้าไม่อายจริงๆ นอนทั้งที่ไม่สวมกางเกงนอนเสียด้วย แต่เช่นนี้ก็ทำให้เห็นแผลได้ชัดเจนดีเหมือนกัน…รอยเขี้ยวงูลึกเอาการ จนถึงตอนนี้แผลก็ยังไม่หายดีเลยนี่ น้ำลายขององค์หญิงแห่งหนานเจียงเป็นยารักษาบาดแผลอย่างดีไม่ใช่หรือ ไฉนจึงใช้ได้ผลกับใบหน้า แต่พอใช้กับโคนขากลับไม่ได้ผลเสียแล้วเล่า ท่านราชครูนี่ก็จริงๆ เลย ขนาดนอนหลับอยู่ยังมีอาการตอบสนองเสียด้วย แล้วตอนที่องค์หญิงฉี่เคอผู้นั้นรักษาบาดแผลให้ไม่รู้ว่าค่อยๆ ผงาดง้ำขึ้นมาเช่นนี้ด้วยหรือไม่
“เมื่อคืนนี้กั่วเอ๋อร์มองเห็นไม่ชัดล่ะสิ เช้านี้เลยจะทักทายมันเป็นการชดเชยใช่หรือไม่” จู่ๆ ราชครูเว่ยก็ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเอื่อยเฉื่อย
เนี่ยชิงหลินตกใจจนตั้งตัวไม่ทัน รีบยืดตัวขึ้นมาด้วยท่าทีลนลาน เมื่อหวนนึกถึงภาพค่อนข้างอุจาดตาเมื่อครู่นี้แล้วใบหน้าก็แดงเรื่อทันที “ได้ยินว่าท่านราชครูได้รับบาดเจ็บมาก็เลยอยากดูแผลสักหน่อย…หากเป็นเพราะข้าทำให้ท่านราชครูตื่น ท่านก็นอนต่ออีกสักหน่อยเถิด”
“ลมหายใจขององค์หญิงหอมละมุนราวกับดอกกล้วยไม้ ทำให้จิตใจของกระหม่อมพลุ่งพล่านคึกคัก เมื่อคืนนี้ยังไม่เต็มอิ่มเลย ขอองค์หญิงโปรดทรงเมตตาต่ออีกสักหน่อยเถิดพ่ะย่ะค่ะ…” พูดพลางใบหน้าของราชครูเว่ยก็ปรากฏรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ พร้อมกับเหยียดแขนยาวออกไปรั้งตัวองค์หญิงเข้ามาในอ้อมอกโดยไม่ลังเล ทันใดนั้นม่านก็ไหวพะเยิบพะยาบ เสียงครางหวานของหญิงสาวถูกกระตุ้นจนหอบกระเส่า…