ทดลองอ่าน เชิดรักมังกรซ่อนเงาหงส์ บทที่ 82-83 – หน้า 8 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน เชิดรักมังกรซ่อนเงาหงส์ บทที่ 82-83

หลังจากขลุกอยู่ในตำหนักเฟิ่งฉูมาสองวัน ในที่สุดราชครูเว่ยที่ล่วงหน้ามาก่อนที่กองทัพใหญ่จะเดินทางมาถึงก็ออกจากเมืองอย่างลับๆ กลับเข้าไปร่วมกับกองทัพเพื่อร่วมพิธีรับมอบรางวัลแก่ทหาร

ชิวหมิงเยี่ยนยืนเคียงข้างฮ่องเต้อยู่หน้าประตูเมือง รอคอยกองทัพเข้าเมืองมา เขาแอบมองฮ่องเต้ที่ไม่ได้พบกันมานาน สังเกตเห็นได้ว่าพระองค์ดูเหมือนจะป่วยจริงๆ ขอบใต้ตาคล้ำอยู่สักหน่อย คล้ายนอนไม่พอ เมื่อครู่ตอนขึ้นบันไดก็โซเซจนเกือบล้ม บังเอิญว่าเขาอยู่ข้างๆ พอดีจึงเร็วกว่าหยวนกงกงหนึ่งก้าว รีบเข้าไปประคองฮ่องเต้ไว้ได้ทันท่วงที ตอนที่ประคองเอวของฮ่องเต้นั้นกลิ่นหอมจางๆ ก็ลอยมาระลอกหนึ่ง ความรู้สึกอันนุ่มนวลนั้นทำให้ชิวหมิงเยี่ยนครุ่นคิดเล็กน้อย ต่อให้ฮ่องเต้ไม่ถนัดเรื่องการต่อสู้ แต่เอวจะบางถึงเพียงนี้ได้อย่างไร หากรั้งเข้ามาในอ้อมแขน…ก่อนที่เขาจะคิดเตลิดไปไกล ฮ่องเต้ก็เบี่ยงตัวออกจากวงแขนของเขาโดยไม่แสดงสีหน้าใดๆ

“ใต้เท้าชิวทุ่มเทจริงๆ ปล่อยมือเถิด!” เมื่อรู้สึกได้ว่าแรงแขนที่โอบอยู่ที่เอวกระชับเพิ่มมากขึ้น เนี่ยชิงหลินจึงเอ่ยขึ้นพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย

ชิวหมิงเยี่ยนหน้าเฝื่อนไปถนัดใจ เมื่อรู้ว่าตนเองทำเลยเถิดไปจึงรีบปล่อยมือ จู่ๆ ในใจก็รู้สึกอึดอัดคับข้อง จึงพูดอย่างเย็นชาว่า “วันนี้มีพิธีมอบรางวัลแก่ทหาร เมื่อวันก่อนกระหม่อมได้กำชับหยวนกงกงให้ทูลฝ่าบาทแล้ว เหตุใดวันนี้ฝ่าบาทจึงยังทรงตื่นบรรทมสายได้พ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้ล่าช้าไปมากแล้ว กองทัพใหญ่รอฝ่าบาท หยุดรถม้ารออยู่หนึ่งชั่วยามเต็มๆ แล้ว! หากมัวชักช้าทำให้ท่านราชครูต้องคอยอยู่อย่างนี้ เกรงว่าจะไม่ค่อยเหมาะนะพ่ะย่ะค่ะ”

เนี่ยชิงหลินรู้สึกปวดเมื่อยทั้งเอวและขา กว่าจะปีนขึ้นไปบนกำแพงเมืองได้ก็แสนลำบากยากเย็น นางนั่งลงบนเก้าอี้ที่หยวนกงกงยกมาให้ทันที หลังได้ยินคำตำหนิของอัครมหาเสนาบดีชิวนางก็สูดหายใจเข้าลึกแล้วพูดว่า “พักนี้เราป่วยและอ่อนเพลียมาก คิดว่าท่านราชครูคงให้อภัย ท่านอัครมหาเสนาบดีเริ่มพิธีเลยเถอะ เราปวดเอว ทนนั่งได้ไม่นานหรอก!”

ชิวหมิงเยี่ยนไม่รู้ว่าทุกคำพูดของเนี่ยชิงหลินเป็นเรื่องจริงที่แสนเจ็บปวด เขารู้สึกเพียงว่าความหยิ่งยโสโอหังของฮ่องเต้น้อยยิ่งยกระดับขึ้นไปอีกขั้นแล้ว น้ำเสียงของฮ่องเต้มิได้สนใจไยดีต่อความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของราชครูเว่ยเลยสักนิด! เขาโมโหเสียจนไฝแดงตรงหว่างคิ้วถูกขมวดเข้าหากันอีกครั้ง

ในเวลานี้เองกองทัพที่ได้รับชัยชนะก็ผ่านประตูเมืองเข้ามา ผู้คนที่ยืนรออยู่สองข้างทางตั้งแต่เช้าต่างพากันดีใจส่งเสียงชื่นชม พร้อมตะโกนเรียกชื่อติ้งกั๋วโหวและกองทัพธงดำดังลั่นสลับกันไปมา

กระทั่งราชครูเว่ยปรากฏตัวในชุดทหารบนหลังม้าตัวสูงใหญ่ เสียงโห่ร้องยินดีก็ดังกึกก้องสุดขีด

เนื่องจากการปราบปรามหนานเจียงให้สงบราบคาบมีความสำคัญอย่างยิ่ง และตัวเขาเองก็จากเมืองหลวงไปนาน จึงทำให้หัวใจของคนที่หวั่นไหวต่อเขาอยู่แล้วยิ่งหวั่นไหวทวีคูณขึ้นไปอีก ยากนักที่ราชครูเว่ยจะสวมชุดเกราะสีทองนี้ ชุดเกราะนี้เป็นของขวัญที่ฮ่องเต้พระองค์ก่อนเตรียมไว้อย่างพิถีพิถันเพื่อฉลองครบรอบวันพระราชสมภพปีที่สี่สิบของบิดาเมื่อครั้งที่พระองค์ยังเป็นองค์รัชทายาท ชุดเกราะนี้ได้เชิญช่างวาดที่มีชื่อเสียงและช่างฝีมือผู้มีทักษะจากต้าเว่ยมาร่วมกันทำด้วย ใช้เวลากว่าสามปีจึงจะเสร็จสมบูรณ์ แต่ยังไม่ทันเสร็จสมบูรณ์ดีฮ่องเต้รุ่นที่สองแห่งต้าเว่ยก็สวรรคตเสียก่อน ตอนนี้ราชครูเว่ยสวมชุดเกราะนี้ก็ไม่มีผู้ใดกล้าวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมแต่อย่างใด เพราะเมื่อวานนี้ฮ่องเต้มีรับสั่งให้นำชุดเกราะมังกรทองคำนี้จากท้องพระคลังมามอบให้แก่ติ้งกั๋วโหว พระมหากรุณาธิคุณเช่นนี้ต่อให้เป็นขุนนางเก่าแก่ก็ไม่อาจวิพากษ์วิจารณ์ได้

เมื่อท่านราชครูขึ้นไปบนหอคอยแล้วนั้น ชิวหมิงเยี่ยนก็รีบคุกเข่าลง “ยินดีต้อนรับราชครูเว่ยกลับสู่ราชสำนักขอรับ ชิวหมิงเยี่ยนปฏิบัติภารกิจตามที่ได้รับมอบหมายจนลุล่วงไปด้วยดี รอคอยการกลับมาอย่างมีชัยของท่านราชครูขอรับ”

แต่พอพูดจบแล้วเงยหน้าขึ้นมองอีกครั้งก็ถึงกับตะลึงงัน เป็นทหารชาวหมานบ้าระห่ำคนใดกันที่ติดอาวุธร้ายกาจ ทำร้ายใบหน้าของท่านราชครูได้ รอยขีดข่วนพวกนั้นช่างเหมือน…รอยเล็บแมวข่วนเลยนี่!

ราชครูเว่ยมองไปที่คนสนิทของเขาและพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม แม้ช่วงนี้จะไม่ได้อยู่ในราชสำนัก แต่เรื่องราววุ่นวายในราชสำนักก็ยังมาถึงหูของเขา ชิวหมิงเยี่ยนผู้นี้เป็นคนที่มีพรสวรรค์อย่างยิ่ง ในช่วงที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นปัญหาอุทกภัยในคลองส่งน้ำหรือการจัดหาเสบียงล้วนถูกวางแผนและดำเนินการอย่างเหมาะสมเรียบร้อย เดิมทีเขายังกังวลว่าชิวหมิงเยี่ยนอาจมีนิสัยแข็งกร้าวเกินไปหลังจากอยู่ในค่ายทหารมาเป็นเวลานาน แต่นอกจากเรื่องที่ชิวหมิงเยี่ยนสั่งจับตัวผู้อาวุโสอู๋เจ้าปัญหาไปขังอยู่ไม่กี่วันแล้วก็ปล่อยตัวออกมาแล้วนั้น ความสัมพันธ์กับเหล่าขุนนางคนอื่นๆ โดยรวมก็นับว่าเข้ากันได้ดี ถือว่าเป็นบททดสอบที่มีค่าสำหรับชิวหมิงเยี่ยน หากได้เวลาเพิ่มเติมในการฝึกฝน ชิวหมิงเยี่ยนย่อมกลายเป็นบุคคลที่สามารถแบกรับภารกิจสำคัญยิ่งในอนาคตได้อย่างแน่นอน…

ครั้นคิดดังนี้ราชครูเว่ยก็หันไปมองคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้พนักบุนวมผู้นั้น แม้ฮ่องเต้น้อยจะสวมชุดพิธีการอันโอ่อ่า แต่กลับนั่งสัปหงกเหมือนไก่จิกเมล็ดข้าว ไม่ได้รู้เลยสักนิดว่าเว่ยเหลิ่งเหยาขุนนางทรงอำนาจแห่งต้าเว่ยได้ขึ้นไปบนหอคอยแล้ว

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ชาตินี้ข้าจะรักท่านให้มาก

ทดลองอ่าน ชาตินี้ข้าจะรักท่านให้มาก บทที่ 67-68

บทที่ 67 ถึงจะเป็นช่วงพักกลางวัน ทว่าหวาหยางกลับไม่อาจข่มตาหลับ นางนอนอยู่บนเตียงร่วมกับชีฮองเฮา ประเดี๋ยวก็พูดจาอิงแอบอ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน สานวาสนากับท่านอาของอดีตคู่หมั้น บทที่ 71-73

บทที่ 71 จีเสวียนเค่อใช่ว่าจะมีวรยุทธ์เก่งกาจ ทว่าเขาพาคนมามากมาย คนจากสำนักบูรพาเห็นสถานการณ์ไม่สู้ดีนักจึงล่าถอยอย่างร...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน สานวาสนากับท่านอาของอดีตคู่หมั้น บทที่ 80-81

บทที่ 80 เสียงของกู้เจี้ยนหลีค่อยๆ เบาลงเรื่อยๆ ถึงท้ายประโยคก็แทบไม่ได้ยินแล้ว นางก้มหน้าลง มือกำชายเสื้ออย่างเก้อกระดา...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน สานวาสนากับท่านอาของอดีตคู่หมั้น บทที่ 74-76

บทที่ 74 กู้เจี้ยนหลีละล่ำละลักพูด “หากยังไม่กลับอีกจะสายเกินไปแล้ว ท่านพ่อ ครั้งหน้าลูกจะไปเยี่ยมที่จวนอ๋องนะเจ้าคะ จี้...

community.jamsai.com